เรื่อง : ภูวดล ต๊ะทองดี ภาพ : 30 Up Photo Team
ประสบการณ์ กับความรู้ใหม่ๆ ยังคงหาได้จากการเดินทาง … เช่นเดียวกันกับครั้งนี้ที่ชาวคณะ “บังโคลนลอย 30 Up” จะขอพาคุณผู่อ่านออกเดินทางไปเก็บความสุขในรูปแบบของคนรักลุยเหมือนเช่นเคย กับเพื่อนร่วมทางดีๆ ที่ร่วมเดินทางอย่างรถลุย Honda CRF 250L .. ยางรถจักรยานยนต์ IRC และผลิตภัณฑ์ Motul กับความมันส์ ความสนุกที่ครั้งหนึ่งของเพื่อนนักบิดไม่ควรพลาดการประทับรอยล้อ สะสมไมล์ บนปลายทางที่บ้านคลองโคน
“คลองโคน” สมุทรสงคราม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สงบเงียบเรียบง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนแบบสบายๆ ไม่เร่งรีบ เสพความสุขจากกลิ่นอายของธรรมชาติตามวิถีพื้นบ้านของชาวประมงท้องถิ่น ท่ามกลางความร่มรื่นของป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ แถมยังไม่ไกลเกินไปนักจากกรุงเทพมหานคร ด้วยระยะทางประมาณไม่เกิน 100 กม. บนถนนพระราม 2 หลังข้ามผ่านสะพานแม่น้ำแม่กลองราว กม.ที่ 72 ก็จะถึงทางแยกเข้าบ้านคลองโคน กับจุดสังเกตที่ปั๊ม ปตท. ซ้ายมือ ซึ่งนักเดินทางยังสามารถเลือกใช้เป็นเส้นทางลัด หลีกเลี่ยงการจราจรที่แออัดในช่วงเทศกาล เพื่อเดินทางไปถึงชายหาดชะอำ จ.เพชรบุรีก็ยังได้
จากอดีตผืนป่าชายเลนบ้านคลองโคนถือได้ว่าเป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุด ด้วยพื้นที่กว้างใหญ่กว่า 7 หมื่นไร่ ทำให้มีสัตว์น้ำอาศัยอยู่อย่างมากมาย ชาวบ้านสามารถประกอบอาชีพประมงได้อย่างมีความสุข จนกระทั่งมีการบุกรุกถากถางป่าเพื่อใช้พื้นที่ในการทำนากุ้ง ขยายวงกว้างสร้างความเสียหายให้กับระบบนิเวศอย่างต่อเนื่อง จนที่สุดความสมดุลที่สูญเสียไปส่งผลให้การทำนากุ้งบนพื้นที่หลายพันไร่ก็ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ ปล่อยให้กลายเป็นพื้นที่รกร้าง เหลือผืนป่าเพียงกว่าพันไร่ … จนที่สุดด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงเห็นความสำคัญของการฟื้นฟูป่าชายเลนคลองโคน ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงปลูกป่าชายเลนถึง 5 ครั้ง ตั้งแต่ราวปี 2540 – 2547 ทำให้ปัจจุบันนี้พื้นที่ป่าชายเลนบ้านคลองโคนกลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง และด้วยความรักและหวงแหนในแผ่นดินเกิดของคนในถิ่นที่ยังคงช่วยกันรักษาสภาพป่าให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ส่งผลให้วันนี้สัตว์น้ำที่หายไป กับระบบนิเวศที่ถูกทำลายกลับคืนสู่สภาพที่สมบูรณ์ได้อีกครั้ง
วันนี้ … ที่บ้านคลองโคน ชุมชนประมงชายฝั่งปากอ่าวไทย ยังคงได้รับความสนใจจากนักเดินทางที่แวะเวียนมาเที่ยวชมความงามกันอย่างต่อเนื่อง กับโปรแกรมท่องเที่ยวสุดฮิต ที่บรรดาผู้ประกอบการเจ้าของพื้นที่ทั้งรีสอร์ท โฮมสเตย์ จัดเตรียมต้อนรับภายใต้แนวคิดของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือชมธรรมชาติผืนป่าชายเลนที่มีให้เห็นทั้งต้นแสม และโกงกาง ซึ่งในบริเวณผืนป่าที่กว้างขวางร่มรื่น ยังเป็นแหล่งอาศัยของฝูงลิงแสมหลายพันตัวด้วย ซี่งนักท่องเที่ยวที่ล่องเรือไปเที่ยวชมอาจนำผลไม้ติดมือไปฝากได้ ซึ่งจากคำบอกเล่าของเจ้าของพื้นที่ว่าลิงเหล่านี้ส่วนใหญ่มีนิสัยสุภาพ ไม่ทำร้ายนักท่องเที่ยว แต่บางคราวอาจมีหัวโจกใจกล้าที่ว่ายน้ำมาต้อนรับกันถึงกาบเรือ แต่ก็ไม่ต้องตกใจเพียงแค่ระวังของมีค่าที่อาจถูกฉกฉวยไปเพียงเพราะเจ้าลิงน้อยอาจคิดว่าเป็นอาหารเท่านั้นเอง
