Biker Story

“ดร.วราพร วิริยะยุทมา (อิสซี่)” ด็อกเตอร์สาวผู้โลดเล่นอยู่บนโลกแห่งความเร็ว!!!

เอาล่ะในเมื่อช่วงนี้กระแสของรถมอเตอร์ไซค์ใหญ่ หรือที่เราเราเรียกกันจนคุ้นหูว่า Big Bike นั้นช่างมาแรงซะเหลือเกิน อีกทั้งในตอนนี้มันยังได้แพร่ระบาดเข้าไปสู่สังคมของหมู่สาวๆในบ้านเรากันแล้วด้วย นั่นก็หมายความว่าต่อไปนี้เราจะได้เห็นสาวๆสวยๆหุ่นดีๆออกมาใส่ชุดหนังอวดโฉมกันบนหลังอานรถมอเตอร์ไซค์ Big Bike กันมากขึ้น หรือในตอนนี้หลายๆคนอย่างเช่นตัวผมเองนั้นมองว่ามันเป็นเรื่องปกติของสังคมยุคนี้ไปเสียแล้ว เพราะด้วยต่างคนต่างเร่งรีบ ต่างต้องแข่งขัน เวลาจึงเข้ามาเป็นส่วนเกี่ยวข้อง และแน่นอนการอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯเช่นนี้ การเดินทางที่จะช่วยประหยัดเวลาได้มากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น…รถมอเตอร์ไซค์

ซึ่งคอลัมน์ Biker Story ของเราในฉบับนี้ก็ไม่พลาดที่เราจะหยิบยกเรื่องราวของอีกหนึ่งหญิงสาวที่เธอมีดีกรีเป็นถึงด็อกเตอร์นักเรียนนอกจากสหรัฐอเมริกา ที่ผันตัวเองมาเป็นนักแข่งรถมืออาชีพ โดยอะไรที่ทำให้เธอนั้นหันมาสนใจรถ Big Bike และอะไรที่ทำให้เธอได้หันหน้าเข้าสู่โลกแห่งความเร็วเราไปทำความรู้จักกับเธอกันเลยดีกว่ากับ ดร.วราพร วิริยะยุทมา หรือ อิสซี่ แห่งร้าน Candy Stripe Moto & Café…..

Q : เริ่มต้นขี่รถ Big Bike ได้อย่างไร ?
A : จริงๆแล้วคำถามนี้อิสซี่โดนถามบ่อยมาก มันเป็นการเริ่มโดยไม่ได้ตั้งใจมากกว่า ตอนนั้นอิสซี่เรียนอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย แล้วอิสซี่ก็ต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย แล้วที่นั่นเขาจะเคร่งเรื่องเวลามากคือสายไม่ได้เลย แล้วบังเอิญวันนั้นเป็นจังหวะที่รถของอิสซี่ติดอยู่บนทางด่วนซึ่งอิสซี่ก็สายแล้ว จังหวะนั้นเองมีรถ Big Bike ขี่ผ่านรถเราไปฟิ้ววววว คือผ่านไปแบบนุ่มๆเลยเหมือนกับเขาไหลไปตามช่อง อิสซี่ก็เฮ้ยนี่มันขึ้นมาทางด่วนได้ด้วยเหรอ ก็คือเหมือนกับตอนนั้นอิสซี่ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับรถมอเตอร์ไซค์พวกนี้เลย ตอนนั้นอิสซี่ก็คิดว่านี่ถ้าเรามี Big Bike ตอนนี้เราก็คงจะไปได้เร็วกว่านี้ เราคงไม่ต้องมาติดแหง็กอยู่บนทางด่วนแบบนี้ นี่ล่ะค่ะเป็นที่มาที่ทำให้อิสซี่ซื้อรถ Big Bike คันแรกมาขี่

Q : รถคันแรกที่ซื้อมา ?
A : ก็หลังจากที่ได้เห็นรถ Big Bike บนทางด่วนในวันนั้น ตกเย็นกลับมาถึงบ้านอิสซี่ก็เริ่มค้นหาข้อมูลต่างๆในอินเทอร์เน็ตทันที อิสซี่จึงได้ทราบข้อมูลมาว่ารถ Big Bike สามารถขึ้นทางด่วนได้ทุกที่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ตัวรถต้องมีขนาด 250 ซีซี ขึ้นไป จากนั้นอิสซี่ก็เริ่มหาว่ารถที่มีขนาด 250 ซีซี ราคาเท่าไหร่ ตอนนั้นอิสซี่ไปจบลงด้วยรถมือ 4 ซึ่งเป็นรถ Big Bike ขนาด 250 ซีซี จากประเทศจีน ซึ่งนั่นก็เป็นรถมอเตอร์ไซค์คันแรกที่ได้มาครอบครอง

