2025 Bimota KB998 Rimini เตรียมจำหน่ายในแดนปลาดิบ ราคาเบาๆ แค่ 1.7 ล้านบาท

ในวันที่ 1 กันยายน 2025 นี้ เตรียมพบกับการเปิดตัวครั้งใหญ่ของ Bimota KB998 Rimini รุ่นใหม่ล่าสุดที่ค่าย Kawasaki จับมือกับ Bimota ผลิตรถระดับพรีเมียมที่เพรียบพร้อมทั้งสมรรถนะและความเท่จนสะกดทุกสายตา ตั้งเป้าวางขายผ่านดีลเลอร์ของ Bimota ที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ พร้อมราคาค่าตัวประมาณ 6.93 ล้านเยน หรือคิดเป็นเงินไทยก็ราว ๆ 1.7 ล้านบาท
2025 Bimota KB998 Rimini ไม่ได้มาตั้งเล่น ๆ เพราะเป็นการสานต่อสายเลือดนักแข่งของตระกูล KB ที่เริ่มต้นกันมาตั้งแต่ปี 1978 ไล่มาตั้งแต่ KB1, KB2, KB3, KB4 จนถึง KB4RC ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2022 และรุ่นใหม่นี้ ก็คือผลผลิตตัวล่าสุดที่บ่งบอกได้ชัดเจนว่า Bimota ยังไม่เคยหยุดพัฒนา
เครื่องยนต์ที่ใช้เป็นบล็อก 998 ซีซี จาก Kawasaki ที่อัดแรงม้าออกมาได้ถึง 200 ตัว ที่ 13,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 111 นิวตันเมตร ที่ 11,700 รอบ/นาที มาพร้อมกับโครงสร้างที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ผสมผสานระหว่างเฟรมตาข่ายที่ให้ความแข็งแรงแต่เบา พร้อมด้วยแฟริ่งคาร์บอนไฟเบอร์สุดล้ำที่มาพร้อม “ปีกแอโรไดนามิก” แบบแปรผัน สามารถปรับองศาได้ตามความเร็ว เพื่อให้รถมีแรงกดที่เหมาะสมในทุกสถานการณ์
และเพื่อให้มีความเหมาะสมในการนำไปแข่งขันในรายการระดับโลก ตัวรถยังถูกใช้เป็นต้นแบบของรถแข่งในรายการ World Superbike Championship (WSBK) ตั้งแต่ฤดูกาล 2025 เป็นต้นไป โดยภายใต้ทีม Bimota by Kawasaki Racing ซึ่งถือเป็นก้าวใหญ่ของแบรนด์ในการกลับมาสู่สนามแข่งอย่างเต็มตัว ที่สำคัญคือ พวกเขาวางแผนจะผลิตรุ่นนี้ออกมาจำนวนจำกัดเพียง 500 คันเท่านั้น เพื่อให้ผ่านเกณฑ์ Homologation ตามกฎของ FIM
อุปกรณ์ติดรถก็จัดเต็มสมชื่อ ไม่ว่าจะเป็นโช้คหน้ารุ่น BFF จาก Showa ขนาด 43 มม. โช้คหลัง BFRC Lite ที่ติดตั้งในแนวตั้ง เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนในทุกโค้ง พร้อมระบบเบรกเทพจาก Brembo ล้ออลูมิเนียมหล่อจาก Marchesini แบบ 7 ก้านสุดเท่ ที่สายซิ่งเห็นแล้วต้องร้องว้าว
ถ้าใครกำลังมองหาซูเปอร์ไบค์ที่ไม่ได้มีดีแค่ความแรง แต่ยังมีดีไซน์เฉียบคม เทคโนโลยีระดับสนามแข่ง พร้อมจำนวนจำกัดที่การันตีความเอ็กซ์คลูซีฟBimota KB998 Rimini ก็น่าจะเป็นตัวเลือกในฝันของใครหลายคน
ถ้าจะพูดถึงดีไซน์ ก็คงต้องบอกว่าสะดุดตาตั้งแต่หัวจรดท้าย โดยเฉพาะส่วนปีกปรับองศาได้ที่ไม่ได้มีไว้แค่โชว์ แต่ใช้งานได้จริง เพิ่มแรงกดที่ความเร็วสูงและลดแรงต้านอากาศให้ลื่นขึ้นในช่วงเร่ง ส่วนตอนเบรกก็ช่วยให้รถนิ่งลงอีกด้วย ซึ่งการดีไซน์แบบนี้เคยเห็นในรถแข่งระดับ MotoGP มาก่อน แต่ตอนนี้มันมาอยู่บนรถโปรดักชันที่คุณเป็นเจ้าของได้แล้ว
สรุปแล้ว ซูเปอร์สปอร์ตคันนี้ ไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียว แต่ยังแรงถึงใจ บวกกับสมรรถนะขั้นเทพ พร้อมจะลงสนามแข่งหรือขับเล่นหล่อ ๆ บนถนนก็ยังได้ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี ความหรูหรา และความดุดันที่ลงตัวที่สุด ๆ ใครอยากเป็นเจ้าของต้องรีบหน่อย เพราะมีเพียง 500 คันทั่วโลกเท่านั้น!
เรื่อง : ธราภณ วชิระธรกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย : Motorcycle Magazine
ติดตามข่าวสารยานยนต์ตามความต้องการรถใหม่ได้ที่ Motorcycle Magazine