ค่ายปีกนกได้เปิดตัว Honda NT1100 โมเดลปี 2025 ซึ่งเป็นโฉมที่ได้รับการปรับปรุงในหลายๆ ด้าน เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดรถจักรยานยนต์สปอร์ตทัวริ่งสำหรับตลาดยุโรป โดยมีการนำข้อมูลและข้อเสนอแนะจากผู้ใช้งานจริงมาปรับใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ครั้งนี้ เพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งสำคัญในกลุ่มเดียวกัน อาทิ BMW S 1000 XR, Yamaha Tracer 9 และ Kawasaki Versys 1000
2025 Honda NT1100 มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Suspension) ที่สามารถปรับตั้งค่าการทำงานได้อัตโนมัติแบบกึ่งแอคทีฟอย่าง Showa-EERA ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนลักษณะการตอบสนองของระบบกันสะเทือนให้เหมาะสมกับสภาพถนน และสไตล์การขับขี่ได้อย่างหลากหลาย
Honda ได้ออกแบบส่วนประกอบภายนอกของรถรุ่นนี้ใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะชิ้นส่วนแฟริ่งที่ได้รับการออกแบบให้มีรูปทรงที่เพรียวลมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งผลิตจากวัสดุ Durabio ซึ่งเป็นวัสดุสังเคราะห์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ บังโคลนหลังยังได้รับการออกแบบให้ยาวขึ้น 150 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำหรือสิ่งสกปรกกระเด็นมาเปื้อนผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย
การเพิ่มขนาดของเบาะหลังให้มีขนาดใหญ่ขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ และความจุกล่องสัมภาระเพิ่มขึ้นเป็น 4 ลิตร โดยกล่องสัมภาระซ้ายเพิ่มเป็น 37 ลิตร และกล่องสัมภาระขวาเพิ่มเป็น 36 ลิตร ทำให้ NT1100 มีพื้นที่เก็บของได้มากขึ้น เหมาะสำหรับการเดินทางไกล
ภายนอกยังมาพร้อมกับไฟส่องสว่างกลางวัน DRL และไฟหน้า LED แบบโปรเจ็กเตอร์คู่ คุณสมบัติอื่นๆ ที่มีมาให้เป็นมาตรฐาน ได้แก่ แฮนด์บาร์ ช่องจ่ายไฟ USB และ ACC รวมถึงหน้าจอแสดงผลแบบสีชนิด TFT ขนาด 6.5 นิ้ว พร้อมการเชื่อมต่อ Bluetooth รวมถึง Apple CarPlay และ Android Auto
ทางค่ายยังได้ใส่เทคโนโลยีจาก Africa Twin ES มาประยุกต์ใช้กับ NT1100 โดยมีโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 รูปแบบ ได้แก่ Urban, Tour และ Rain แถมยังมีโหมดปรับแต่งเอง (User) เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถปรับการตั้งค่าต่างๆ ให้เหมาะสมกับสไตล์การขับขี่ของตนเอง นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถปรับตั้งค่าพรีโหลดของสปริงได้อย่างละเอียดถึง 24 ระดับขณะขับขี่ เพื่อให้เหมาะสมกับน้ำหนักบรรทุกและสไตล์การขับขี่
แม้ว่ากำลังสูงสุดของเครื่องยนต์สองสูบคู่ขนาน ขนาด 1,100 ซีซี จะยังอยู่ที่ 100 แรงม้าเท่ากับรุ่นก่อนหน้า แต่ก็ยังได้รับปรับปรุงระบบส่งกำลังให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทำให้การออกตัวจากจุดหยุดนิ่งมีความนุ่มนวลมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงรอบต่ำถึงรอบกลาง ทำให้ได้แรงบิดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การตอบสนองของเครื่องยนต์ดีขึ้นเร่งแซงได้ทันใจ
2025 Honda NT 1100 มาพร้อมกับ 2 รุ่นย่อยให้เลือก โดยรุ่นมาตรฐานมีราคาเริ่มต้นที่ 12,679 ปอนด์ หรือประมาณ 555,700 บาท และรุ่นท็อปที่มาพร้อมระบบกันสะเทือนอิเล็กทรอนิกส์ ราคาอยู่ที่ 14,099 ปอนด์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 618,000 บาท
เรื่อง : ธราภณ วชิระธรกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย : Motorcycle Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Motorcycle Magazine