Q : ขี่ครั้งแรกเป็นยังไงบ้าง ?
A : ตอนซื้อมายอมรับเลยค่ะว่าขี่ไม่เป็นก็ได้แต่ขัดๆถูๆตามประสาไบค์เกอร์มือใหม่ จนอิสซี่ลองจูงรถออกมานอกบ้านพัก แล้วมันเป็นทางลาดอิสซี่ก็กำเบรกหน้ารถก็เลยล้มแปะลงไป อิสซี่คิดในใจว่าจะไหวไหมเนี่ยขนาดไม่ได้ขี่ยังล้มเลย อิสซี่ก็เลยบอกกับตัวเองว่าไม่ได้แล้วแบบนี้ อิสซี่จึงเริ่มไปศึกษาดูวิธีการขับขี่จากอินเทอร์เน็ตว่าเขาเริ่มกันยังไง มาคราวนี้อิสซี่ก็เอาใหม่เราไม่เข็นลงมาจากบ้านแล้ว แต่ค่อยๆกำครัชไหลลงมาจากบ้านเลย เฮ้ยมันก็ขี่ได้นี่หน่าแล้วก็ขี่ไปดับตรงสี่แยกไฟแดงแถวบ้าน แล้วก็เริ่มหัดขี่วนๆตรงแถวบ้านนั่นล่ะค่ะจนเริ่มขี่ได้รถไม่ดับ จนอิสซี่อยากจะขี่ออกถนนใหญ่ อยากขี่ไปทำงานขี่ใช้งานแล้ว อิสซี่ก็เลยไปสอบใบขับขี่มาจนได้ และก็ได้ขี่สมใจอยาก

Q : อยู่ต่างประเทศมีขี่ไปออกทริปบ้างหรือเปล่า ?
A : ก็มีนะค่ะตอนนั้นอิสซี่ขี่ไปกลับที่ทำงานอยู่บ่อยๆ จนเหมือนมีไบค์เกอร์คนอื่นๆที่เขาเห็นเราเขาก็เข้ามาทักทาย เพราะตอนนั้นไบค์เกอร์ที่เป็นผู้หญิงจะไม่ค่อยมีจะหายาก เขาก็เข้ามาพูดคุยชวนอิสซี่ไปทำกิจกรรมไปขี่รถออกทริปกับเขา อิสซี่ก็เลยลองไปดูแล้วอิสซี่ก็ชอบนะได้เจอสังคมใหม่ๆ ได้เจอโลกใหม่ๆ เพื่อนใหม่ๆ และตอนนั้นบังเอิญว่าเพื่อนในกลุ่มใช้รถ Triumph กันหมดเลย อิสซี่ก็คิดว่าไม่ได้แล้ว ซึ่งตอนนั้นอิสซี่ขี่อยู่กับกลุ่มเขาได้ประมาณ 3 เดือน อิสซี่ก็เปลี่ยนรถเลย ตอนนั้นเปลี่ยนเป็น Triumph Daytona 675 สเปเชียลอีดิชั่น แฟริ่งดำ เฟรมดำ ล้อทอง ซื้อมาตอนนั้นมีความรู้สึกว่ามันเป็นรถที่สวยมากแล้วก็หายากมากด้วย

