2025 Yamaha MT-07 ลดน้ำหนัก อัพเดทเทคโนโลยี ขุมพลังเดิม
Yamaha MT-07 ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์สไตล์เนกเก็ตไบค์ เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 และ ในปี 2025 นี้ ได้มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นเจเนอเรชันที่ 4 โดยมีการปรับปรุงทั้งในส่วนของโครงสร้างตัวถัง ดีไซน์ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ น้ำหนัก และตำแหน่งการขับขี่ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น
แม้ว่าจะมีการออกแบบใหม่ที่ทันสมัย แต่ 2025 Yamaha MT-07 เจเนอเรชันที่ 4 ยังคงยึดมั่นในเครื่องยนต์ CP2 2 สูบคู่ขนาน ขนาด 690 ซีซี ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้รถรุ่นนี้เป็นที่รู้จัก โดยได้มีการปรับปรุงให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เป็นไปตามมาตรฐานไอเสีย Euro5+ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนถังเชื้อเพลิงมีขนาด 14 ลิตร ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด (Y-AMT มีให้เฉพาะรุ่น) พร้อมระบบแอสซิสต์และสลิปเปอร์คลัตช์
แม้ว่าจะยังคงรักษาสมรรถนะสูงสุดไว้ที่ 72.4 แรงม้า ที่ 8,750 รอบต่อนาที ถือว่าเป็นตัวเลขที่พอฟัดพอเหวี่ยงได้กลุ่มรถบิ๊กไบค์ขนาดกลาง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งรายสำคัญ เช่น Suzuki GSX-8S และ Honda CB750 Hornet พบว่า MT-07 อาจด้อยกว่าในเรื่องของกำลังขับเคลื่อนที่อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ขับขี่บางกลุ่ม
ตัวรถยังได้ใส่เทคโนโลยีคันเร่งไฟฟ้ามาใช้เป็นครั้งแรก เพื่อช่วยให้การควบคุมการตอบสนองของเครื่องยนต์มีความแม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งระบบขยายเสียงเครื่องยนต์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ เพื่อมอบประสบการณ์เสียงที่เร้าใจยิ่งขึ้น เหมือนกับที่ติดตั้งในรุ่นใหญ่กว่าอย่าง MT-09
เพื่อมอบประสบการณ์เสียงที่ดุดันยิ่งขึ้น ระบบขยายเสียงเครื่องยนต์ติดตั้งอยู่ด้านบนถังน้ำมัน 4 ช่องคล้ายๆ กันกับที่เห็นใน MT-09 เพื่อปรับปรุงการไหลเวียนของอากาศและขยายเสียงจากท่อไอเสียให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขับขี่ในช่วงความเร็วต่ำและเปิดคันเร่งประมาณ 25-50%
ด้วยน้ำหนักตัวที่ 183 กิโลกรัม ทำให้มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนหน้า 1 กิโลกรัม เบากว่า Honda Hornet 7 กิโลกรัม เบากว่า Suzuki GSX-8S ถึง 19 กิโลกรัม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการลดน้ำหนักโดยรวม แม้ว่าจะมีการเพิ่มอุปกรณ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาถึง 4.5 กิโลกรัม
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดน้ำหนักของรถคันนี้ คือ การใช้ล้ออัลลอยด์แบบหล่อขึ้นรูป (spin-forged) ขนาด 17 นิ้ว ช่วยลดมวลที่ไม่ได้รับแรงรับภาระได้ประมาณ 500 กรัม ลดแรงเฉื่อยที่ปลายล้อทั้งสองข้างลง 4% นอกจากนี้ ยังได้เลือกใช้ยาง Dunlop Sportmax Q5A ซึ่งเป็นยางประสิทธิภาพสูง เพื่อเสริมสมรรถนะในการขับขี่
ตำแหน่งการขับขี่ยังได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยมีการลดความสูงของเบาะนั่งลงเหลือ 805 มิลลิเมตร พร้อมทั้งปรับตำแหน่งแฮนด์บาร์ให้กว้างขึ้น 18 มิลลิเมตร ต่ำลง 22 มิลลิเมตร และเลื่อนตำแหน่งไปด้านหลังมากขึ้น 9.3 มิลลิเมตร ในขณะที่พักเท้าก็ถูกปรับให้ต่ำลง 10 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ รูปทรงของเบาะนั่งใหม่ได้รับการออกแบบให้โอบกระชับสรีระมากขึ้น ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
Yamaha ยังได้ทำการปรับปรุงระบบช่วงล่าง โดยได้เปลี่ยนมาใช้โช้คหัวกลับ USD ขนาด 41 มิลลิเมตร ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าโช้คเดิมประมาณครึ่งกิโลกรัม และได้พัฒนาระบบเชื่อมโยงโช้กอัพด้านหลังใหม่ โดยตัวโช้กอัพสามารถปรับตั้งค่าระยะยุบตัวและค่าความหนืดได้เอง นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งคาลิเปอร์เบรกคู่แบบเรเดียล 4 ลูกสูบที่ด้านหน้า ซึ่งเป็นครั้งแรกในรุ่น MT-07
ส่วนหน้าจอแสดงผลแบบสีชนิด TFT ในขนาด 5 นิ้ว เชื่อมต่อผ่านมือถือได้ ซึ่งสามารถจับคู่กับแอป Garmin StreetCross ฟรีได้อีกด้วย ด้านโหมดการขับขี่มี 3 แบบ รวมถึงระบบควบคุมการยึดเกาะถนน 2 ระดับ
ราคาค่าตัวคาดว่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากรุ่นปัจจุบัน ในขณะที่รุ่นใหม่นี้จะมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเทา Ice Storm, สีน้ำเงิน Icon Blue และสีดำ Tech Black
เรื่อง : ธราภณ วชิระธรกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย : Motorcycle Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Motorcycle Magazine