Kawasaki GTO
“Gas delivery”
ปฐมบทแห่งตำนาน “รถส่งแก๊ส” ของ Kawasaki GTO เวอร์ชั่นแรกรหัส Mach 1 เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2522 โดย “บริษัท กลอรี่ คาวาซากิ มอเตอร์ จำกัด” ที่ตั้งใจพัฒนาสายพันธุ์สปอร์ตรุ่นใหม่ให้เป็นทางเลือกของนักบิดชาวไทย ด้วยจุดเด่นที่เหนือกว่าคู่แข่งในยุคเดียวกัน ตั้งแต่ระบบโครงสร้างแบบท่อเหล็กทรงเปลคู่ที่ล้ำหน้า มาพร้อมขุมพลังแบบ 2 จังหวะ สูบเดียว ขนาดความจุกระบอกสูบ110 ซีซี. โรตารี่วาล์ว
ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ GTO Mach 1 อยู่ที่ไฟหน้าทรงกลม เรือนไมล์เหลี่ยมแยกวัดรอบ ความเร็ว ถังน้ำมันเพรียวกระชับขนาดความจุ 11.7 ลิตร ฝาถังทรงเหลี่ยมมนพร้อมบานพับไขเปิดด้วยกุญแจ สวิงอาร์มเป็นท่อเหล็กทรงกลม
ด้วยเสียงตอบรับที่ดีจากนักบิดชาวไทย ไม่นานนัก GTO Mach 2 เวอร์ชั่นที่ 2 ก็ถูกส่งออกสู่ตลาด ด้วยการปรับเปลี่ยนไฟหน้าใหม่เป็นไฟเหลี่ยม ถังน้ำมันอัพไซส์ให้จุได้ 13.5 ลิตร ฝาถังน้ำมันออกแบบให้เพรียวบางลงและไม่มีบานพับเปิดยกออกมาได้ทั้งฝา
เวอร์ชั่นต่อมาเป็นรหัส Mach 4 ที่ครั้งนี้ต้นทางทำการปรับใหญ่ ตั้งแต่ด้านหน้าจัดหน้ากากใหญ่ของโมเดล GTX มาครอบไฟเหลี่ยมเข้าไป พร้อมกับย้ายไฟเลี้ยวขึ้นไปติดไว้ที่หน้ากากด้วย เรือนไมล์เพิ่มเกจ์วัดระดับน้ำมันติดตั้งตรงกลางระกว่างวัดรอบ กับความเร็ว ส่วนของสวิงอาร์มจากเดิมแบบกลมก็เปลี่ยนมาใช้สวิงอาร์มเหลี่ยม เบาะนั่งได้รับการออกแบบใหม่แบ่งสเต็ปท์สไตล์สปอร์ต
สุดท้ายก่อนปิดตำนาน ต้นสังกัดส่ง GTO Classic Speedster ออกมา ด้วยดีไซน์ที่เหมือนตั้งใจกลับไปสู่ยุคเริ่ม ด้วยการติดตั้งไฟหน้าทรงกลมไร้หน้ากาก พร้อมติดตั้งวเรือนไมล์ทรงกลมแบบเดียวกับที่ใช้ในสปอร์ตเปลือยรุ่น Victor ในขณะที่ไฟท้ายก็ใช้ของ KR SSR ติดตั้งลงตัวในแฟริ่งท้ายสไตล์สปอร์ต เช่นเดียวกับเบาะนั่งแบ่งสเต็ปท์ก็ปรับให้แบ่งระดับระหว่างผู้ขับขี่กับซ้อนท้ายให้ชัดเจนขึ้น และยังเปลี่ยนกระจกมองหลังไปใช้ทรงกลมเหมือนเวอร์ชั่นเริ่มต้นอีกด้วย
จากความนิยมที่มีอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 20 ปีของ Kawasaki GTO แม้ว่าจะมีการพัฒนารถรุ่นใหม่ออกมามากมาย ทว่าสายพันธุ์ GTO ก็ยังคงทำยอดขายได้ต่อเนื่อง โดยภาพชินตาที่เห็นเป็นประจำจนถึงทุกวันนี้คงหนีไม่พ้นภาระกิจ “ส่งแก๊ส” นั่นเอง
#นิตยสารมอเตอร์ไซค์ #MotorcycleMagazine #Kawasaki #KawasakiGTO #GTO