Q : เริ่มเข้าสู่วงการแข่งรถได้อย่างไร ?
A : จริงๆแล้วก็เริ่มมาจากขับรถท่องเที่ยวออกทริปกับกลุ่มเพื่อนๆนี่ล่ะค่ะ แล้วก็มีคนนู้นคนนี้เข้ามาพูดคุยด้วยรวมไปถึงพวกนักแข่ง เขาก็เข้ามาพูดกับอิสซี่ว่ารถพวกเธอนี่มีประสิทธิภาพสูงนะ ลองไปขี่ในสนามกันดูไหม อิสซี่ก็เริ่มคิดว่าเราจะไปยังไง ก็เลยเริ่มค้นหาข้อมูลจากทางอินเทอร์เน็ต อิสซี่เลยรู้มาว่าลงสนามนี่ต้องใส่ชุดเต็มนะ รองเท้าก็ต้องเป็นรองเท้าบูทเรซซิ่งนะ แล้วในระหว่างที่อิสซี่เก็บเงินซื้อของนู่นนี่นั่นไปเรื่อยเปื่อยบนอินเทอร์เน็ต อิสซี่ก็ได้ไปรู้จักกับอดีตนักแข่งรถผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเขาค่อนข้างที่จะโด่งดังมาก่อน เพราะพ่อเขาก็เป็นนักแข่งรถมาเหมือนกัน แล้วเหมือนกับว่าเขาลงแข่งแล้วล้มจนทั้งตัวเขาตอนนี้ใส่แต่น็อต เขาก็เลยผันตัวเองจากนักแข่งมาเป็นครูสอนแทน อิสซี่ก็เลยเริ่มปรึกษาเขาทาง Facebook ว่าอิสซี่ควรจะเริ่มต้นอย่างไรดี ซึ่งเขาก็บอกอิสซี่ว่าต้องทำอย่างนี้ นี้ นี้ จนอิสซี่ก็โอเคได้มีโอกาสมาเรียนกับเขาแล้วอิสซี่ก็มีเขานี่ล่ะเป็นครูคนแรก แล้วก็เป็นไอดอลของอิสซี่มาจนถึงทุกวันนี้ จนอิสซี่ได้มีโอกาสไปเรียนกับเขาเป็นครั้งที่สอง เขาก็มาพูดกับอิสซี่ว่าเขาอยากจะถ่ายทอดทุกอย่างให้กับอิสซี่ ให้อิสซี่มาทำหน้าที่แทนเขาไอเราก็คิดว่าจะไหวเหรอเพราะอิสซี่ก็ไม่ได้เกิดมาที่จะเป็นนักแข่ง ทุกอย่างมันจึงเป็นเรื่องบังเอิญ เป็นเรื่องของจังหวะชีวิตมากกว่าที่ทำให้อิสซี่ได้มาแข่งรถจนถึงปัจจุบันนี้

Q : เข้าร่วมทีม Ducati Thailand ได้อย่างไร ?
A : ตอนนั้นหลังจากที่อิสซี่ลงแข่งขันในรายการ R2M ในประเทศไทยไปจนจบซีซั่นทาง Ducati Thailand ก็เรียกอิสซี่เข้าไปพูดคุย ว่าทางเขาอยากจะได้ตัวอิสซี่เข้าไปร่วมทีมซึ่งอิสซี่ก็ตอบตกลง เมื่อเปิดฤดูกาล 2014 มาอิสซี่ก็เป็นนักแข่งในสังกัดของทีม Ducati Thailand ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก่อนหน้านี้อิสซี่ได้ติดต่อกับทีมทางฝรั่งเศสไว้ด้วย คือตอนนั้นมันจะมีเป็นการแข่งขันมาราธอน 24 ชม. ที่ฝรั่งเศส แต่บังเอิญว่าทั้งทีม Ducati Thailand และ ทีม Suzuki ของทางฝรั่งเศส เขาสามารถตกลงกันได้ อิสซี่ก็เลยโอเคขี่ให้ทั้ง 2 ทีมเลย

Q : ตั้งเป้าหมายการแข่งขันในปีนี้ไว้อย่างไรบ้าง ?
A : ก็คงจะเหมือนเดิมค่ะ แต่ในปีนี้ทาง Ducati Thailand ไม่ได้ทำทีมต่อแล้วอิสซี่ก็เลยโอเคซึ่งตรงนี้อิสซี่เข้าใจ ในปีนี้อิสซี่ก็เลยจะลงแข่งในนาม Candy Stripe Moto ซึ่งจะลงแข่งเป็นในนามของทางร้านเลย ส่วนรถในปีนี้ก็จะใช้เป็น Ducati Panigale 1199 ลงแข่งขัน ซึ่งอิสซี่ก็ยังไม่รู้ว่าผลมันจะออกมาเป็นอย่างไร แต่อิสซี่ก็จะทำมันให้เต็มที่เพื่อเป็นการโปรโมทแบรนด์ที่เรากำลังสร้างขึ้นมาด้วย
Q : ทำไมถึงเป็น Ducati ?