นอกจากการชมความงามของผืนป่าแล้ว การล่องเรือชมวิถีประมงพื้นบ้านก็ยังสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคนพลัดถิ่นได้ไม่น้อยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำฟาร์มหอยนางรม หอยแมลงภู่ ที่ต้องปักหลักเสาสูงอยู่กลางทะเลปากอ่าว หรือการป้องเคย กล่ำปลาดุก ภูมิปัญญาการจับสัตว์น้ำที่สืบสานมาจากอดีต หรือแม้แต่การถีบกระดานงมหอยแครงที่ชาวบ้านในย่านทำเป็นอาชีพหลัก แถมยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ทเปิดประสบการณ์งมหอยกันอีกด้วย … ความสนุกของกิจกรรมกลางแจ้งที่ดัดแปลงให้เข้ากับสภาพภูมิประเทศยังมีไว้ต้อนรับอีกมากมาย อาทิ การเล่นสกีโคลน ที่ทำได้เมื่อน้ำลง หรือจะเป็นการโต้คลื่นบนกระดานเซิร์ฟแบบบ้านๆ ในช่วงน้ำขึ้นก็สร้างความสนุกในอีกรูปแบบเหมือนกัน
ไม่เพียงแค่ความงามของธรรมชาติ กับกิจกรรมที่จัดเต็มในโปรแกรมทัวร์เท่านั้น ที่เป็นแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนบ้านคลองโคน หากแต่อาหารรสเลิศเมนูเด็ดของคนในถิ่น จากวัตถุดิบสดใหม่คัดคุณภาพ แถมราคาย่อมเยายังเป็นอีกสิ่งเย้ายวนให้บรรดานักชิมต่างต้องแวะมาลิ้มลอง กับอาหารพื้นบ้านฝีมือกุ๊กคนท้องที่ซึ่งมีสไตล์ และรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งเมนูเด็ดที่ไม่น่าพลาดหากมีโอกาสได้แวะมาลิ้มลองคงอยู่ที่ “ชะคราม” พันธุ์พืชท้องถิ่นที่ดัดแปลงสรรสร้างได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะยำ หรือทำเป็นผักแนมราดกะทิกินคู่น้ำพริกกะปิของดีอีกอย่างก็เข้ากัน ยิ่งได้ปลาทูทอดสูตรเฉพาะร่วมด้วยรับรองว่ากินกันท้องแตกแน่นอน หรือจะเป็นปูไข่สดๆ ที่ไม่ว่าจะนำมาแกงส้มคู่หน่อไม้ดอง หรือนึ่งเหยาะน้ำจิ้มสูตรแซ่บ ก็อร่อยกันลืมอิ่มเหมือนกัน นอกจากนั้นยังมีเมนูหอยหลากหลายทั้งหอยแครง หอยแมลงภู่ ก็เป็นเมนูที่ห้ามพลาดเหมือนกัน … และทั้งหมดนั้นคือเสน่ห์ของ “บ้านคลองโคน” ที่รอคุณไปสัมผัส รับรองว่าหากได้มาแล้วจะติดใจ
ตำแหน่ง GPS N13° 20.05’, E99° 57.87’
ติดต่อ : ศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลน คลองโคน
โทร.086 177 7942, 034 731 188
www.mangrove-center.com
พื้นหาย … ปัญหาคาใจนักลุยขาสั้น
อีกหนึ่งปัญหาของบรรดานักบิด “ขาสั้น” กับการออกทริปลุยป่า ที่หลายคนอาจเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ ที่พาลให้หมดสนุกไปเลยก็ได้ กับบางเวลาที่ต้องหาจุดจอดในเส้นทางเถื่อน ซึ่งแน่นอนคงไม่ได้ราบเรียบ และสบายอย่างถนนในเมืองแน่นอน ยิ่งโดยเฉพาะกับนักบิดหุ่นมาตรฐานที่แข้งขาสั้นแล้วล่ะก็ การหาที่จอดเหมาะๆ เพื่อช่วยให้การพยุงรถมั่นคงถือเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว … ซึ่งเกร็ดง่ายๆ ที่ได้จากประสบการณ์ตรงของ บอ.กอ. อ้วน มอ’ไซค์ ที่หลงใหลรถลุยแนวบังโคลนลอย มีคู่ควงเป็นรถลุยคันสูงโย่งมาหลากหลายโมเดล เก็บมาฝากครั้งนี้ ก็น่าจะเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้เพื่อนนักบิดได้สนุกกับการขับขี่แบบไม่ยากเย็น
