News

Italjet Dragster 700 Twin แดร็กสเตอร์สมรรถนะสูง ผสานศิลปะอิตาเลียน

หลายคนอาจคุ้นชินกับสกู๊ตเตอร์ที่ขี่ง่าย ๆ ฟีลลิ่งนุ่ม ๆ เหมาะกับการใช้งานในเมือง แต่สำหรับแดร็กสเตอร์สายพันธุ์อิตาเลียนอย่าง Italjet Dragster 700 Twin จะทำให้คุณเปลี่ยนมุมมองไปเลย เพราะมันไม่ใช่สกู๊ตเตอร์แบบที่คุ้นเคย แต่มันคือแดร็กสเตอร์ที่ผสมผสานระหว่างความแรงแบบบิ๊กไบค์กับความสะดวกสบายในคันเดียว

Italjet Dragster 700 Twin

ขุมพลังของ Italjet Dragster 700 Twin ใช้เครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ความจุประมาณ 692 ซีซี พร้อมระบบ DOHC 4 วาล์วต่อสูบ ให้พละกำลังสูงสุดราว 68 แรงม้า ที่ 8,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 70 นิวตันเมตร ตัวเลขนี้ถ้าเปรียบเทียบก็ไม่แพ้สปอร์ตไบค์หลายรุ่นเลย เรียกได้ว่าเป็นแดร็กสเตอร์ที่จัดจ้านอย่างแท้จริง

สิ่งที่แตกต่างจากสกู๊ตเตอร์ทั่วไปอีกจุด คือ ระบบส่งกำลัง เพราะใช้เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ไม่ได้เป็นสายพานแบบ CVT เหมือนสกู๊ตเตอร์ นี่แหละที่ทำให้ฟีลลิ่งขี่ใกล้เคียงกับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์มากกว่า ทั้งจังหวะเปลี่ยนเกียร์และการตอบสนองของเครื่องยนต์ ให้การขับขี่เร้าใจ ขับสนุกขึ้น ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บนมอเตอร์ไซค์จริง ๆ มากกว่า

Italjet Dragster 700 Twin

เรื่องช่วงล่างและระบบเบรกก็จัดเต็มไม่แพ้ใคร โช้คหน้าแบบหัวกลับ (USD) ของ Marzocchi ช่วยเพิ่มความมั่นคงและซับแรงกระแทกได้ดี ส่วนโช้คหลังเป็นของ Öhlins ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพ ติดตั้งกันสะบัดจากโรงงานให้มาครบ เบรกคู่หน้าขนาดใหญ่พร้อมคาลิปเปอร์ Brembo และระบบ ABS ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการหยุดรถ ยางหน้าขนาด 120/70-R15 และยางหลังขนาด 160/60-R15 สัดส่วนแบบนี้ทำให้เกาะถนนได้ดีทั้งในเมืองและทางไกล

ดีไซน์ก็ยังคงสไตล์ “โครงเปลือย” ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Italjet โชว์งานออกแบบที่ดุดันและล้ำสมัย สำหรับรุ่น Factory Limited Edition ยังจัดหนักด้วยของแต่งพิเศษ เช่น ท่อ Akrapovič กันสะบัด Öhlins ฝาครัตช์เล็กของ DucaBike และสีพิเศษที่ทำให้ตัวรถดูโดดเด่นยิ่งขึ้น

ที่สำคัญรุ่น Factory Limited Edition ของ Dragster 700 Twin ผลิตเพียง 700 คันทั่วโลกเท่านั้น ราคาอยู่ที่ 14,900 ยูโร หรือประมาณ 587,000 บาท ถือว่าเป็นราคาที่สะท้อนทั้งความพิเศษ จำนวนจำกัด และคุณภาพงานประกอบระดับพรีเมียม

Dragster 700 Twin คือรถแดร็กสเตอร์ที่แตกต่างจากรถทั่วไปอย่างสิ้นเชิง เพราะมันให้ทั้งแรงม้า ฟีลลิ่ง และสมรรถนะใกล้เคียงบิ๊กไบค์ แต่ยังคงให้ความสะดวกสบายไม่แพ้ใคร จึงเหมาะกับคนที่อยากได้รถที่ให้ทั้งความแรง เทคโนโลยีล้ำ ๆ และไม่เหมือนใครบนท้องถนน โดยเฉพาะถ้าได้รุ่น Factory Limited Edition ก็ยิ่งเพิ่มความพิเศษในทุก ๆ ด้าน

 

 

 

เรื่อง : ธราภณ วชิระธรกุล

เรียบเรียงข้อมูลโดย : Motorcycle Magazine

ติดตามข่าวสารยานยนต์ในรถใหม่ได้ที่  Motorcycle Magazine

Related Articles

Back to top button