2026 Honda NT1100 มอเตอร์ไซค์สายทัวร์ริ่งที่ออกแบบมาเพื่อนักเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นคนที่ชอบขี่ลุยทางไกล ขึ้นเหนือ ลงใต้ หรือออกทริปต่างจังหวัดแบบยาว ๆ ก็มั่นใจได้ว่ารถคันนี้จะมอบทั้งความแรง ความนุ่มนวล และความสะดวกสบายตลอดเส้นทาง เพราะมันถูกออกแบบให้ตอบโจทย์ครบทุกด้าน ทั้งสมรรถนะและความล้ำสมัยในคันเดียว
สำหรับ 2026 Honda NT1100 ไม่ได้เปลี่ยนโครงสร้างหรือเครื่องยนต์ไปแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ แต่เลือก “อัปเดตเล็กๆ แต่ได้ใจ” ด้วยโทนสีใหม่ สีเทา Iridium Gray Metallic ที่เพิ่มความเรียบหรูและดูพรีเมียมกว่าเดิม โดยยังคงมีสีเดิมยอดนิยมอย่าง สีเทาอมน้ำตาล Matt Warm Ash Metallic และสีขาว Pearl Hawkseye Blue ให้เลือกเหมือนเคย
แม้จะดูเหมือนเป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงภายนอก แต่จริงๆ แล้ว ยังคงมีจุดแข็งในเรื่องระบบช่วงล่างที่ไว้ใจได้ โดยเฉพาะในรุ่น Electronic Suspension ที่มาพร้อมเทคโนโลยี EERA (Showa Electronically Equipped Ride Adjustment) ระบบปรับช่วงล่างอัตโนมัติที่ใช้ข้อมูลจาก ECU และ IMU คำนวณแบบเรียลไทม์ เพื่อปรับค่าการหน่วงให้เหมาะสมกับสภาพถนนภายในเวลาแค่ 15 มิลลิวินาที เรียกว่าไวพอๆ กับความเร็วสายตาเลยทีเดียว ส่วนรุ่นมาตรฐานก็ไม่ได้น้อยหน้า เพราะใช้โช้คของ Showa แบบเทเลสโคปิกที่ตั้งค่ามาอย่างสมดุล
ด้านสมรรถนะขับเคลื่อน ยังคงใช้เครื่องยนต์ Parallel-Twin ขนาด 1,084 ซีซี ซึ่งเป็นบล็อกเดียวกับ Africa Twin แต่ปรับจูนให้ตอบสนองเน้นการเดินทางบนถนนมากกว่าเดิม เครื่องยนต์ตัวนี้ให้กำลังสูงสุด 101 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที และแรงบิด 112 นิวตันเมตร ที่ 5,500 รอบ ทำให้การเร่งแซงและการขับขี่ทางไกลทำได้อย่างสบายโดยไม่ต้องเค้นคันเร่งมากนัก
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับความสบายของผู้ขับขี่แบบจัดเต็ม กระจกบังลมถูกออกแบบให้ปรับระดับได้ด้วยมือเดียว และมีความสูงเพิ่มขึ้นเพื่อกันลมได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเวลาวิ่งบนทางโล่ง ส่วนเบาะนั่งก็ถูกขยายให้ใหญ่ขึ้น นั่งสบายแม้จะเดินทางหลายร้อยกิโลเมตรต่อวัน พร้อมบังโคลนหลังที่ยื่นยาวขึ้นอีก 150 มม. เพื่อป้องกันละอองน้ำและเศษดินจากพื้นถนน
ในส่วนของเทคโนโลยีช่วยขับขี่ ยังคงมาพร้อมจอแสดงผลแบบสี TFT ขนาด 6.5 นิ้ว ที่รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ทำให้ผู้ขี่สามารถดูแผนที่ ฟังเพลง หรือโทรออกได้โดยไม่ต้องละมือจากแฮนด์มากนัก ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ก็มีมาให้ในทุกรุ่น เช่นเดียวกับระบบควบคุมแรงบิด (Honda Selectable Torque Control) และเบรก ABS ที่ช่วยให้มั่นใจในทุกสภาพถนน
ในเรื่องของการใช้งานจริง ก็ยังคงให้ความสำคัญกับฟังก์ชันทัวร์ริ่งอย่างแท้จริง ด้วย ถังน้ำมันขนาด 20.4 ลิตร ที่วิ่งได้ไกลกว่า 400 กิโลเมตรต่อการเติมหนึ่งถัง และยังคงมี ช่องเก็บของใต้เบาะ รวมถึง ช่องเสียบ USB สำหรับชาร์จอุปกรณ์พกพา ถือว่าเป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่ตอบโจทย์สายเดินทางได้ดีมาก
แม้ว่าในรุ่นปี 2026 ฮอนด้าจะไม่ได้ปรับเครื่องยนต์หรือระบบไฟใหม่ทั้งหมด แต่การเพิ่มสีใหม่และปรับดีไซน์เล็กน้อยนี้ ก็ถือเป็นการต่ออายุความนิยมของรถรุ่นนี้ในตลาดยุโรป ซึ่งถือเป็นรถทัวร์ริ่งที่ขายดีที่สุดของ Hondaในปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่ามีทั้งความสมดุล ความทนทาน และเป็นมิตรกับผู้ขับขี่ทุกระดับ
เรื่อง : ธราภณ วชิระธรกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย : Motorcycle Magazine
ติดตามข่าวสารยานยนต์ในรถใหม่ได้ที่ Motorcycle Magazine
