1968 Norton Atlas
1968 Norton Atlas
นวัตกรรม “ก้าวพลาด” บทสรุปความไม่ลงตัวของ “แอทลาส”
“J Desmo Works” เพราะคลั่งในสายรถซิ่ง สมรรถนะที่แรงสุดขั้วคือความพิสมัยใคร่ลอง
ขี่รถอังกฤษต้อง “หกแรงครึ่ง” ถึงจะ…เทพ!!! แต่นี่ “เจ็ดแรงครึ่ง” คงเรียก…พรหม!!! ไม่ต้องพูดพร่ำ นี่ “แอทลาส” (Atlas) รถพิม์พเขียวคลาสสิก ที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดตลอดกาล เครื่องใหม่ เครื่องใหญ่ วางบนโครงสร้างที่ดีที่สุด (Featherbed Frame) ก็ช่วยไม่ได้ ที่สนนราคาค่าตัวในวันเปิดตัวในปี 1964 นั้น ต้องขยับขึ้นไปถึง…พรีเมียม!!!
สวยลงตัวในแบบ “อังกฤษสายซิ่ง” เครื่องยนต์บล็อกใหม่ของ ATLAS ที่ใส่เข้าไปในเฟรมเดิมของโมเดล 88 มันแรงจัดกว่าเดิมมาก เพราะขยับเป็น 750 ซี.ซี. 58 แรงม้าที่ 6,800 รอบ/นาที ทว่า ใช่งานจริง อาการสั่นสะท้านของเครื่องยนต์ กลับทำให้การขับขี่ในแบบทั่วไปนั้นสะท้านเกินงาม แถมราคาวางขายในตลาดยังแพงระยับ!!!
The Most famous name in motorcycling…“นอร์ตัน” ชื่อนี้ฮิตที่สุดในหมู่นักซิ่ง!!!…คือคำประกาศกร้าวบนหน้าโฆษณาของสื่อยักษ์ใหญ่ของประเทศอังกฤษ หลังจากข่าวการคว้าชัยสะสมของ Manxman สามารถทำเร็คคอร์ดและครองความยิ่งใหญ่ในฐานะเจ้าความเร็วจนถึงยุคปี 1962…35 ปีกับการพัฒนางานวิศวกรรม “รถแข่ง” คันแรก…จน…ได้สมรรถนะของเครื่องยนต์ที่รังสรรค์ขุมกำลังได้สูงถึง 47 แรงม้าที่ความเร็วสูงสุด 140 ไมล์/ชม. (225 กม./ชม.) เหลียวซ้าย แลขวา ก็ยากที่จะหาคู่แข่งต่อกรที่ดูจะสมน้ำสมเนื้อ ทั้งที่ยุคนั้น “เครื่องยนต์พาณิชย์” บล็อกที่ใหญ่ที่สุดของ Norton นั้นมีปริมาตรกระบอกสูบเพียง 650 ซี.ซี. เท่านั้น และเพื่อให้สมรรถนะเครื่องยนต์นั้นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โครงสร้างเฟรมแบบ “คานคู่” อานิงสงส์จากรถต้นเรื่องที่เรียกว่า Featherbed Frame ยังถือเป็นโครงสร้างที่ได้รับการพัฒนาควบคู่ ทั้ง model 88/ 99 กระทั่ง Dominator 650SS ต่างได้รับจัดสรรปันส่วนผสมนี้ในรูปแบบของ “รถตลาด” ที่สามารถสร้างเม็ดเงินให้ Norton จนเป็นปึกแผ่นมั่นคง
ขุมพลังขนาดใหญ่ที่สุดที่ถูกพัฒนาขึ้น จุดระเบิดคู่ 2 คาร์บิวฯ วางตั้งตรง ทรงพลัง บนเฟรม Featherbed ที่การณ์นี้ไม่เพียงพอกับแรงบิดที่ส่งผ่านออกมา นี่คือรุ่นสุดท้ายของรหัส 20 ที่ต้องเปลี่ยนเฟรมในโมเดลของ P11 (Scrambler)
หลังจากที่มั่นอกมั่นใจ ในไลน์การผลิตของโรงงานที่มีอยู่ ปลายปี 1962 Dominator 650SS ก็กลับ…สู่…ความสนใจอีกครั้ง Norton ยังคงอยากก้าวผ่านคู่แข่งอีกหน “เม็ดเงิน” ก้อนโตจึงได้รับการเบิกจ่าย…สู่…โครงพัฒนาเครื่องยนต์ตัวใหม่ ที่ยุคนั้นใครๆ ก็เดาได้…ว่า…มันต้องแรงขึ้น!!!
