![](https://motorcycmagazine.grandprix.co.th/wp-content/uploads/2021/12/004-780x470.jpg)
จุติเทพ “สายลุย” เพราะทุกเส้นทางคือการ “ผจญภัย”
![](https://motorcycmagazine.grandprix.co.th/wp-content/uploads/2021/12/002-683x1024.jpg)
ฮอทมาพักหนึ่งแล้ว สำหรับค่ายผู้ผลิต “พญาอินทรีย์” Harley-Davidson ที่ประกาศกร้าว มอบอิสรภาพและการผจญภัยแบบไร้ขอบเขต ผ่านรถจักรยานยนต์ในไลน์ผลิตใหม่ นาม “Pan America” เพราะทุกๆ ที่คือเส้นทางของฮาร์เล่ย์ฯ ไม่ว่าจะบนบก แม่น้ำ ภูเขา รวมถึงทะเลทรายหรือหิมะอันหนาวเหน็บ Pan America รถคือ “มิตร” ฟังก์ชั่นอเนกประสงค์ที่มาพร้อมพละกำลังอันเหลือเฟือ ก็พร้อมส่งหมอบประสบการณ์พิเศษ “แห่งการผจญภัย” ให้แก่ผู้ขับขี่ที่พร้อม…สยบมัน!!!
Harley-Davidson ระดมทีมวิศวกรรมและหนักออกแบบชั้นยอด มาเพื่อสร้างรถมอเตอร์ไซค์ Adventure รุ่นหล่าสุด ในนาม Pan America 1250 และ Pan America 1250 Special (ล้อซี่ลวด) ภาพลักษณ์ที่แปลกตามาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย คุณสมบัติระดับรถเทพ สมรรถนะที่โดดเด่น แถมอัดแน่นไปด้วยฟีจเจอร์ใหม่ๆ สุดพรีเมี่ยม นี่คือแนวคิดใหม่ของโรงงาน ที่ต่อยอดจนเกิดเป็นผลสัมฤทธิ์ ประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 100 ปี วันนี้ถูกพัฒนาจนเป็น…ภาพชัด!!!
![](https://motorcycmagazine.grandprix.co.th/wp-content/uploads/2021/12/002-683x1024.jpg)
ขุมพลังเครื่องยนต์แบใหม่ Revolution Max 1250 แบบ DOHC V-Twin 60 องศา ระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 วาล์ว / สูบ ปริมาตรกระบอกสูบที่ 1,250 ซี.ซี. ที่ให้กำลังแรงม้าสุดที่ 150 แรงม้า (แรงบิดสูงสุดที่ 94 ฟุต/ ปอนด์) ที่รอบเครื่องยนต์ 9,500 รอบ/ นาที ซึ่งออกแบบมาให้สามารถสร้างกำลังได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกช่วงความเร็ว แม้ในย่านความเร็วรอบเครื่อง (RPM) จะสูงก็ตาม โดยเครื่องยนต์ Revolution Max นี้ถูกเลือกวางตรงตำแหน่งกึ่งกลางของเฟรมรถ เชื่อมต่อการทำงานร่วมกับสวิงอาร์มอะลู เพื่อลดน้ำหนักโดยรวมของรถมอเตอร์ไซค์ให้ได้มากที่สุด นี่คือกฎของความสมดุลย์ โดยบล็อกเครื่องยนต์ของ Pan America 1250 มีน้ำหนักเพียง 242 ก.ก. ในขณะที่ 1250 Special ขยับน้ำหนักขึ้นมาที่ 258 ก.ก.