จากลักษณะทางกายภาพของรถลุยคันแกร่งที่ถูกออกแบบมาให้ค่อนข้างสูงเพื่อเป็นประโยชน์ในการขับขี่ผ่านอุปสรรค ซึ่งอาจสวนทางกับความสูงของผู้ขับขี่บางคน … โดยในภาวะปรกติที่ถนนราบเรียบ การจอดรถโดยอาศัยการทิ้งขาข้างถนัดวางปลายเท้าลงบนพื้นให้กระชับ โดยก้นอาจไม่วางบนเบาะอาจไม่ลำบากมากนัก แต่หากเป็นในสภาพภูมิประเทศที่เป็นทางวิบาก ซึ่งมีความสูงชันของพื้นที่ต่างระดับ การสุ่มสี่สุ่มห้าจอดรถวางขาอาจพาให้เกิดอาการ “พื้นหาย เท้าลอย” อันเป็นที่มาของการตีลังกาได้ง่ายๆ
ดังนั้น ในกรณีที่จำเป็นต้องจอดรถบนพื้นทางที่ต่างระดับ อันดับแรกหากเลือกได้ให้มองหาพื้นที่เนินชันที่สามารถวางเท้าข้างที่ถนัดให้ได้ก่อนจะช่วยให้ผู้ขับขี่จอดรถได้มั่นคงกว่าการห้อยขาเขย่งเกงก็อย … แต่ในกรณีเป็นพื้นที่ขรุขระเป็นหลุมบ่อ เนินสลับไปมา หรือกรณีของทางวิ่งลักษณะลูกระนาด การจอดที่ปลอดภัยคือให้ล้อหน้าและหลังลงไปอยู่ในส่วนที่ลึก หรือห้องเนินเพื่อให้ขาผู้ขับขี่วางบนพื้นได้อย่างถนัด กลับกันที่ห้ามทำเด็ดขาดคือพรววดพราดจอดบยยอดเนิน ซึ่งแน่นอนว่าท้องรถจะยิ่งขยับสูงจากพื้นขึ้นไปอีก แล้วทีนี้ลองคิดดูสิว่า ถ้าผู้ขับขี่วางขาลงมาแล้วพื้นหาย ภาพต่อไปอะไรจะเกิดขึ้น ??? … ก็เป็นอีกเรื่องเล็กๆ ที่เก็บมาฝาก อาจเป็นประโยชน์บ้างกับเพื่อนนักบิดไม่มากก็น้อย ยังไงก็ขับขี่ด้วยความมีสติ และไม่ประมาท ปลอดภัยทุกท่านนะครับ แล้วกลับมาพบกันใหม่ … สวัสดี
ยางรั่วกลางป่า … แก้ง่ายๆ แค่ใช้
MOTUL Tyre Repair (P3) สเปรย์เติมลมและซีลยาง
การออกทริปลุยป่าของบรรดา “นักบิดบังโคลนลอย” บางครั้งอุปสรรคที่มาแบบเหนือความคาดหมายก็อาจทำลายความสนุก จนถึงขั้นสร้างความลำบากกันมานักต่อนักแล้ว โดยเฉพาะกับเรื่องของล้อกลมๆ ที่มีลมข้างใน … หากได้รับความเสียหายถูกทิ่มแทงจนเกิดการรั่วซึม ล้อแฟ่บจนไปต่อไม่ได้เลยทีเดียว ซึ่งการแก้ปัญหาโดยการพกพาบรรดาอุปกรณ์ซ่อมแซมก็ดูจะวุ่นวาย แถมไม่คล่องตัวด้วย เพราะไหนจะยางอะไหล่ ที่สูบลม เหล็กงัดยาง แถมยังต้องเสียเวลาในการเปลี่ยนยางเส้นใหม่ไม่น้อย
วันนี้ เพื่อนที่ดีสำหรับนักเดินทางกับผลิตภัณฑ์ Motul มีอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจ และสะดวกสบายให้กับนักบิดมาแนะนำกัน สำหรับ MOTUL Tyre Repair (P3) สเปรย์เติมลมและซีลยาง ซึ่งสามารถพกพาได้สะดวกสบายในกระป๋องขนาดกะทัดรัด ใช้งานได้สะดวกรวดเร็ว ซ่อมแซมและคืนสภาพยางรถได้ทันทีโดยไม่ต้องถอดชิ้นส่วนหรือใช้เครื่องมือ เพียงต่อท่อยางจากกระป๋องเข้ากับจุกลมล้อรถ ซึ่งนอกจากจะใช้ซีลรอยรั่วแล้ว ยังใช้เพิ่มแรงดันลมยางในกรณีที่แรงดันอ่อนก็ได้ รองรับการใช้งานได้กับรถจักรยานยนต์ทุกประเภท (รวมไปถึงรถยนต์ก็ยังได้) … ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ดีๆ ที่ควรมีติดรถทุกครั้งในการออกทริปเพื่อความอุ่นใจ
