Shinya Kimura
ศาสดา “รถสร้างมือ”
BIKER STORY…กับรถสร้างมือแนว “อนุรักษณ์นิยม” ของศิลปินเมทัลอาร์ตตัวพ่อนาม “ชินญ่า คิมูระ” นั้นอาจไม่กระดิกโสต ทว่า ผลงานหัวแถว ภายใต้เครื่องหมายการค้า ZERO ENGINEERING (ซีโร่ อินจิเนียริ่ง) รถสุดแนวที่แรงสุดของ พ.ศ. นี้คือ “ดอกผล” จากความพิสมัยส่วนตัว…สู่…เทรนเซทติ้งที่ได้ใจคนทั้งโลก แน่นอน “โก๋สยาม” ก็สมยอม เสพเอาวิถีวินเทจนี้เข้าเต็มกกหู แถมยอดขายแบบมี “ดีลเลอร์” ก็กำลัง “ทำเงิน” และหนนี้ก็เป็นคิว “รถสร้างมือ” ในศัพท์แสงเสนาะว่า…ซามูไร ช็อปเปอร์…!?!?!
Shinya Kimura :
“ชินญ่า คิมูระ” กูรูรถสร้างมือคนนี้เกิดและใช้ชีวิตเฉกเช่นวิถีปุตุชน “ญี่ปุ่น” มาเป็นปฐมบท…ก่อน…ก้าวสู่เวทีระดับโลกในฐานะ “บิวเดอร์” นักออกแบบ สร้างรถ ที่มีเอกลักษณ์ในสไตล์ที่เขาชื่อชอบ และผุดเป็นช็อปรูปธรรมในนามของ ZERO Engineering ในปี 1992 ที่โอซาก้า ซึ่งชื่อนี้ได้เปลี่ยนมาจาก Shop Chabo (ช็อป ชาโบะ) ที่เปิดตัวก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่ปี ด้วยรถลักษณ์ในสไตล์ที่เรียกว่า “Zero Style” ที่ เรียบง่าย สมูทตา มีเฉพาะชิ้นส่วนพื้นฐานที่จำเป็นเท่านั้น และมักเน้นโชว์เนื้อแท้ของแมททีเรียล ไม่เน้นงานโครมเมียม หรือชิ้นส่วนโคเวอร์อะไรที่ดูเลอะเทอะ
ช่วงต้นเฟรมแบบ หลังแข็ง คอหงษ์ ถูกจับคู่กับโช้คอัพหน้าแบบตะเกียบสวิง(สปริงเกอร์) บนล้อแบบซี่ นี่คือชิ้นส่วนพื้นฐานที่รถของ “Zero Style” เลือกสรร ในขณะที่เครื่องยนต์ยังคงพิศมัยเครื่องยนต์ “เสื้อเหล็ก” ของ Harley-Davidson รุ่นก่อนปี 1984 เป็นขุมพลังขับเคลื่อน ทว่า “Zero Style” เน้นประกอบ สร้างด้วยมือ และมีการเก็บงานชิ้นส่วนต่างๆ ได้อย่างประณีต สวยงาม น่าหลงใหล และรถทุกคันที่เขาสร้าง…ก่อน…ส่งถึงมือลูกค้า เขาจะเป็นผู้ทดสอบมันด้วยตัวเอง และถึงจะเป็นรถรุ่นเก่า ทว่า เมื่อมันผ่านการสร้างสรรค์พัฒนาออกจาก ZERO Engineering รถทุกคันจะดูสดใหม่ เหมือนเพิ่งถอยออกมาจากห้าง แตกต่างจากภาพลักษณ์โดยรวมที่ดู…โบราณ !?!?!
