1951 Norton model 7 Dominator
1951 Norton model 7 Dominator
2 สูบ “จุดคู่” พิมพ์เขียวดั้งเดิมจาก “นอร์ตัน”
ผ่านไปกี่ปี กี่ปี ก็ยังสวย “ไม่สร่าง” เพราะนอนในห้องแอร์ตลอด เรื่อง “ความกริ๊ป” ยังคงเต็มเปี่ยม นี่คือรถวินเทจ “คันแรก” ที่เราต้องตามเข้าไปจิกซ้ำ Norton model 7 Dominator รถจุดระเบิดคู่ โช้คสไลด์ รถแท้ๆ จาก “นาวาพานิช” ที่หลงเหลือในสยามเพียงไม่กี่คัน และหากพิศถึงเรื่อง “ความสมบูรณ์” แทบไม่ต้องกังวลว่านี่คือ “โมเดียวเซเว่น” ที่อยู่ในตำแหน่งบนสุดของ…ห่วงโซ่!!!
เครื่องยนต์ Parallel Twin 2 สูบ 4 จังหวะ 497 ซี.ซี. คือขุมพลังขับเคลื่อนเจ้า Model 7 คันนี้ บล็อกนี้พัฒนาขึ้นใหม่จาก Bert Hopwood คนนี้ออกแบบมาแล้วทั้ง Ariel/BSA ทั้งชุดเกียร์ คลัตช์ ยังคงเป็นพาร์ทแท้ๆ ของโรงงาน Norton
ย้อนปมกลับไปยังยุครุ่งโรจน์ของ “นอร์ตัน” คงไม่แปลกหากผู้ผลิตรถจักรยานยนต์แบรนด์นี้จะกระตือรือร้นมาขอเอี่ยวส่วนแบ่งทางการตลาด หลังรับรู้ปริมาณความต้องการจากผู้บริโภคในช่วง “ขาขึ้น” เจ้าของตลาด Triumph ฉวยโอกาสด้วยการออก Speed Twin เครื่องยนต์แบบ Parallel Twin ทันทีที่สิ้นยุคของสงคราม (World War II) ซึ่งกว่า Norton จะพร้อมออกเครื่องยนต์แบบใกล้เคียงกันนี้ก็ล่วงเลยเวลามาถึงปลายเดือนพฤศจิกายน ปี 1948…Norton model 7 Dominator กับการเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์ใหม่แบบ 2 สูบ 4 จังหวะ OHV ขนาด 500 ซี.ซี. จุดระเบิดคู่ ทว่า กลับยังคงพื้นฐานการออกแบบรวมถึงชิ้นส่วนต่างๆ ชุดเกียร์ เฟรมโช้คสไลด์ (Plunger-Frame) แบบเดียวกับที่ใช้ในรุ่น ES2 (เครื่องยนต์แบบ Single ขนาด 500 ซี.ซี.) เครื่องยนต์แบบใหม่นี้ ตำแหน่งของจุดยึดแคมชาฟท์ถูกย้ายมาอยู่ที่ด้านหน้าของเสื้อสูบ ก้านกระทุ้งวาล์ว (Pushrods) ถูกออกแบบซ่อนการทำงานอยู่ภายในเสื้อสูบแบบเหล็กหล่อ ซึ่งการออกแบบทั้งหมดนั้นเป็นผลงานคุณภาพจากนักออกแบบชื่อดังนาม Bert Hopwood (เบิร์ท ฮอปวูด)
โช้คอัพหน้าหูช้างจับกะโหลกไฟ Norton เลือกใช้พันธมิตร Roadholder มาโดยตลอด และปี 51 ฝาดุม (เสี้ยว) เป็นฝาอะลูมิเนียมที่ระบายความร้อนได้เร็วกว่า
เฟรมโช้คสไลด์อานิสงส์ที่ถ่ายทอดจากรุ่น ES2 ถึง Model 7 กับชิ้นส่วนต่างๆ ที่ติดตั้ง มันดูคลาสสิก
