THUNDER มอไซค์ไฟฟ้าตัวล่าสุดจาก ไอ-มอเตอร์ เริ่มต้น 59,000 บาท พร้อมเดินหน้าบุกตลาดอาเซียน
บริษัท ไอ-มอเตอร์แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของไทย ภายใต้แบรนด์ “ไอ-มอเตอร์” เปิดตัว THUNDER : The Ultimate EV Bikeสุดยอดนวัตกรรมรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ด้วยเทคโนโลยีโครงสร้างอัจฉริยะ “MPF MarkII” ที่แข็งแกร่ง เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ในทุกสภาพถนน เทียบเท่ากับรถมอเตอร์ไซค์น้ำมัน
ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ตั้งเป้ายอดขาย 770 ล้านบาท เดินหน้าบุกตลาด สิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ลาว และศรีลังกา เพื่อปฏิวัติวงการรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าหนึ่งเดียวในไทย และอาเซียนที่ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรมยานยนต์ในระดับสากล
นายปรีชา ประเสริฐถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-มอเตอร์แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เปิดเผยว่า ไอ-มอเตอร์ฯ เราเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของไทย ภายใต้แบรนด์ “ไอ-มอเตอร์” มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์แรกของคนไทย ที่ผลิตจากโรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตอันเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมยานยนต์หนึ่งเดียวในประเทศไทยและอาเซียน
โดยมีบริษัทแม่ คือ บริษัท นิวสมไทยมอเตอร์เวอร์ค จำกัด ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในการผลิตชิ้นส่วนให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์รวมถึงมอเตอร์ไซค์แบรนด์ญี่ปุ่นมามากกว่า 60 ปี และบริษัท จินป่าว พรีซิชั่น อินดัสทรี่ จำกัด ผู้พัฒนาและผลิตซอฟต์แวร์ติดตั้งใน ไอ-มอเตอร์ รวมถึงในอุตสาหกรรมอากาศยานและยานยนต์มายาวนานกว่า 40 ปี ทำให้กลุ่มบริษัทพันธมิตรในเครือมีความพร้อมทั้งในด้าน Know-How, ทีม R&D ที่มีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง, ทีมวิศวกรที่มีประสบการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ความพร้อมด้านเทคโนโลยีและเครื่องจักรในการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
ในปีนี้เราจะบุกตลาดอาเซียนเต็มรูปแบบ โดยมีการเซ็นสัญญากับผู้แทนจำหน่ายในประเทศสิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ลาว และศรีลังกา และตั้งเป้าว่าภายใน 2 ปี เราจะวิจัยและพัฒนามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าออกสู่ตลาดอย่างน้อย 2-3 รุ่น และในปลายนี้เราเตรียมส่งรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า “ไอ-มอเตอร์” ออกจำหน่ายในประเทศกลุ่มยุโรปอีกด้วย
สเปกเบื้องต้น THUNDER : The Ultimate EV Bike
- โครงสร้าง “MPF Mark II” ที่แข็งแกร่ง ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ สามารถขับขี่ได้ทุกสภาพถนน เทียบเท่ากับมอเตอร์ไซต์ที่ใช้น้ำมัน
- ขุมพลังมอเตอร์ 3,000 วัตต์
- เดินทางไปได้ไกลกว่า 110 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
- ทำความเร็วสูงสุด 80 กม./ชม.
- ระบบเบรก CBS Proactive Suspension (Combined Breaking System)
- ชาร์จแบตเตอร์รี่เร็วขึ้นกว่า 3 เท่า
มีให้เลือก 2 รุ่น คือ THUNDER ราคาเริ่มต้น 59,000 บาท และ รุ่น THUNDER Croz ราคาเริ่มต้น 64,500 บาท โดยเรามีการรับประกันโครงสร้าง 10 ปี ,แบตเตอรี่ 5 ปี ,Body Parts 3 ปี ,ECU และมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ปี ,หน้าจอและชาร์จเจอร์ 1 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร พร้อมบริการหลังการขายด้วยทีมช่างมืออาชีพรับประกันอะไหล่แท้และราคาเดียวกันทั่วประเทศ
นายคมค์ปภัส จารุวิสินวงษ์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไอ-มอเตอร์แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด กล่าวถึงกลยุทธ์ในการทำตลาดของบริษัทฯ ว่า ไอ-มอเตอร์ มีเป้าหมายที่ต้องการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้มีสมรรถนะเทียบเท่ากับรถมอเตอร์ไซค์น้ำมัน โดยให้ความสำคัญใน 3 ส่วนหลัก คือ
1. ผลิตภัณฑ์ ที่ได้การรับรอง และเป็นที่ยอมรับในตลาดสากล เช่น UNR136, R78, E-Mark, ISO 9001-2015 และการรับรองจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยให้ใช้โลโก้และคำว่า “Made in Thailand” ได้เป็นรายแรก และรายเดียวของไทย รวมถึงงานดีไซน์ที่เน้นความแตกต่างและสีสันที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์การขับขี่ในชีวิตประจำวัน เดินทางท่องเที่ยว และผู้ประกอบการที่ใช้ขนส่ง-บรรทุกสินค้าได้อย่างมั่นใจ
2. พันธมิตรทางธุรกิจ การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับตัวแทนจำหน่าย และซัพพลายเออร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการให้ความสำคัญและความร่วมมือในการพัฒนาเพื่อความก้าวหน้าและประสบความสำเร็จไปด้วยกัน
3. ลูกค้า “Family Marketing” คือ กลยุทธ์ที่ ไอ-มอเตอร์ เลือกใช้ โดยเริ่มต้นตั้งแต่การผลิตสินค้าดีที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับสากลตอบโจทย์การใช้งาน พร้อมบริการหลังการขายมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและความประทับใจ สร้างการบอกต่อในกลุ่มผู้ใช้ด้วยกันเอง
ผู้ที่สนใจมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของ “ไอ-มอเตอร์” หรือ สนใจเป็นตัวแทนจำหน่าย สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0-855-396-070 หรือติดตามความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้ที่ www.facebook.com/imotorthailandbkk
นายคมค์ปภัส กล่าวอีกว่า เรามุ่งเน้นการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐานสากล เพื่อตอบโจทย์ทุกการใช้งาน รวมถึงบริการหลังการขายด้วยทีมงานมืออาชีพ เพื่อสร้างประสบการณ์ และความประทับใจในสินค้าและบริการ เพราะเราเชื่อว่า “หากเราสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ มีบริการหลังการขายที่ดี ลูกค้าก็จะบอกต่อและทำให้เกิดฐานลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี”
“ในปี 2567 นี้ เราตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 12,000 คัน หรือ ประมาณ 770 ล้านบาท โดยจะแบ่งเป็นตลาดพรีเมียมประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ตลาดแมส 80 เปอร์เซ็นต์ และมีสัดส่วนขายในประเทศประมาณ 85% และส่งออกไปต่างประเทศอีก 15%” นายคมค์ปภัส กล่าวสรุปในตอนท้าย
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Motorcycle Magazine
ติดตามข่าวสารมอเตอร์ไซค์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.motorcycmagazine.grandprix.co.th