2026 Honda CRF300F รถออฟโรดสายลุยรุ่นใหม่ ระบายความร้อนด้วยอากาศ

Honda เตรียมนำเจ้า CRF300F รุ่นใหม่ล่าสุดส่งตรงจากบราซิลไปยังตลาดสหรัฐฯ สำหรับปี 2026 โดยนี่ถือเป็นการกลับมาของรถออฟโรดแนวคลาสสิกที่ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ ซึ่งห่างหายจากตลาดอเมริกามานานพอสมควร
2026 Honda CRF300F เปิดตัวครั้งแรกในบราซิลเมื่อเดือนที่แล้ว ที่งาน Festival Interlagos ในเซาเปาโล ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอีเวนต์ใหญ่สำหรับสายมอเตอร์ไซค์ในภูมิภาคละตินอเมริกา และล่าสุดก็มีข้อมูลจากแหล่งข่าวต่างประเทศระบุว่าเจ้าCRF300F ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการทรัพยากรทางอากาศแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย (CARB) แล้ว นั่นหมายความว่ามันมีลุ้นเข้าร่วมไลน์อัปของ Honda USA ในฐานะโมเดลปี2026 แน่นอน
แม้ชื่อรุ่นจะดูเหมือนเป็นพี่น้องกับ CRF300L ที่ใช้เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ แต่ความจริงแล้วCRF300F ตัวใหม่นี้ มาในแนวทางที่ต่างออกไป เพราะมันใช้เครื่องยนต์ 1 สูบ ขนาด 293 ซีซี หัวฉีดเชื้อเพลิง ระบายความร้อนด้วยอากาศล้วนๆ ซึ่งต่างจากรุ่นที่ขายในอเมริกาทั้งหมดในปัจจุบัน
เครื่องยนต์บล็อกนี้แฟนชาวบราซิลคงคุ้นเคยกันดี เพราะเคยใช้มาแล้วในหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น CRF300F Twister (เนคเก็ต), XR300L Tornado (ดูอัลสปอร์ต) และ Sahara 300 (แอดเวนเจอร์) โดยในบราซิลเครื่องยนต์นี้สามารถใช้ได้ทั้งน้ำมันเบนซินและเอทานอล แต่คาดว่ารุ่นที่ส่งออกไปสหรัฐฯ จะใช้แค่น้ำมันเบนซินเท่านั้น
ด้านพละกำลัง เคลมไว้ประมาณ 24 แรงม้าที่ 7,500 รอบ/นาที และแรงบิด 27 นิวตันเมตรที่ 5,750 รอบ/นาที พร้อมเกียร์ 6 สปีด ซึ่งถือว่าแรงพอตัวสำหรับสายเข้าป่า ขึ้นเขา
แม้จะยังไม่มีข้อมูลแบบละเอียดจากฝั่งอเมริกา แต่จากคลิปวิดีโอจากงานเปิดตัวในบราซิล ก็พอจะเดาได้ว่ารุ่นใหม่นี้มาพร้อมโช้คหน้าเทเลสโคปิก โช้คหลังแบบลิงค์ เบรกหน้าแบบดิสก์จานกลีบ ตัวระบายความร้อนน้ำมัน และเฟรมที่ได้แรงบันดาลใจจากดีไซน์ CRF รุ่นใหญ่ ส่วนสวิงอาร์มเป็นอะลูมิเนียม มีสรรพคุณในเรื่องของความเบาและแข็งแรง
ที่น่าสนใจคือมันจะเข้ามาแทนที่ CRF250F ในไลน์ออฟโรด เพราะตอนนี้ CRF250F ไม่มีชื่ออยู่ในรายการรับรองของ CARB หรือ EPA สำหรับโมเดลปี 2026 ในขณะที่รุ่นเล็กกว่าอย่าง CRF125F, CRF110F และ CRF50F ยังได้ไปต่อแบบชิลๆ
เมื่อดูจากสเปกและทิศทางของทางค่ายปีกนกแล้วแล้ว สายออฟดรดรุ่นใหม่น่าจะถูกวางตัวให้ชนตรงกับคู่แข่งอย่าง Kawasaki KLX300R และ KLX230R รวมถึง Yamaha TT-R230 ซึ่งเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมมากในกลุ่มนักขี่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับกลางที่ต้องการรถลุยๆ สักคันไว้ใช้งาน
สิ่งที่น่าจับตาคือ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทางค่ายหยิบโมเดลจากตลาดเกิดใหม่มาเปิดตัวในอเมริกา ตัวอย่างก่อนหน้านี้ก็มีทั้ง XR150L ที่เริ่มขายในเอเชียและละตินอเมริกาก่อนจะบุกตลาดสหรัฐฯ หรือ Navi สกู๊ตเตอร์จิ๋วราคาน่ารักที่พัฒนาสำหรับตลาดเม็กซิโกก่อนจะฮิตติดลมบนในอเมริกาเช่นกัน
จุดแข็งสำคัญของฮอนด้า คือ การที่แบรนด์สามารถดึงโมเดลจากทั่วโลกมาใช้ให้เหมาะกับตลาดเป้าหมายได้อย่างคล่องตัว ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบที่คู่แข่งยังทำได้ไม่เท่า
สำหรับใครที่กำลังมองหารถออฟโรดขี่ง่าย บำรุงรักษาไม่ยุ่งยาก และราคาไม่แรงจนเกินไป รุ่นใหม่นี้อาจเป็นคำตอบในอนาคตอันใกล้ รอติดตามกันให้ดี เพราะน่าจะประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงซัมเมอร์นี้ และถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อไหร่ เราจะรีบมาอัปเดตให้ทันที!
เรื่อง : ธราภณ วชิระธรกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย : Motorcycle Magazine
ติดตามข่าวสารยานยนต์ตามความต้องการรถใหม่ได้ที่ Motorcycle Magazine