โครงสร้างเฟรมโช้คสไลด์ (Plunger-Frame) แบบฉบับของ Norton กลับมีอายุอานามไม่นานนัก จากฐานะการเงินของบริษัทที่มีทิศทางในช่วง “ขาลง” สุดท้ายก็ต้องขายกิจการให้กับสมาคมผู้ประกอบการผลิตรถจักรยานยนต์อย่าง AMC (Associated Motor Cycles) ในปี 1952 ไลน์การผลิตหลังจากนั้นจึงออกมาจากโรงงานของ Matchless และทางเดียวที่จะอยู่รอดต่อไปคือต้องมีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่อีกครั้ง Featherbed-Frame (เฟรมคานคู่บน-ล่าง) ถูกนำมาแทนที่ หลังมันได้รับการการันตีจากรายการแข่งขันด้วยผลงานยุคทองจาก Norton Manx โปรดักต์ในไลน์ถัดมาจึงช่วยไม่ได้ที่จะติดตั้งโครงสร้างนี้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
กรอบเรือนไมล์ปั๊มครอบหัวโช้ค เอกลักษณ์เฉพาะรุ่น Model 7 มีปรับฝืดตรงกลาง ส่วนโคมหน้าเป็นหัวลอย จับด้วยหูช้าง ซึ่งผิดที่ใช้พาร์ทของ Miller ทั้งหมด
ถังน้ำมันขนาดใหญ่ที่เล่นเส้นสันที่ด้านข้าง พร้อมยางข้างถัง ทำลายแบบดั้งเดิม ที่แปลกตาเห็นจะเป็นเกจ์วัดแรงดันน้ำมันเครื่องที่ต่อตรงมาโชว์ไว้บนถัง
ถึงไลน์การผลิตของ model 7 Dominator จะมีเพียง 4 ปีเท่านั้น แต่มันกลับได้รับการกล่าวขวัญถึงว่านี่คือแบบฉบับรถธรรมเนียมแท้ๆ จากโรงงานของ Norton โมเดลปี 1951-1952 ที่ได้รับการปรับแต่งในจุดที่น่าสนใจ ล้อหน้าขนาด 21 นิ้วในรุ่นปี 1949-1950 ถูกปรับเปลี่ยนเป็นขนาดของรถตลาดที่ 19 นิ้ว ฝาดุมแบบเหล็กหล่อก็ได้รับการแก้ไขแทนที่ด้วยวัสดุอะลูมิเนียมที่ให้ผลในเรื่องการระบายความร้อนที่…ดีกว่า…!?!?!
ประกับคันเร่ง ออปชันของแต่ง สามารถล็อกคันเร่งได้ ระบบความปลอดภัยที่คิดขึ้นได้ในยุคนั้น
รถ “นาวาพานิช” แท้ๆ ดีลเลอร์ Norton/BMW ในบ้านเรา จะให้เหรียญตราที่จะให้กับเจ้าของรถทุกคนที่ถอยใหม่ออกไป
เหมือนเป็นโลโกไปแล้ว “โนล โมเดล 7” ถึงจะทำ Harley-Davidson แต่ก็ยังรัก Norton ไม่เสื่อมคลาย
1951 Norton model 7 Dominator
รถ NORTON
รุ่น/ปี model 7 Dominator / 1951
เจ้าของ บรรลัยการาจ พังพานาศการช่าง
เครื่องยนต์ Parallel Twin 2 สูบ 4 จังหวะ 497 ซี.ซี.
กระบอกสูบ x ช่วงชัก 66 x 72.6 มม.
ระบบเกียร์ 4 เกียร์ (ขวา)
ระบบคลัตช์ แห้ง ( 5 แผ่น / ใช้ไอน้ำมันเครื่องเลี้ยง)
ระบบขับเคลื่อน โซ่
ระบบโช้คอัพ (หน้า/หลัง) เทเลสโคปิก Roldholder / สไลด์ Plunger
ระบบเบรก (หน้า/หลัง) ดรัมเบรก (ดุมเสี้ยว)ม็ม้H บนล้อขนาด 19 นิ้ว
อ้างอิง : THE ENCYCLOPEDIA OF THE MOTORCYCLE / Hugo Willson
: ON 2 WHEEL / Roland Brown
: https://en.wikipedia.org/wiki/Norton_Motorcycle_Company
STORY : AJS / PHOTO : KWANG KDJ.