2 BROTHERS OF TNT FAMILY TNT25 & TNT300
2 BROTHERS OF TNT FAMILY
TNT25 & TNT300
“ เอาเวลาทำงาน ไปขี่รถเล่นกันดีกว่า ”
คงต้องยอมรับกันแบบตรงๆว่าเราไปขี่รถเที่ยวกันจริงๆครับ…ในตอนแรกเราคิดแบบนั้นกันจริงๆ แหม ก็แบบว่าหลังปิดต้นฉบับ มันก็ต้องออกไปพักสมองกันบ้าง แต่อย่างว่าด้วยความเป็นพนักงานประจำอย่างเรา ไอ้ครั้งจะทะลึ่งไปไกลๆหลายวันในช่วงเวลาแบบนี้คงไม่น่าจะรอด ที่ๆไปเช้าเย็นกลับได้ โค้งมี ทางตรงดี เรียกได้ว่านึกอะไรไม่ออก “นครนายก” คือคำตอบที่ตอบโจทย์เราอย่างดีที่สุดในครั้งนี้จริงๆ หมดเรื่องสถานที่แล้ว เรียกได้ว่าหลับตาขี่ก็ไปกันถูก แต่ไอ้ปัญหาถัดมา คือ แล้วจะใช้รถอะไรในทริปนี้ดี เห็นพร้อมต้องกันว่า เอาชิล แต่ก็ไม่ขนาดจะเพลินจนเชื่องช้าเกินไป ….คิดไม่ออกโว้ย เล่นเฟสบุ๊คดีกว่า(อู้อีกแล้ว) แล้วเราก็ไปพบว่า มีคนตั้งกระทู้ประมาณว่า อยากได้รถมอเตอร์ไซค์ แบบว่าเป็นรถคันแรก โดยตั้งงบไว้ไม่เกิน150K(หนึ่งแสนห้าหมื่นบาท) รบกวนช่วยแนะนำที? ก็มีคนมาตอบค่อนข้างหลากหลาย ทั้งเพิ่มอีกนิด ไปนั่นสิ่ หรือ ทำไมไม่ลองเล่นตัวนั้นตัวนี้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนทัศนคติ และความคิดเห็นกันหลากหลาย แต่จากโจทย์ราคา และก่อนหน้านี้ ก็เพิ่งจะเปิดตัวไป ก็ดูจะมีไอ้เจ้าTNT25 นี่ล่ะมั้ง ที่เรายังไม่ได้ขี่ …ซึ่งนั่นก็ปิ๊งสมองพอดี เรารีบยกหูหาค่ายBENELLI อย่างทันท่วงที และรู้ตัวอีกที เราก็มายืนยิ้มกันอยู่หน้าโรงงานBENELLI เพื่อรอรับรถไปทริปนี้พอดี แน่นอนว่าเรามากัน2คน ไอ้ครั้งจะซ้อนกันก็ดูจะไม่เวิร์ค ก็เลยได้รถอีกคันหนึ่ง ซึ่งเป็นรุ่นที่ถูกผลิตและออกมาวางจำหน่ายก่อนหน้านี้ และก็นั่นแหละครับท่านผู้ชม ในทริปนี้ เราเลยได้ BENELLI TNT25 และ BENELLI TNT300 ร่วมเดินทางไปกับเราในครั้งนี้ ซึ่งแน่นอนว่าเราจะไปนครนายก โดยใช้เส้นทางรังสิต-นครนายก กับเส้นทางตรงยาว และมีโค้งบ้างสลับประปรายเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นเส้นทางยอดนิยมของใครหลายคนเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งจากระยะทางที่ไม่ไกลนัก ไปกลับ จากกรุงเทพไม่เกิน 200 กม. และสำหรับการเดินทางในวันธรรมดานั้น เรียกได้ว่าสงบเงียบดีจริง รถไม่เยอะ เส้นทางเคลีย มองทางได้ยาวๆ แวะปั๊มก็คนไม่เยอะ เรียกได้ว่าขี้ในปั๊มไม่มีกดดัน เอาจริงๆตลอดเส้นทางนี้เรา ทั้งทริปนี้สำหรับเรา2คน ได้ขับขี่ทั้ง BENELLI TNT25 และ BENELLI TNT300 กันทั้งคู่ โดยการสลับกันขับ เพื่อจับฟีลลิ่ง และความแตกต่าง ทั้งตัวคนขับขี่ซึ่ง สรีระแตกต่างกันแล้ว รถเอง ก็แตกต่างกันอีกด้วย แต่เดี๋ยวก่อน !!