มิติของท่านั่งที่เป็นเอกลักษณ์ นี่แหละ “รถซิ่ง” ในตำนาน บาร์ตรง ไมล์ลอย มีวัดรอบ และ Norton ยังคงใช้โช้คหน้าคุณภาพเกินคู่แข่งของ Roadholder
มันเป็นตามที่ “ตลาด” คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า Norton Atlas (Atlas/แผนที่นักเดินทาง) คือเครื่องยนต์บล็อกใหม่ที่ได้รับการอัปเกรด ภายใต้โครงสร้างเฟรมแบบ Featherbed ที่เลื่องชื่อเรื่องความแข็งแกร่ง เครื่องยนต์จุดคู่ สูบตั้ง ความจุใหม่ขนาด 45 คิวฯ (745 ซี.ซี.) บนปริมาตรกระบอกสูบขนาด 73/89 มม.…ความเร็วที่เคลมไว้ตอนต้นที่ 150 ไมล์/ชม. (240 กม./ชม.) กับแรงม้าที่ขยับอีกถึง 58 ตัว…มันมีคาร์บูเรเตอร์แบบคู่ของ AMAL ขนาด 30 มม. มีมาตรวัดแบบเดียวกับที่ใช้ในเครื่องบิน บนกะโหลกไฟใหญ่ขนาด 8 นิ้ว จุดระเบิดด้วยแมกนีโตที่ทำงานออโต้ตามรอบเครื่องยนต์ ช่วงหน้าติดตั้งโช้คอัพรุ่นพิเศษของ Road Holder กับเบาะยาว 2 ตอนที่นั่งสบายขึ้น กับซัพหลังสวิงอาร์มที่ติดตั้งโช้คอัพของ Armstrong ที่สามารถปรับตั้งได้ถึง 5 ระดับ และมีเวสเทิร์นบาร์ (แฮนด์ยก) ให้เลือกสรรเป็นออปชัน ไม่บอกก็รู้ว่ามันทำเสิร์ฟลูกค้า…ตลาดใด…??
ภาพลักษณ์ที่ “ติดตา” นั้น มาพร้อมเฟรมบอดี้สีดำตัดกับถังน้ำมันขนาดใหญ่สีบรอนซ์เงินความจุ 13.5 ลิตรทรงสปอร์ต กับโลโกยาว พร้อมยางข้างถัง ดีไซน์นี้พัฒนาจนเหมือนเป็นลายเซ็นที่ชัดเจนที่สุดของ Norton
ขับหน้าโซ่ ฝาครอบโครม คลาสสิก ที่มาพร้อมความสวยงาม ระบบไฟปั่นเลี้ยงเครื่องยนต์ มันทันสมัยและตัดปัญหายิบย่อยออกไป นี่เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ได้รับการติดตั้ง
ภาพลักษณ์ของ Atlas ที่ “ติดตา” นั้น มาพร้อมบอดี้สีดำตัดกับงานโครมเงาวับ กับถังน้ำมันขนาดใหญ่สีบรอนซ์เงินความจุ 13.5 ลิตร ทว่า เพราะสมรรถนะที่จัดมาให้ “เต็ม” นั่นหมายถึงคุณจะต้องมีอันจะกินสักหน่อย พูดง่ายๆ คือมันแพง…ง…!!! แพงมากเสียด้วยซิ กระนั้นการใช้งานจริงบนท้องถนนกลับกระด้างและสั่นไหวมากขณะเครื่องยนต์สันดาป (ชัดเจนมากเมื่อเทียบกับ 650SS) Featherbed ดูจะไม่ลงตัวแล้วสำหรับเครื่องยนต์บล็อกนี้เสียแล้ว จะเรียกว่าเป็นการ “ก้าวพลาด” ของทีมสร้างสรรค์ก็เห็นจะได้…หลังทนเสียงรบเร้าแกมข่มขู่จากทีม “หาตังค์” ไม่ไหว…สุดท้าย…Atlas ก็ตกลงยกเครื่อง “เฟรม” ตัวใหม่ได้รับการพัฒนาขึ้น ในขณะที่เครื่องยนต์ก็ได้รับการปรับวางมุมองศาใหม่อีกเล็กน้อย และเราก็ได้เห็นชื่อของ Commando 750 จึงอุบัติขึ้น…ในบัดดล…!?!?!
จุดขายที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากรถแข่ง Manxman นี่คือโครงสร้างเฟรม Featherbed ที่ดีที่สุด ทว่า เมื่ออัปเกรดเครื่องยนต์ใหญ่เข้าไป องศาที่ตั้งตรง มันกลับสั่นไหว แรงเกินไปจนคนขับรู้สึกไม่สบาย
ท่อไอเสียฟอร์แมตโรงงานของ Norton รูปทรงที่อ่อนช้อย มีเส้นสายที่โค้งเว้าและสุ้มเสียงที่คุ้นหู
1968 Norton Atlas
รถ / รุ่น NORTON / ATLAS
ปีผลิต 1964-1968
เจ้าของ J-DESMO WORK
เครื่องยนต์ Parallel Twin ก้านกระทุ้งวาล์ว 2 สูบ 4 จังหวะ 745 ซี.ซี.
ระบายความร้อนด้วยอากาศ
แรงม้าสูงสุด 58 แรงม้าที่ 6,800 รอบ/นาที
กระบอกสูบ / ช่วงชัก 73 / 89 มม.
กำลังอัด 8.9:1
ระบบไฟ อิเล็กทรอนิกส์
คาร์บูเรเตอร์ 2 x Amal Concentric
ระบบเกียร์ 4 เกียร์ (เท้า)
ระบบคลัตช์ แห้ง (หลายแผ่น / ใช้ไอน้ำมันเครื่องเลี้ยง)
ระบบขับเคลื่อน โซ่
ระบบโช้คอัพ (หน้า/หลัง) เทเลสโคปิก / สวิงอาร์มโช้คน้ำมัน (ปรับ 5 ระดับ)
ระบบเบรก (หน้า/หลัง) ดรัมเบรก (ดุมเต็ม / หน้าดุม Commando Twin Shoe)
ขนาดยาง (หน้า/หลัง) ล้อหน้า 3.25 / 19-หลัง 3.50 / 19 นิ้ว
อ้างอิง : THE ENCYCLOPEDIA OF THE MOTORCYCLE / Hugo Willson
: ON 2 WHEEL / Roland Brown
: NORTON CLASSIC MOTORCYCLE / Roy Morley
: https://www.classicbike.biz/Norton