2022 BMW R 18 B and R 18 Transcontinental
![](https://motorcycmagazine.grandprix.co.th/wp-content/uploads/2021/09/001-780x470.jpg)
มนตร์ดำ “สายเที่ยว” เต็มระบบ ทั้งหรู ทั้งแรง
![](https://motorcycmagazine.grandprix.co.th/wp-content/uploads/2021/09/003.jpg)
ขี่ก่อน หล่อก่อน ทว่า รอสักหน่อย จะได้ของที่ดีกว่า!!!… เมื่อ BMW Motorrad ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์สัญชาติเยอรมัน สานต่อความสำเร็จของ BMW R18 รถครุยเซอร์ไบค์หัวใจ Boxer Engine เครื่องยนต์ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เปิดตัวรถโมเดลใหม่ภายใต้พิมพ์เขียวเดียวกัน โดยเป็นการนำเอาสไตล์อันโดดเด่นของ BMW R18 ผนวกเข้ากับเทคโนโลยีของรถมอเตอร์ไซค์ BMW ตระกูลทัวร์ริ่งขนาดใหญ่ ภายใต่รหัสต้นตระกูลใหม่นาม R18 B “Bagger” และ BMW R 18 Transcontinental “รถเที่ยว” ที่หยิบเอาฟังก์ชั่นเดินทางระดุบหรูจาก BMW R 1250 RT มาถ่ายทอดลงบนบอดี้ของ R18 ซึ่งถือเป็นภาพลักษณ์ใหม่ที่กลมกลืนนะวังความคลาสสิคและเทคโนโลยีความสะดวกสบายแห่งโลกอนาคตอย่างกลมกลืน
เด่นตาทีรูปทรงคลาสสิคของ R18 มาหร้อมหน้ากากโม่งขนาดใหญ่ ที่ช่วยละแรงปะทะของสาบลมสำหรับภาระกิจพิชิตดอย เส้นสายที่โค้งเว้า ปกป้องผู้ขับขี่ได้อย่างดี นี่คือโสตแรกของรถเที่ยวระดับหรูที่ใครเห็นก็ต้องแอบมอง โม่งหน้า ชิลดูง พร้อมไฟหน้าทรงกลม LED Headlight Pro ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชั่นครบครันไฟสูง, ไฟต่ำ และไฟหรี่ในโคมเดียวกันออกแบบมาได้อย่างลงตัว ที่เสริมด้วยนวัตกรรม Cornering light ที่สามารถปรับองศาได้เองในขณะที่เข้าโค้ง เพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่ในเวลากลางคืนได้อย่างดีเยี่ยม มาพร้อมไฟเลี้ยวทรงรีแบบ LED ที่ละมุนตา และเพราะให้เต็มลูปแบบรถเที่ยว ก็ไม่ลืมไปตัดหมอก LED มาอีก 1 คู่ ใต้โคมหลัก เพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่ยามค่ำคืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
![](https://motorcycmagazine.grandprix.co.th/wp-content/uploads/2021/09/006.jpg)
ไซด์เขื่องก็ต้องมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาดเขื่องพอๆ กัน นี่คือบล็อกเครื่องยนต์ที่ใหญ่ที่สุดที่ BMW เคยสร้างสรรค์มาBoxer Twin R18 แบบ 2 สูบนอน วางขวาง ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน ความจุ 1,802 ซี.ซี. ที่มาพร้อมพละกำลังสูงสุด 91 แรงม้าที่ 4,750 รอบ/นาที และขุมพลังแรงบิดอันมหาศาล 116 ฟุต-ปอนด์ ที่ 3,000 รอบ/นาที พร้อมถังน้ำมันขนาดใหญ่ความจุ 6.2 แกกลอน
ช่วงล่างอานิงสงค์ของ R18 แบบเทเลสโกปิกดีไซน์คลาสสิก มาพร้อมโช้คอัพคู่หน้าแบบเทเลสโคปิกขนาด 49 มม. พร้อมระยะยุบตัวมากสุดที่ 4.7 นิ้ว ซัพหลังแบบเดี่ยว กับระยะยุบของที่ 4.7 นิ้ว โดยสปริงพรีโหลดปรับได้โดยอัตโนมัติช่วยเพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่ และเพราะตัวรถนั้นมีขนาดใหญ่ น้ำหนักมากกว่า 300 กิโลกรัม จำเป็นที่จะจ้องมีเกียร์ถอยหลังมาให้ ซึ่งทำงานด้วยระบบไฟฟ้าเพื่อการใช้งานอย่างมีประสิทิภาพและปลอดภัย
