ได้เวลาสะสมไมล์ … เก็บเกี่ยวประสบการณ์บนเส้นทางสายสวยกันอีกครั้งแล้ว สำหรับกลุ่มเพื่อนนักบิดก๊วน “บังโคลนลอย 30 Up” ที่ล่าสุดสมาชิกเลือกปักหมุดปลายทางทริปกันที่ “วนอุทยานเขาอีโต้” จ. ปราจีนบุรี … ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลเกินไปนักจากกรุงเทพฯ เราเลือกใช้เส้นทางขาออกจากรังสิต – องครักษ์ ผ่านตัวเมืองนครนายก แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่เส้นทางหมายเลข 33 ปากพลี นครนายก – ประจันตคาม – ปราจีนบุรี … เมื่อผ่านสี่แยกเนินหอม มุ่งหน้าต่อไปทางสระแก้วอีกเพียงสองกิโลฯ นิดหน่อย ก็จะถึงเขตพื้นที่วนอุทยานเขาอีโต้ ปลายทางทริปของเราแล้ว … รวมระยะทางเพียงประมาณร้อยกว่ากิโลฯ ใช้เวลาเดินทางเพียงไม่เกิน 2 ชั่วโมงแบบไม่ต้องเร่งรีบ
ภายใน วนอุทยานเขาอีโต้ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งให้ได้เที่ยวชม ไล่เรียงกันไปตั้งแต่ เนินพิศวง ที่เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติกับภาพลวงตาที่แม้จะรู้ถึงเหตุผล แต่มันก็ยังคงสร้างความตื่นเต้น ผสมงงงวยให้นักเดินทางได้อย่างไม่เสื่อมคลาย !!! หลังทดลองเล่น รถไหลขึ้นเนิน กันจนเป็นที่พอใจแล้ว ชาวคณะออกเดินทางต่อไปบนถนนลาดยางบรรยากาศร่มครึ้ม และสวยงาม ไม่นานก็จะถึงอีกหนึ่งจุดพักที่ห้ามพลาด กับจุดชมวิว “ผาหินซ้อน” ซึ่งนักเดินทางต้องเล็งให้ดีเพราะไม่มีจุดสังเกตที่เด่นชัดมากนัก .. จากริมถนนมีทางเดินเท้าไม่ไกลนักนักเดินทางก็จะได้สัมผัสกับมุมมองที่เปิดกว้างสุดสายตาแบบพาโนรามา กับวิวเมืองปราจีนบุรีที่ยังคงเขียวครึ้มจากผืนป่าที่กว้างใหญ่ในมุมสูง ด้วยทัศนียภาพของจุดชุดวิวที่เป็นโขดหินน้อยใหญ่เรียงตัวลดหลั่นกัน จนเป็นที่มาของชื่อเรียกจุดชมวิว “ผาหินซ้อน” นั่นเอง
เราเดินทางต่อบนเส้นทางที่ร่มครึ้ม จากต้นไม้น้อยใหญ่นานาพันธุ์ที่เรียงกันตัวหนาแน่นตลอดสองข้างทาง และเอนตัวเข้าหากันจนเป็นเหมือนอุโมงค์ต้นไม้ ไม่นานเราก็มาสุดทางลาดยางต้องลงเดินเท้าต่อเพื่อเข้าสู่เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่เจ้าหน้าที่ยังสร้างศาลาพักให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนเป็นระยะๆ และที่นี่ยังเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่บรรดานักปั่นสไตล์ดาวน์ฮิลล์ต่างคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะเป็นพื้นที่จุดสตาร์ท แต่สำหรับนักบิดสิงห์บังโคลนลอยแล้ว ที่นี่คงไม่ใช่ทางในฝันหากคิดมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ขับขี่ เพราะเจ้าหน้าที่ไม่อณุญาติให้ทำการขับขี่ในเส้นทาง … เพราะอาจสร้างความเสียหายให้กับธรรมชาติได้
