Aprilia กำลังเขย่าวงการสกู๊ตเตอร์ระดับกลางด้วย SR GT 400 โมเดลปี 2026 ที่ไม่ใช่แค่สกู๊ตเตอร์ธรรมดา แต่เรียกได้ว่าเป็นการหยิบสมรรถนะอันโดดเด่นของมอเตอร์ไซค์มารวมไว้ในคันนี้ได้อย่างลงตัว
2026 Aprilia SR GT 400 ใหม่ถูกวางตัวเป็น “ครอสโอเวอร์” ระหว่างสกู๊ตเตอร์และมอเตอร์ไซค์ ด้วยปรัชญาการออกแบบและเทคโนโลยีที่เน้นในเรื่องของสมรรถนะ ผสานกับตัวถังใหญ่แบบสกู๊ตเตอร์ ทำให้รุ่นนี้เหมาะกับการใช้งานหลายรูปแบบ ทั้งการขับขี่ใช้งานในเมืองแบบสบายๆ หรือแม้แต่การขับขี่แบบออฟโรดก็ทำได้ไม่อายคู่แข่ง
ด้านขุมพลังเป็นเครื่องยนต์สูบเดี่ยวระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดความจุ 400 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 35.5 แรงม้าที่ 7,500 รอบต่อนาที และแรงบิด 38 นิวตันเมตร ที่ 5,700 รอบต่อนาที ถือว่าเป็นตัวเลขที่เพียงพอสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางระยะกลาง
ตัวรถใช้เฟรมเหล็กสองชั้น พร้อมระบบกันสะเทือนโช้คหัวกลับค USD 41 มม. ที่ด้านหน้า ให้ระยะยุบตัว 120 มม. ด้านหลังเป็นโช้คแก๊สคู่ปรับพรีโหลดได้ มีระยะยุบตัว 120 มม. ให้ความมั่นคงและนุ่มนวลแม้เจอสภาพถนนไม่เรียบ
ระบบเบรกถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่น ด้านน้าใช้ดิสก์เบรกเดี่ยวแบบลอยตัว ขนาด 300 มม. กับคาลิปเปอร์เรเดียล 4 ลูกสูบ ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เบรกขนาด 240 มม. กับคาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบ พร้อม ABS แบบ dual-channel ของ Bosch ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกปิด ABS ล้อหลังได้ตามความต้องการ แถมยังมาพร้อมระบบ Aprilia Traction Control (ATC) ปรับได้ 2 ระดับ หรือปิดการทำงานได้ทุกเมื่อ
ในด้านระบบอิเล็กทรอนิกส์และความสะดวกสบาย ให้จอแสดงผลแบบสีชนิด TFT ขนาด 5 นิ้ว แสดงข้อมูลได้อย่างครบถ้วน พร้อมไฟหน้า LED 3 ดวงที่ให้ความสว่างชัดเจน สกู๊ตเตอร์รุ่นนี้มีสีให้เลือกถึง 4 แบบ คือ สีดำ Rugged Black, สีเทาอมน้ำตาล Boulder Grey, และสีเทา Dusty Grey และรุ่น Rally Replica สำหรับคนที่ชอบลวดลายจากรถแข่งในสนาม
แม้ราคาและวันวางจำหน่ายจะยังไม่เปิดเผย แต่ SR GT 400 ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่มองหาสกู๊ตเตอร์ที่ผสมผสานระหว่างสมรรถนะแบบมอเตอร์ไซค์ไว้ในคันเดียว รุ่นนี้เหมาะทั้งสำหรับการขับขี่ในเมืองและออกทริปสั้น ๆ ในวันหยุด ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้หลากหลายและมอบความสนุกในการขับขี่ได้ในทุกเส้นทาง
ข้อมูลสเปกของ Aprilia SR GT 400 โมเดลปี 2026
| เครื่องยนต์: | 399 ซีซี SOCH ระบายความร้อนด้วยของเหลว 1 ลูกสูบ 4 วาล์วต่อสูบ |
| กระบอกสูบ x ช่วงชัก: | 83.8.0 x 71.1 มม. |
| อัตราส่วนกำลังอัด: | 12.8:1 |
| ระบบส่งกำลัง/เฟืองท้าย: | สายพาน |
| แรงม้า: | 35.5 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที |
| แรงบิด: | 38 นิวตันเมตร ที่ 5,700 รอบต่อนาที |
| ระบบเชื้อเพลิง: | EFI |
| คลัตช์: | แบบหลายแผ่น, ใช้แรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางในอ่างน้ำมัน |
| การจุดระเบิด: | – |
| เฟรม: | โครงเหล็กแบบเปลคู่ |
| ระบบกันสะเทือนหน้า: | โช้คหัวกลับ USD ขนาด 41 มม. / ระยะยุบ 120 มม. |
| ระบบกันสะเทือนหลัง: | โช้คอัพแก๊สคู่ปรับพรีโหลดได้ / ระยะยุบ 120 มม. |
| เบรคหน้า: | 4 ลูกสูบ ดิสก์เบรกเดี่ยว 300 มม. พร้อม ABS |
| เบรคหลัง: | 2 ลูกสูบ ดิสก์เบรกเดี่ยว 240 มม. พร้อม ABS |
| ล้อหน้า/หลัง : | ล้ออัลลอย |
| ยางหน้า/หลัง: | 120/70-16 (ไม่มียางใน), 150/70-14 (ไม่มียางใน) |
| Rake/Trail: | – |
| ฐานล้อยาว: | 1,534 มม. |
| ความสูงจากพื้น: | – มม. |
| ความสูงที่นั่ง: | – มม. |
| ความจุเชื้อเพลิง: | 12.1 ลิตร |
| น้ำหนัก (แห้ง): | 186 กิโลกรัม |
เรื่อง : ธราภณ วชิระธรกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย : Motorcycle Magazine
ติดตามข่าวสารยานยนต์ในรถใหม่ได้ที่ Motorcycle Magazine
