Honda CUV e: สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ล้ำสมัย คล่องตัว ครบเครื่องทุกด้าน

Honda CUV e: คือหนึ่งในสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่น่าสนใจในปี 2025 ด้วยดีไซน์ที่สวย เท่ และเรื่องราวเบื้องหลังที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร แม้ตอนนี้จะวางจำหน่ายเฉพาะในยุโรป แต่กระแสตอบรับก็มาแรงไม่น้อย โดยเฉพาะจากเหล่าแฟนค่ายปีกนกและคนเมืองที่กำลังมองหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าใช้งานในชีวิตประจำวัน มีความล้ำสมัย คล่องตัว และครบเครื่องในทุกด้าน
ชื่อ Honda CUV e: อาจฟังดูใหม่ แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นการฟื้นคืนชีพจากอดีต เพราะหากย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีก่อน ฮอนด้าเคยเปิดตัว Clean Urban Vehicle ที่เป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าคันแรกของแบรนด์ในญี่ปุ่น และในปีนี้ ฮอนด้าตัดสินใจหยิบชื่อเดิมนั้นมาใช้อีกครั้ง พร้อมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่พร้อมตอบโจทย์โลกยุคใหม่
CUV e: สเปกไม่ธรรมดา ใช้งานจริงได้ทุกวัน
หลายคนอาจสงสัยว่า CUV e: ดีไหม? บอกเลยว่า ไม่ใช่แค่หน้าตาที่มีความทันสมัย แต่ฟีเจอร์ที่ให้มาก็ครบครัน เริ่มจากตัวรถที่มีน้ำหนักเพียง 120 กิโลกรัม ทำให้ควบคุมง่าย เหมาะมากสำหรับการใช้งานในเมือง มีแบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนได้ 2 ก้อน รวมกันได้ 1.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง ใช้เวลาชาร์จประมาณ 6 ชั่วโมงต่อก้อน ซึ่งเป็นแบตเตอรี่รุ่นเดียวกับที่ฮอนด้านิยมใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ในญี่ปุ่นด้วย
ระยะทางวิ่งได้ประมาณ 72 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ราว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังสูงสุด 6 กิโลวัตต์ หรือราว 8 แรงม้า ซึ่งเพียงพอสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะขี่ไปเรียน ไปทำงาน หรือแวะร้านกาแฟในวันสบาย ๆ
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Honda สำหรับยุโรป ที่เข้าใจไลฟ์สไตล์คนเมือง
จุดเด่นของHonda CUV e: 2025 ไม่ได้อยู่ที่พละกำลังหรือระยะทางการใช้งานเพียงอย่างเดียว แต่คือความใส่ใจในรายละเอียด ตั้งแต่ดีไซน์แบบ Step-through ที่ช่วยให้ขึ้นลงรถง่าย ไปจนถึงฟีเจอร์เล็ก ๆ อย่างโหมดถอยหลังที่ใช้ได้จริงเวลาจอดในพื้นที่แคบ ไฟส่องสว่าง LED รอบคัน กุญแจอัจฉริยะ และพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จอุปกรณ์พกพา
ตัวรถยังมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบสีขนิด TFT ขนาด 7 นิ้ว และยังมีตัวเลือกหน้าจอ 5 นิ้ว สำหรับคนที่ชอบความมินิมอล แต่ไม่ว่าจะเลือกแบบไหนก็สามารถเชื่อมต่อกับแอป RoadSync Duo ของฮอนด้าได้ทั้งหมด เพื่อใช้ระบบนำทาง โทรออก ฟังเพลง วางแผนเส้นทาง หรือแม้แต่รับการแจ้งเตือนกรณีเกิดการโจรกรรม
ไม่ใช่แค่สกู๊ตเตอร์ แต่คือแนวคิดใหม่ของการเดินทาง
สิ่งที่ทำให้ รีวิวของรถคันนี้จากทั่วโลกเป็นไปในทิศทางที่ดี ก็เพราะมันไม่ใช่แค่ยานพาหนะธรรมดา แต่เป็นเหมือนเครื่องมือที่เข้ามาช่วยทำให้ชีวิตในเมืองง่ายขึ้น ประหยัดมากขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เหมาะอย่างยิ่งกับยุคที่เราทุกคนต้องเผชิญกับปัญหามลภาวะและการจราจรติดขัด
มันอาจดูเหมือนแค่ “สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า” อีกรุ่นหนึ่งในตลาด แต่ถ้ามองลึกกว่านั้น มันคือตัวแทนของอนาคตที่เรียบง่าย และเป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่า ฮอนด้าเข้าใจการเดินทางของคนทั่วไปมากกว่าที่เราคิด
เรื่อง : ธราภณ วชิระธรกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย : Motorcycle Magazine
ติดตามข่าวสารยานยนต์ตามความต้องการรถใหม่ได้ที่ Motorcycle Magazine