ซึ่งความสำคัญตรงนั้นคงไม่ใช่เรื่องของการบรรยายหลักการทดสอบในเรื่องของเชิงลึก รวมไปถึงสเปก เฮ้ย!! ไม่ใช่จะไม่บอกนะ แต่ในเล่มเดียวกันนี้ เราแยกแยะ และเปรียบเทียบ2คันนี้ไว้แล้วในBIGBIKE BIKE OF THE MONTH ตามไปเสพต่อได้เลย
เรากลับมาที่เรื่องของการเดินทางของเราอีกครั้งนะครับ…การได้พบความรู้สึกที่สภาพอากาศดี มีลมหนาวให้คอยกระทบร่างกาย และไหลผ่านตัวไป ท่ามกลางการเปิดคันเร่งล่องลอยแบบชิลๆในวันแบบนี้ ถ้าเป็นภาษาวันรุ่นยุคโซเชียล คงต้องพิมพ์ว่า “ดีงาม” แต่คุณเอ้ย เราลืมไปว่านี่มันเมืองไทยช่วงปลายปี ความเป็นจริง คือ ร้อนบรม ระทมทั้งตัว ไอ้ลมหนาวที่หวังจะฝากฝังให้มันเย็นชื่นใจยามได้เข้าใกล้ธรรมชาตินั้น ก็หามีไม่ เรียกได้ว่าเหมือนขี่รถอยู่หน้าตู้คอมแอร์คอนดิชั่นยังไงยังงั้น ได้แต่บ่นพึมพรำไปในหมวกอย่างนั้นเอง
แม้จะเป็นสถานที่เดิมๆ ที่บอกใครไปว่าเคยไปมาแล้วอย่างนครนายก? แล้วไปที่ไหนล่ะ? เขื่อนขุนด่าน ใช่ไหม? น้ำตกวังตะไคร้? รึเปล่าล่ะ แต่สิ่งที่มันทำให้เราแตกต่างไปทุกครั้ง ก็เพราะยานพาหนะที่เราใช้ขับขี่มานั่นเอง ซึ่งต้องบอกว่าคราวนี้ก็เช่นเดียวกัน กับTNT25และ300 ที่พาเราเอาเวลางานมาเพลิดเพลินแบบนี้ก็ทำให้แตกต่างกันออกไป การเดินทางยืนพื้นที่130ก.ม. แบบสุขนิยม เนื่องด้วยเป็นพวกสโลวไลด์อย่างแท้จริง และรถนั้นเป็นสไตล์เน็กเก็ตไบค์ทั้งคู่ สำภาระก็มีเพียงกระเป๋าหลังแข็งที่บรรจุกล้องถ่ายรูปกับอุปกรณ์ส่วนตัวเล็กน้อย
แม้การเดินทางมาจังหวัดนครนายกจะใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ รวมไปถึงเส้นทางที่ค่อนข้างสะดวกสบาย และคนพื้นที่ก็ค่อนข้างจะคุ้นและชินกับรถจักรยานยนต์ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กอยู่แล้วก็ตาม แต่นักท่องเที่ยวอย่างเราเองก็ควรและย่อมที่จะป้องกันและระแวดระวังในการขับขี่กับพื้นที่และเขตชุมชนให้มาก การใช้ความเร็วในระดับที่เอาอยู่ ประเมินสถานการณ์ล่วงหน้า เพราะปัจจัยแวดล้อมตามเมื่ออยู่ต่างจังหวัด เรามักได้พบกับเรื่องเซอร์ไพร์บ่อยครั้ง ยกตัวอย่างเช่น การขับขี่รถแบบสโลวไลด์ของคุณลุง ที่นึกจะออกจากซอยริมทาง