ในปี 2002 “คิมูระ” ใช้เวลา 25 ปีพิสูจน์ตัวเองบนเส้นสาย “2 ล้อ” และสบช่องเปิดไลน์การผลิตเจาะไข่แดง “อเมริกันชน” ZERO Engineering เปิดช็อปใหม่ที่เนวาด้า, ลาสเวกัส สร้างรถ สร้างชื่อ ในแบบที่เขาถนัด เขาใช้เวลา 2-3 ปี เพื่อขยับดีกรีกูรูจนติด Top10 นักสร้างรถชื่อดังขอเมริกา “คิมูระ” ยังคงชูแนวความคิด “ซามูไร ช็อปเปอร์” เป็นเรือธง…2005 “คิมูระ” ได้รับการติดต่อให้เข้าร่วมแข่งขันในรายการ Biker Build-Off (ไบค์เกอร์ บิ๊ว ออฟ) เรียลริตี้สร้างรถชื่อดังทางช่อง Discovery Channel ซึ่งเขาปะทะกับ Joe Martin แห่ง “Martin Brother” โดยสร้างรถจักรยานต์ในแบบของตัวเอง โดยใช้เวลาเพียง 10 วัน และต้องขี่คู่กันไปโชว์ตัว ณ งานไบค์ที่ปาร์มสปริงส์ เพื่อให้ประชาชนที่ร่วมงานในวันนั้น ได้โหวดเลือกมอเตอร์ไซค์ที่พวกเขาชื่นชอบ ซึ่ง “คิมูระ” ก็แพ้ไปไม่กี่คะแนน ทว่า รูปลักษณ์ในแบบเบสิคๆ นี้ กลับส่งเขาและ ZERO Engineering ดังเป็นพลุแตก!!! หลังรายเทปออกอากาศได้ไม่นาน ในปี 2008 รถ “Zero Style” ก็ได้รับการติดต่อให้สร้างรถเพื่อใช้ประกอบในภาพยนต์ชื่อดังอย่าง Iron Man ของ มาเวล คอร์มิค
ปัจจุบัน ZERO Engineering เปิดสตูดิโออีกแห่งในชื่อ Chabott Engineering ใน Asuza, California ยังคงสร้างมอเตอร์ไซค์ “Zero Style” ออกจำหน่าย เคียงข้างช็อปทั้ง 2 แห่ง (ทั้งในญี่ปุ่นและลาสเวกัส) โดนคาดว่าถึงปัจจุบัน “คิมมูระ” สร้างรถออกมาร่อนบนถนนมาแล้วกว่า 200 คัน โดยยังคงใช้เครื่องยนต์ของ Harley-Davidson รุ่น Shovelhead กับเพิ่มไลน์ของเครื่องยนต์ Evolution (อีโวลูชั่น)และSporster (สปอร์ตสเตอร์)
Chabott Engineering : (แชปบอท เอนจิเนียริ่ง)
2006 “คิมูระ” เริ่มผันตัวเองมาสร้างรถของเขา ทว่า ปรับมันเข้าสู่งานที่เป็น “ศิลปะ” มายิ่งขั้น ชิ้นงานที่สร้างขึ้นจะอ่อนช้อยและวิจิตรไม่เหมือนใคร เขาใช้ฆ้อนต่างพู่กัน และใช้แผ่นอะลูมิเนียม/ เหล็ก ต่างผืนผ้าใบ แน่นอน มันไม่ส่งผลเรื่องการตลาดแน่นอน เพราะรถทุกคันจะใช้เวลาในการสร้างสรรค์ที่นานพอดู ซึ่ง “คิมุระ” เองคงไม่สนใจ และแทบไม่ต้องไปคิดหาคำตอบให้เสียเวลา ทว่า กลับเปรยออกมาว่า
“ตั้งแต่ที่เราเริ่มต้น…จน…ถึงวันนี้ ไม่มีใครรู้ว่ามันจะไปจบที่ตรงไหน ในฐานะคนสร้างรถ ผมมองว่านี่คืองานศิลปะ “ศิลปะ” ของผมอาจจะ “สำเร็จ” หรือ “ล้มเหลว” ตอนนี้ยังเร็วไปที่จะพูด อนาคตเท่านั้นที่จะเป็นผู้บอกเล่า บางที่เราอาจต้องรอนานถึง 10 ปี…”
2010 “คิมูระ” ได้รับการติดต่อให้เข้าร่วมงาน Legend Of The Motorcycle Concoure d’Elegance Exibition ร่วมกับเพื่อนๆ ของเขา อาทิ Jesse James, Ian Barry และ Billy Lane “งานประกวดศิลปะ 2 ล้อ” นานาชาติที่เป็นตำนาน และจัดขึ้นในทุกๆ ปี ณ หน้าฝาสวยๆ ของโรงแรมโบราณ Ritz-Carlton Hotel ใน ฮาล์ฟมูนเบย์, แคลิฟอร์เนีย ที่สวยงามจากวิวรอบทิศของมหาสมุทรแปซิฟิก รวมถึงเรื่องเราของเขา “คิมูระ” และ Chabott Engineering ยังได้ถูกเก็บรวบรวมในรูปแบบสารคดีสั้นของผู้กำกับ Henrix Hanson ซึ่งถือเป็นสารคดีสั้น 1 ใน 5 ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Vineo Documentary Award ปี 2010 อีกด้วย