Harley-Davidson ได้พัฒนาเหทคโนโลยีที่ทันสมัยมากมายเพื่อให้ Pan America สามารถมอบประสบการณ์การขับขี่อันไร้ที่ติให้แก่เหล่านักผจญภัย รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Pan America นี้มีการใช้ระบบควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยหลายตัว ไม่ว่าจะเป็นในด้านของความปลอดภัย เช่น ระบบการเข้าโค้งอย่าง Cornering Rider Safety Enhancements ที่ผนึกกำลังของเทคโนโลยีหลากหลายตัวเพื่อช่วยปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับสภาวะแวดล้อมต่างๆ รวมถึงการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้นขณะเร่งเครื่อง ยกคันเร่งหรือขณะทำการเบรก โดยโหมดการขับขี่ที่จัดให้มานั้นถูกแบ่งไว้ใน 5 โหมด คือ Rain/ Road/ Sport/ Off Road และ Off Road Plus
Pan America 1250 Special (ล้อซี่ลวด) นั้นใช้ระบบกันสะเทือนหน้าและหลังแบบ Semi-Active ซึ่งทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่นพัฒนาร่วมกับ Showa ที่สามารถปรับตั้งค่าการใช้งานได้มากถึง 5 แพคเกจ Comfort/ Balanced/ Off Road Soft/ Off Road Firm/ และ Sport แถมด้วยนวัตกรรมสุดทันสมัยนี้ ยังพ่วงระบบ Adaptive Ride Height (ARH) ซึ่งเป็นระบบกันสะเทือนที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ พร้อม 4 โหมดการปรับตั้ง (Auto/ Shot Delay/ Long Delay/ Locked) ที่ช่วยปรับระดับความสูงของตัวรถได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งตัวรถจะมีความสูง “พอดี” เหมาะแก่การขับขี่เมื่อรถ “วิ่งอยู่” และจะลด “ต่ำลง” เมื่อรถ “หยุดนิ่ง”
Pan America 1250 จัดเต็มด้วยชุดอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยแบบเต็มสมรรถนะ เบรกหน้า Brembo Monoblock 4 พอท คาลิปเปอร์คู่ ที่ทำงานร่วมกับจานเบรกขนาด 320 มม. (C-ABS) ส่วนเบรกหลังBrembo พอร์ทเดี่ยวทำงานคู่กับใบขานขนาด 280 มม. ซึ่ง Pan America นั้นเลือกใช้ล้อหน้า/ หลัง ขนาด 19/ 17 นิ้ว ที่ห่อรัดด้วยยางบั้งของ Michelin Scorcher Adventure ขนาด 120/ 70-19 และ 170/ 60-17
Pan America 1250 ทั้ง 2 รุ่นได้ร่วมกันสร้างสรรค์คุณสมบัติต่างๆ ของรถโดยเน้นพัฒนาด้านประสิทธิภาพการใช้งานเป็นหลัก ซึ่งการออกแบบชิ้นส่วนทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็นแฮนด์เดิลบาร์ ที่วางกระเป๋า และไฟหน้าแนวนอนสำหรับส่องถนนออฟโรด มีแรงบันดาลใจมาจากเส้นทางออฟโรดและสภาพภูมิประเทศอันขรุขระในทวีปอเมริกาเหนือ ทำให้เจ้ารถรุ่นนี้มีสไตล์ที่เหมาะแก่การตะลุยแบบแอดเวนเจอร์ทัวร์ริงสุดๆ รวมถึงยังสะท้อนสมรรถนะแบบไร้ขีดจำกัดของตัวมอเตอร์ไซค์อีกด้วย ภาพลักษณ์ที่เด่นสะดุดตา บนถึงน้ำมันขนาดใหญ่ ให้ความจุไว้ที่ 5.6 แกลลอน ระบบไฟส่องสว่างรอบคันแบบ LED พร้อมพอแสดงผลแบบ TFT 6.8 นิ้ว และหากคิดว่าโรงงานยังใส่ลูกเล่นให้ไว้ไม่พอ Pan America 1250 Special เพิ่มออปชั่นโหมดการขับขี่พิเศษๆ ไปให้อีก อาทิ จอแสดงผลของแรงดันลมยาง ฮีทเตอร์กริป รวมถึงกระเป๋าสัมภาระแบบปี๊ป 3 ใบ หรือ แบบซอฟเคส ชิลด์หน้าทรงสูง ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth ผ่านHarley-Davidson App ที่พัฒนาพร้อมสำหรับ iOS และAndroid รวมถึงระบบนำทางผ่านดาวเทียม ก็พร้อมสรรพ…Pan America 1250 เปิดราคาเร้าใจไว้ที่899,000 บาท และมีสีให้เลือก2 สี คือ ดำ (Vivid Black), เทา (River Rock Gray) และ 952,000 บาท สำหรับตัวท็อป Pan America 1250 Special โดยมีสีให้เลือก 4 เฉดสีคือ ดำ (Vivid Black), เทา (Gauntlet Gray Metallic) / เขียว (Deadwood Green) และ ส้ม-ขาว (Baja Orange/ Stone Washed White Pearl)
สำหรับลูกค้าที่พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ สามารถลงทะเบียนเพื่อจองการทดสอบขับขี่ ได้ที่ h-d.com/Pan-America และติดตามเรื่องราวและอัพเดทต่างๆ จากฮาร์ลีย์-เดวิดสันในตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ได้ที่นี่ : www.harley-davidson.com, FB: @HarleyDavidsonAsia, IG: @HarleyDavidson_Asia, YT: Harley-Davidson Asia