R18 B และBMW R 18 Transcontinental ติดตั้งระบบดิสเบรกแบบคาลิเปอร์คู่ แบบ 4 พอต ที่ทำงานแมทกับโรเตอร์ขนาด 300 ม.ม. เบรกหลังคาลิเปอร์เดี่ยว สเปคเดียวกันพร้อมระบบ ABS ป้องกันล้อล็อกตายเวอร์ชั่นสูงสุดของ BMW ในขณะที่ล้อหน้า/ หลัง เป็นล้ออัลลอยลายสวย (หน้า) ขนาด 19 x 3.5 นิ้ว (ล้อหลัง) 16 x 5.0 นิ้ว ที่เลือกแมทยางมาให้คือ 120/ 70-19 และ 180/ 65-16 ตามลำดับ
แจ่มตามด้วยฟังก์ชั่นหน้าจอสี TFT ขนาดใหญ่ถึง 10.25 นิ้ว โดยใช้ทำหน้าที่เป็นหน้าจอมัลติมีเดียเป็นหลัก และระบบนำทางได้ด้วย ส่วนเรือนไมล์แบบเข็มด้านบนมีทั้งหมด 4 ชุด ได้แก่มาตรวัดปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง, มาตรวัดรอบเครื่องยนต์, มาตรวัดความเร็ว และกำลังของเครื่องยนต์ ฟังก์ชั่นที่ส่วนควบคุมต่างๆ เราลองขยับมาตามจิก ที่ประกับแฮนด์ด้านขวา ประกอบด้วยปุ่มควบคุมระบบไฟฟ้า, ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ประกับแฮนด์ทางด้านซ้าย เป็นปุ่มควบคุมไฟหน้า, ปุ่มเปลี่ยนโหมดต่างๆ ที่จะแสดงผ่านหน้าจอหลัก บริเวณคลัชท์น้ำมัน ตกแต่งฝาครอบโครเมี่ยม สอดรับกับฝาปั้มเบรกด้านขวาอย่างลงตัว ถังน้ำมันทรงหยดน้ำสไตล์คลาสสิก ความจุมากถึง 24 ลิตร (R18/ 16 ลิตร)
R18 B “Bagger” และ BMW R 18 Transcontinental มาพร้อมเบาะนั่งของตัวรถเป็นเบาะ 2 ตอนเล่นระดับ แยกส่วนของผู้ขับและผู้โดยสารออกจากกัน โดยเบาะผู้ขับมีความสูงอยู่ที่ (Bagger) 720 ม.ม. (Transcontinental) 740 ม.ม.ส่วนเบาะนั่งผู้โดยสารจะมีพนักพิงหลังมาให้เฉพาะในน R18 Transcontinental
ส่วนท่อไอเสียของทั้ง R18 B “Bagger” และ BMW R 18 Transcontinental เป็นท่อไอเสียโครเมี่ยมคู่ โดยมีการออกแบบใหม่ ตามพิมพ์นิยมในกลุ่มรถ American Cruiser ซึ่งแตกต่างจากรุ่น R18 อยู่พอสมควร ไฟท้ายเป็นแบบโคมเดียวรวมกับไฟเลี้ยว ชนิด LED ติดตั้งไว้กึ่งกลางบังโคลนท้ายและกระเป๋าสัมภาระดูละมุมตา
![](https://motorcycmagazine.grandprix.co.th/wp-content/uploads/2021/09/007.jpg)
รถเที่ยว สายขน ก็ต้องมีกล่องมากความจุ BMW R18 B มาพร้อมกล่องเก็บสัมภาระด้านท้านแบบคู่ ขนาดความจุรวมขนาด 27 ลิตร และเพิ่มเป็น 48 ลิตร ด้วยกล่องใบที่ 3 ในรุ่น Transcontinental ซึ่งสามารถเก็บหมวกกันน็อกแบบฟูลเฟซได้ถึง 2 ใบ
![](https://motorcycmagazine.grandprix.co.th/wp-content/uploads/2021/09/002.jpg)
อีกหนึ่งจุดเด่นของ R18 B และ BMW R 18 Transcontinental คือระบบเสียงทรงพลังด้วยชุดคุณภาพระดับไฮเอนของ Marshall ที่ติดตั้งไว้ทั้งด้านหน้าและด้านท้ายรถ ที่พร้อมส่งมอบพลังเสียงแห่งความสุนทรีย์ได้ตลอดการขับขี่…BMW R18 B “Bagger” เปิดราคาขายไว้ที่ $ 24,995 (875,000 บาท/ไม่รวมภาษี) ส่วน BMW R18 Transcontinental ขยับราคาขึ้นมาที่ $ 27,145 (950,000 บาท/ ไม่รวมภาษี) และมีให้เลือก 3 เฉดสีคือ ดำ (Black Storm Metallic), ทอง (Manhattan Metallic Matte) แต่ต้องจ่ายค่าสีเพิ่ม $ 500 และ ทูนโทน สีพิเศษ (Option 719 Galaxy Dust Metallic/ 2 Titanium Silver Metallic) ก็ต้องควักเพิ่มอีกถึง $ 2,400…!!!