News

Suzuki e-VanVan คืนชีพตำนานในยุคพลังงานสะอาด

ชื่อของ Suzuki VanVan หลายคนอาจนึกถึงมอเตอร์ไซค์ทรงคลาสสิกที่ดูอ้วนกลม มีล้อใหญ่ ๆ และให้ฟีลลิ่งการขับขี่แบบชิล ๆ แต่เชื่อไหมว่าเจ้ารถคันนี้มีประวัติยาวนานเกินครึ่งศตวรรษเลยทีเดียว และตอนนี้ Suzuki ก็กำลังจะพา VanVan กลับมาอีกครั้งในเวอร์ชันไฟฟ้าภายใต้ชื่อใหม่ว่า “e-VanVan” ที่เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Japan Mobility Show 2025 ที่ประเทศญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเป็นการคืนชีพตำนานในยุคพลังงานสะอาดที่น่าจับตามอง

Suzuki e-VanVan

Suzuki e-VanVan

ย้อนไปในอดีต Suzuki เปิดตัว VanVan ครั้งแรกในช่วงต้นทศวรรษ 1970 ภายใต้ชื่อ RV Series เช่น RV50, RV90 และ RV125 จุดเด่นคือเครื่องยนต์ 2 จังหวะ ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดคือขนาดยางที่ใหญ่และหนาพิเศษ หรือ Balloon Tire ที่ให้ความมั่นคงบนถนนหลากหลายสภาพพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นทราย ดิน หรือถนนลูกรัง

แถมบางคนยังบอกว่าชื่อ VanVan ในภาษาญี่ปุ่นก็มีนัยว่า “บัง ๆ” หรือ “ไปเรื่อย ๆ” สื่อถึงความสนุก ความผ่อนคลาย จึงกลายเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ขี่ไปไหนก็ได้ ฟีลประมาณรถสำหรับคนที่อยากไปเที่ยวเฉย ๆ ไม่ได้อยากแข่งกับใคร

RV50

หลังจากนั้น VanVan ก็หายไปจากตลาดอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนจะถูกปลุกชีพอีกครั้งในปี 2003 กับรุ่น RV125 VanVan ที่ปรับมาใช้เครื่องยนต์ 4 จังหวะ พร้อมระบบหัวฉีดที่ทันสมัยขึ้น ตัวรถยังคงสไตล์ย้อนยุคและความน่ารักของรุ่นเดิมไว้เต็มเปี่ยม จนกลายเป็นมอเตอร์ไซค์สายคลาสสิกที่มีแฟนคลับเฉพาะกลุ่มในยุโรปและญี่ปุ่น รวมถึงต่อยอดมาเป็นรุ่น VanVan 200 ที่ใช้เครื่องยนต์ใหญ่ขึ้นแต่ยังคงคาแรกเตอร์เดิมไว้ครบถ้วน

RV125

เมื่อโลกหมุนเร็วขึ้นและเทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าเริ่มเข้ามามีบทบาท ค่ายคนบ้าก็เห็นโอกาสที่จะชุบชีวิตอีกครั้งในยุคใหม่ คราวนี้มาในชื่อ “e-VanVan” มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นต้นแบบที่เตรียมเผยโฉมในงาน Japan Mobility Show 2025 โดยยังคงคอนเซ็ปต์ความสนุกและความเป็นมิตรในการขี่ไว้เหมือนเดิม แต่อัปเกรดทุกอย่างให้เข้ากับยุค EV อย่างเต็มตัว

