KTM 1290 Super Adventure R Monster Enduro โปรเจกต์คัสตอมที่ทรงพลังและน่าเกรงขาม
มอเตอร์ไซค์ที่ทรงพลัง มีสมรรถนะที่น่าเกรงขาม คงหนีไม่พ้นกับ KTM 1290 Super Adventure R และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม Gasoline Motor Co. ซึ่งตั้งอยู่ในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย จึงเลือกให้มันเป็นรถพื้นฐานสำหรับโปรเจกต์ในการสร้างมอเตอร์ไซค์ผจญภัยตัวใหม่ล่าสุด
KTM 1290 Super Adventure R Monster Enduro
จากแวบแรก เราจะเห็นว่าชื่อ “Monster” ตามที่สำนัก Gasoline เรียกขานนั้นเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับรถเอนดูโรขนาดใหญ่ตัวล่าสุดที่ได้รับการคัสตอม แนวคิดเบื้องหลังการสร้างมอเตอร์ไซค์ที่น่าเกรงขามคันนี้ “มันเริ่มตั้งแต่ช่วงการปิดเมืองของการระบาดโคโรนาไวรัส
โครงการนี้เกี่ยวกับการหาสองล้อสายลุยที่ดีที่สุด เพื่อพาตัวเองไปยังพื้นที่ห่างไกลที่สุด ที่ไม่มีถนน ไม่มีผู้คน แล้วยกระดับด้วยการอัพเกรดมันขึ้นไปอีกขั้น ทางทีมงานจึงออกตามล่าหาเครื่องจักรออฟโรดที่เร็ว และมีสมรรถนะมากที่สุด กับการใช้งานบนทะเลทรายที่กว้างใหญ่ เนินทราย ภูมิประเทศที่ขรุขระ และภูเขาได้
ทีมสร้างเจ้า Monster ส่วนใหญ่ เป็นผู้ขับขี่ในแบบออฟโรด จึงมีประสบการณ์ และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสไตล์ ฟังก์ชันการทำงาน และประสิทธิภาพที่จำเป็นในการสร้างสัตว์ประหลาดแบบออฟโรดขึ้นมา แน่นอนว่ามอเตอร์ไซต์พื้นฐานอย่าง Honda และ Yamaha ยังได้รับการพิจารณาอยู่ในโปรเจกต์นี้เช่นกัน ก่อนที่ทีมงานจะตัดสินใจเลือกรุ่นเรือธงอย่าง KTM 1290 Super Adventure Rแม้ภายนอกจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่มีหน้าตาค่อนข้างน่าเกลียด แต่มีเทคโนโลยี และประสิทธิภาพของตัวรถจัดว่าสูงมาก
ตัวรถยังคงใช้เครื่องยนต์ LC8 V-twin ที่มีประสิทธิภาพสูงอยู่แล้ว สามารถให้กำลัง 160 แรงม้า และแรงบิด 138 นิวตันเมตร ส่วนระบบกันสะเทือนเป็นของ WP ที่ปรับแต่งได้เต็มที่ เบรก Brembo และล้อ Akront เคลือบเงา แต่ทีมงานต้องการเน้นเรื่องรูปลักษณ์ และการใช้งาน เลยตัดสินใจโชว์ร่างเปลือยเปล่า เฟรมย่อยใหม่ถูกผลิตขึ้นจากโลหะผสมโครเมียม โดยใช้การออกแบบโครงสร้างบังตาซึ่งสะท้อนโครงตาข่ายของเฟรมหลัก โดยทั้งสองส่วนตอนนี้ถูกพ่นด้วยสีขาว ทำให้ Monster มีกลิ่นอายดุดันล้ำสมัย
ตัวรถยังถูกเปลี่ยนหน้าจอแสดงผลให้เป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ ถังเชื้อเพลิงคาร์บอนไฟเบอร์แบบใหม่ ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ได้รับการออกแบบครั้งแรกจากดินเหนียว จากนั้นสแกน 3 มิติ เพื่อสร้างมันขึ้นมา ส่วนโค้งของตัวถัง และส่วนเว้าไปด้านหน้าดูกลมกลืนกับแฟริ่งแบบเรียบ และครอบไฟหน้าอย่างลงตัว แถมยังมีการ์ดแฮนด์คาร์บอนไฟเบอร์ การ์ดโช้คคาร์บอนไฟเบอร์ รวมถึงชิ้นส่วนต่างๆ รอบคัน นอกจากนี้ยังมีปลายท่อไอเสีย SC-Project น้ำหนักเบาติดรถมาให้อีกด้วย
ในความพยายามที่จะเพิ่มพละกำลังให้มากขึ้นอีกเล็กน้อย ทางทีมงานได้ออกแบบแอร์บ็อกซ์แบบคัสตอม เพื่อติดตั้งตัวกรองอากาศ พร้อมกับรีแมพกล่อง ECU เพื่อให้จ่ายเชื้อเพลิงได้อย่างประสิทธิภาพมากที่สุด ในขณะที่ไฟส่องสว่าง เช่น ไฟสปอตไลต์ LED ที่ติดตั้งบนแครชบาร์นั้นเป็นงานมือทำ และไฟหน้าเปลี่ยนเป็นของ Enduro-Tech ที่ให้กำลังแรงสูง และแผ่นกันแคร้งของ Monster ติดแทนที่ของเดิมได้เลยโดยไม่ต้องดัดแปลง
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Motorcycle Magazine