จู่ๆก็พุ่งขึ้นมาไม่มีการรีรอใดๆทั้งสิ้น หรือจะเป็นคุณป้าที่ดูแล้วนึกจะเลี้ยวแบบตัดเลนก็ทำเลย ไม่มีแม้แต่ไพสัญญาณเลี้ยวก็ตามที และอีกมากมายหลายตัวอย่าง ซึ่งส่วนหนึ่งแม้เกิดจากความเคยชินใดๆก็ตาม ดังนั้น เกราะป้องกันตัวเราเองในการเดินทาง ที่เราสองคนนึกถึงตลอดก็คือ “ปลอดภัยไว้ก่อน” ไม่ชัวร์ไม่บู๊ ไม่เวิร์คไม่เสี่ยง อีกหนึ่งอย่างในการเดินทางไปไหนก็ตามในเมืองไทยของเราที่มีความโชคดีอย่างหนึ่งก็คือร้านอาหารมากมาย นึกหิวก็เตรียมเปิดไฟเลี้ยวรอ แวะพร้อมลงไปโซโล่กับข้าวได้แทบจะง่ายดาย ไหนจะร้านสะดวกซื้อ ที่แวะจัดเครื่องดื่มดับกระหายก็ตามที แต่ด้วยความที่เราไปกันสองคัน เวลาจอด ด้วยตำแหน่งและรูปร่างของรถไปในทางเดียวกัน ก็พอจะชวนให้มีสายตาของวันรุ่น และเพื่อนร่วมทางเข้ามาทักทาย และถามไถ่ เช่นว่า รถรุ่นอะไรครับนี่? กี่ซีซี? ราคาเท่าไหร่? แรงมากไหม? จะไปไหนกัน? นี่ก็คืออีกเรื่องหนึ่งในการเดินทางทุกครั้ง ที่เรามักจะได้เจอผู้คนต่างๆ แตกต่างซึ่งสถานที่ เมื่อมีการพูดคุย การแลกเปลี่ยนทัศนกัน และการได้รับรู้ความสนใจจากผู้ขับขี่และมีความชอบจริงๆในเรื่องของสองล้อ สำหรับอาชีพอย่างเราก็ต้องถือว่า ได้รับข้อมูล ที่ค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาทั้งการทำงานได้อีกทาง(พยายามหาสาระมาประกอบข้ออ้างในการออกมาขี่รถเล่น แต่มันก็เรื่องจริงทั้งนั้นแหละ)
นึกแล้วทริปนี้สำหรับการนำ BENELLI TNT25 และ BENELLI TNT300 ขึ้นมาขี่เที่ยวเล่นในครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นการวอร์มและพักผ่อนสมองได้เป็นอย่างดี แม้การนอนหลับคือการพักผ่อนร่างกายได้ดีมากก็ตาม แต่สำหรับความรู้สึก ซึ่งเกณฑ์วัดในเรื่องนี้ของแต่ละคนย่อมไม่เท่ากัน และคนที่จะบอกเรื่องเหล่านี้ได้นั้น ก็ย่อมเป็นตัวของตัวเอง และแม้การขับขี่จะไม่ได้ตอบโจทย์สำหรับทุกคนก็ตาม แต่ถ้าคุณคิดว่าตัวคุณไม่ได้เหมือนกับคนทุกคน เราคิดว่าทุกการเดินทาง จะใกล้หรือไกล เรามักจะได้รับความรู้สึกที่พิเศษอยู่เสมอนั่นเอง
ขอขอบคุณBENELLI THAILAND ที่สนับสนุนรถ BENELLI TNT25 และ BENELLI TNT300 ในการเดินทางครั้งนี้