ข้อมูลจากทางค่ายระบุว่า e-VanVan จะเป็น “BEV Fun Bike with Playfulness” หรือมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เน้นความสนุกแบบขับเล่นได้ทุกที่ ตัวรถถูกจัดให้อยู่ในระดับเทียบเท่ามอเตอร์ไซค์ 125 ซีซี มีมิติขนาดตัวรถประมาณ 1,810 มม. x 825 มม. x 1,050 มม. และยังคงเอกลักษณ์ดีไซน์ที่แฟน ๆ คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นล้อกว้าง ตัวถังทรงโค้งมน และเบาะนั่งทรงหนาที่ให้ความรู้สึกขี่สบาย เหมือนเอารุ่นเก่ามาปัดฝุ่นใหม่แต่เปลี่ยนหัวใจให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด

ในงาน Japan Mobility Show 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ Tokyo Big Sight ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคมถึง 9 พฤศจิกายนนี้ ทางค่ายยังได้เตรียมขนยานยนต์หลากหลายรุ่นมาจัดแสดงภายใต้ธีม “By Your Side” ที่สื่อถึงแนวคิดการอยู่เคียงข้างผู้คนในทุกมิติของการเดินทาง และแน่นอนว่า e-VanVan จะเป็นหนึ่งในดาวเด่นของบูธ เพราะมันไม่ได้เป็นแค่รถโชว์แนวคิด แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านจากยุคเครื่องยนต์น้ำมันไปสู่ยุคไฟฟ้าอย่างเต็มตัว

นอกจากนี้ ยังมีรถต้นแบบไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ เช่น Vision e-Sky รถมินิคาร์ BEV สำหรับใช้งานในเมือง, e-Address สกูตเตอร์ไฟฟ้าที่เคยเปิดตัวในอินเดีย และโมเดลนวัตกรรมอย่าง MOQBA หรือ SUZU-RIDE ที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออนาคต ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่ายักษ์ใหญ่จากฮามามัตสึไม่ได้หยุดอยู่แค่การผลิตมอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์เท่านั้น แต่กำลังขยายแนวคิด “Mobility” ให้ครอบคลุมทุกรูปแบบการเดินทาง

Suzuki e-VanVan

Suzuki e-VanVan

สิ่งที่น่าจับตาสำหรับ e-VanVan คือการผสมผสานระหว่างความคลาสสิกกับเทคโนโลยีใหม่อย่างลงตัว ถ้ารุ่นนี้เข้าสู่สายการผลิตจริง มันอาจกลายเป็นตัวเลือกสุดคูลสำหรับคนที่อยากได้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ไม่เหมือนใคร เพราะมันไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อความแรงหรือความเร็ว แต่เพื่อความสนุกและสไตล์ล้วน ๆ เหมาะกับคนเมืองที่อยากได้รถขี่เล่น หรือใช้เดินทางในระยะใกล้ด้วยการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

จะว่าไปก็เหมือนกับการรีเทิร์นของเพื่อนเก่าที่กลับมาพร้อมหัวใจใหม่ เพราะแม้หัวใจจะเปลี่ยนจากเครื่องยนต์น้ำมันเป็นแบตเตอรี่ไฟฟ้า แต่จิตวิญญาณของความสนุกในแบบดั้งเดิมของ VanVan ยังอยู่ครบ และนั่นคือสิ่งที่ทำให้คนรักมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกตั้งตารอดูมันใน Japan Mobility Show 2025 อย่างใจจดใจจ่อ

Suzuki e-VanVan

สำหรับใครที่เคยหลงใหลในเสน่ห์ของ VanVan รุ่นเก่า บอกได้เลยว่ารุ่นใหม่นี้น่าจะโดนใจไม่น้อย เพราะ e-VanVan คือการยืนยันว่าความสนุกในการขับขี่ยังไม่ตายไปกับยุคเครื่องยนต์สันดาป แต่มันกำลังถูกจุดไฟขึ้นใหม่อีกครั้งด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างแท้จริง

 

 

 

เรื่อง : ธราภณ วชิระธรกุล

เรียบเรียงข้อมูลโดย : Motorcycle Magazine

ติดตามข่าวสารยานยนต์ในรถใหม่ได้ที่  Motorcycle Magazine

Related Articles

Back to top button