Biker StoryHighlight

DAKAR RALLY

สังเวียรโหด “ตัวพ่อ” งานเฟ้นหานักแข่ง “พันธุ์แกร่ง”

KTM คือ “แมงป่องทะเลทราย” ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของรายการนี้

        “ดาการ์แรลลี”  หรือ เดอะ ดาการ์ ในอดีตรู้จักกันในชื่อ “ปารีส-ดาการ์” เป็นการแข่งขันรถประจำปีที่จัดการแข่งขันโดยองค์กรกีฬาอามอรี (Amaury Sport Organisation – ASO) สัญชาติฝรั่งเศสที่ก่อตั้งโดย ฟิลิปเป อามอรี และเริ่มจัดการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1978

Ad. โฆษณายุคปี’ 90 กติกาเครื่องยนต์ยังอนุญาติ “บล็อกใหญ่” นี่คือตัวลุยของแต่ละค่าย Yamaha XTZ 750 Super Tenere,
Cagiva Elephant 900ie BMW R80 G/S และขาดไม่ได้สำหรับ Honda Africa Twin XRV650 Marathon

โดยเส้นทางการแข่งขันส่วนใหญ่เริ่มต้นจาก ปารีส ประเทศฝรั่งเศส มีเส้นทางผ่านภูมิประเทศทุรกันดาร ในหลากหลายชนิดทั้งทะเลทราย บ่อโคลน ทุ่งหญ้า ทุ่งหิน หุบผาสูงชัน เนินทรายในทวีปยุโรปและทวีปแอฟริกา ไปสิ้นสุดที่ ดาการ์ ประเทศเซเนกัล แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์สังหารนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสในประเทศมอริเตเนียในช่วงปลายปี ค.ศ. 2007 โดยกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะฮ์ ทำให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยของผู้ร่วมแข่งขันจนต้องงดการแข่งขันในช่วงต้นปี ค.ศ. 2008และต่อมาได้ทำการย้ายการแข่งขันไปจัดในทวีปอเมริกาใต้ ที่อาร์เจนตินาและชิลี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 จนถึง ค.ศ. 2019 และปรับอีกครั้งในปี ค.ศ. 2020 ดาการ์แรลลีย้ายไปแข่งขันที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย

เส้นทางการแข่งขัน “ปารีส-ดาการ์” ในปี 1981

        “ดาการ์แรลลี” การแข่งขันแบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือ รถจักรยานยนต์รถยนต์รถบรรทุก ควอดไบค์ (มอเตอร์ไซค์ 4 ล้อ) และ ยูทีวี โดยเส้นทางการแข่งขันในแต่ละวันมีระยะเฉลี่ย 800-900 กิโลเมตร (500-560 ไมล์)
          ปัจจุบัน ในคลาสของรถ “จักรยานยนต์” กำหนดกติกาครั้งหลังสุดที่ปี2011 โดยรถแข่งจะต้องมีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 450 ซี.ซี. จะเป็นแบบกระบอกสูบเดี่ยวหรือกระบอกสูบคู่ก็ได้ และทำการแบ่งคลาสย่อยออกเป็น 2 กลุ่มคือ Elite และ Non-Elite (แบ่งย่อยอีก 2 กลุ่ม) คือ “Super Production” และ “Marathon” (มาราธอน) ซึ่งมีข้อจำกัดคือไม่อนุญาตให้ผู้แข่งขันรุ่น “Marathon” เปลี่ยนส่วนประกอบหลัก เช่น เครื่องยนต์ กระบอกสูบ เฟรม ตะเกียบ หรือ สวิงอาร์ม ส่วน “Super Production” และ “Elite” นั้นสามารถทำได้ โดยนักแข่งสามารถนำอุปกรณ์จำเป็นติดตัวไปด้วยแค่กระเป๋าเป้ใบเล็กๆ และกล่องเครื่องมือ ไม่สามารถจัดการกับรถได้หากยังไม่ถึงจุดเช็คพอยส์ ที่อนุญาติให้จัดเตรียมงานซ่อมบำรุงได้ด้วยทีมอีกไม่เกิน 4 คน และทำการซ่อมบำรุงได้แบบจำกัดตามกติกา ซึ่งผู้ขับขี่แต่ละคนต้องวางแผนทั้ง “รถ” และ “ร่างกาย” มาเป็นอย่างดี สมกับ “ปรัชญาดาก้าร์” ที่มุ่งเฟ้นหาชัยชนะจากผู้ที่…แข็งแกร่งที่สุด!!!

จะไปต่อ รึพอแค่นี้ กับบรรยากาศอันเวิ้งว้าง


          KTM ถือว่าครองแชมป์รายการนี้มากที่สุด ตามมาด้วย Honda, Yamaha, Sherco, Husqvarna, Gas Gas, BMW และCagiva ที่ประสบความสำเร็จไล่ลำดับชั้นกันลงมา

Related Articles

Back to top button