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดการกดชัตเตอร์บันทึกภาพเมื่อมาเยือนถิ่น วนอุทยานเขาอีโต้ คือโลเกชั่นสวยของอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ หรือที่ชาวบ้านพื้นถิ่นเรียกกันติดปากว่า อ่างเขาอีโต้ ซึ่งเกิดขึ้นจากผู้บริหารบ้านเมืองที่หวังจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่เพื่อเก็บกักน้ำ จนที่สุดเกิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามตามธรรมชาติอย่างกลมกลืน … ด้วยความกว้างใหญ่ของผืนน้ำที่รายรอบด้วยป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ มีจุดชมวิวที่สวยงามทั้งบนเส้นทางสันเขื่อนที่สามารถทอดน่องชมวิวได้อย่างสบายๆ โดนเฉพาะในช่วงเวลาที่แดดอ่อนทอแสงทาบทับผืนน้ำทั้งเวลาเช้าและเย็น จะเป็นภาพที่สวยงามเป็นพิเศษ และจากคำบอกเล่าของเจ้าถิ่นถึงความงามที่ชวนสัมผัสโดยเฉพาะช่วงเวลาที่สายสมหนาวพัดมาเยือน นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสไอหมอกที่ลอยอ้อยอิ่งเหนือผืนน้ำได้อย่างน่าประทับใจด้วย และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมทางน้ำ หรือกิจกรรมแคมปิ้งท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบยังสามารถเลือกพักผ่อนค้างแรมได้ แต่ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนตามระเบียบของอุทยาน และความปลอดภัยของนักเดินทางเอง
หลังเตร็ดเตร่ เพลิดเพลินกับเส้นทางและธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์ของผืนป่าจนสาแก่ใจแล้ว ขบวนนักบิดบังโคลนลอยก็ปักหัวเข้าสู่หมายสุดท้ายเพื่อคลายเมื่อยล้าที่ น้ำตกเขาอีโต้ แหล่งพักผ่อนที่คนในถิ่นและนักเดินทางต้องไม่พลาดการแวะด้วยประการทั้งปวง !!! บนลานจอดพื้นดินแดงที่รองรับจำนวนรถได้นับร้อยคัน ติดกันเป็นธารน้ำที่ไหลเอื่อยมีลานน้ำให้ได้ลงแช่กว้างขวาง เกิดจากการสร้างฝายปูนกั้นน้ำ ทำมห้ปริมาณน้ำและความลึกไม่มากเกินไป จนปลอดภัยพอที่จะปล่อยเด็กเล็กให้ลงเล่นน้ำได้อย่างสบายใจภายใต้สายตาของผู้ปกครองที่ต่างเลือกแลนด์มาร์คตั้งวงแคมปิ้งปาร์ตี้ส้มตำกันอย่างสนุกสนาน … ซึ่งโดยรอบก็มีร้านรวงที่คอยให้บริการอาหารเครื่องดื่มพร้อมเสริฟถึงเสื่อ หรือจะเลือกนั่งเล่นในซุ้มดีไซน์บ้านๆ ของทางร้านที่มีให้เลือกนั่งนับสิบแห่งก็ยังได้
สำหรับนักท่องเที่ยวคนเมืองที่นิยมการท่องป่า ศึกษาธรรมชาติ แต่อาจไม่มีเวลามากนัก การเลือกวนอุทยานเขาอีโต้ จ.ปราจีนบุรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเหมือนกัน
ขอขอบคุณ : ผู้สนับสนุนใจดี รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า .. ยางรถจักรยานยนต์ IRC .. โซ่ D.I.D .. ผลิตภัณฑ์ Motul .. ท่อไอเสียน้ำบาน .. โช้คอัพ YSS และ ผลิตภัณฑ์เอาท์ดอร์ EQUINIX
เรียบเรียงข้อมูลโดย นิตยสาร มอเตอร์ไซค์ : motorcycmagazine.grandprix.co.thmag
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th