A : คือด้วยความที่ใครๆก็มองว่า Ducati เป็นรถที่ขี่ยาก เป็นรถที่ถึงแม้ว่าจะมี CC เท่ากันก็ยังมีข้อเสียเปรียบในเรื่องของแรงม้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็มีข้อดีของมันอยู่ แต่เมื่ออิสซี่ได้มารู้จักได้มาสัมผัสกับมันจริงๆ อิสซี่ก็อยากจะรู้จักตัวตนของเขาให้ลึกลงไปอีก เหมือนกับว่าอิสซี่อยากที่จะเอาชนะลิมิตที่ใครๆก็บอกว่ามันไม่ได้ที่ 1 หรอกมันได้แค่นี้แหละ อิสซี่อยากจะเอาชนะตรงจุดนั้นมากกว่า แต่ถ้าถามอิสซี่ว่าจะขี่ Ducati ไปตลอดชีวิตการแข่งขันไหมคำตอบมันก็ยัง 50/50 แต่ถ้าถามว่าในชีวิตปกติจะครอบครอง Ducati ไปตลอดชีวิตไหมคำตอบนั้นตอบได้เลยว่าแน่นอน

Q : เคยคิดหรือเปล่าว่าวันหนึ่งจะมาเป็นนักแข่งรถอาชีพ ?
A : บอกได้เลยว่าชีวิตนักแข่งรถไม่ได้อยู่ในหัวของอิสซี่เลย อิสซี่ไม่ได้ตั้งใจเลยว่าจะมาเป็นนักแข่ง จริงๆแล้วตอนเด็กอิสซี่อยากจะเป็นนักร้อง นักแสดง เป็นนางแบบมากกว่า อิสซี่จะชอบอะไรแบบนั้นมากกว่า แต่การได้มาเป็นนักแข่งในปัจจุบันนี้มันค่อนข้างจะหันแหพอสมควร

Q : ตอนเริ่มแข่งรถทางบ้านรู้หรือเปล่า ?
A : ตอนแข่งแรกๆก็ยังไม่รู้ จนเริ่มขึ้นโพเดี้ยมแล้วอิสซี่ก็ถ่ายรูปถ้วยรางวัลส่งกลับไปให้ที่บ้านดู ว่าอิสซี่แข่งรถนะแค่นั้นล่ะค่ะ แม่นี่กรี๊ดเลยแม่ก็บอกว่าขายรถทิ้งเลยนะ อิสซี่จึงบอกกลับไปว่าไม่ขายหรอกอิสซี่เก็บเงินซื้อมาเองนะถ้าให้ขายก็จะไม่โทรมาคุยด้วยแล้วนะ เขาก็แบบประมาณว่ายอมๆ แล้วก็บอกว่าขี่ระวังๆด้วยล่ะกัน

Q : นอกจากแข่งรถแล้ว ปัจจุบันทำอะไรอยู่บ้าง ?
A : ตอนนี้ก็มีช่วยที่บ้านดูแลกิจการอยู่ในตลาดไทค่ะ ก็จะเป็นขายส่งพวกกระเพาะปลาแห้งกับพวกธัญพืชประมาณนี้ ส่วนตอนนี้ก็ออกมาเปิดร้านเป็นของตัวเองชื่อร้านว่า Candy Stripe Moto & Café ร้านนี้ก็จะเป็นเหมือนบ้าน เหมือนออฟฟิศทำงานและก็เป็นที่จอดรถของอิสซี่ด้วย นอกจากนี้ก็จะมีโซนกาแฟไว้คอยให้บริการ ลูกค้าที่เข้ามาที่ร้านสามารถที่จะนั่งจิบกาแฟไปพร้อมกับรถ Ducati ของอิสซี่ได้ และยังสามารถเลือกช็อปปิ้งซื้อหาอุปกรณ์ต่างๆเกี่ยวกับรถ Big Bike คันโปรดของคุณได้อีกด้วย

Q : ได้ข่าวมาว่าเปิดสอนขับขี่รถ Big Bike ด้วย ?
A : ใช่ค่ะ แต่การสอนของอิสซี่จะไม่มีทฤษฎีที่ตายตัวนะค่ะ อิสซี่จะเน้นให้ผู้เรียนเข้าใจรถของตัวเขาเอง เข้าใจการทำงานของรถ เข้าใจถึงการหาความสบายใจและความสุขของการขี่รถของแต่ละคน อิสซี่จะเน้นสอนไปที่การสร้างความมั่นใจให้กับตัวผู้เรียนมากกว่าเพราะส่วนใหญ่แล้วคนที่ขี่ไม่ได้คือคนที่กลัว ซึ่งตรงนี้อิสซี่ก็จะสอนแต่ละคนไม่เหมือนกัน อิสซี่จะต้องรู้ก่อนว่าเขาต้องการอะไรจากเรา และเขามาหาอิสซี่ทำไม

Q : ฝากอะไรถึงคนที่อยากจะขี่รถ Big Bike แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นที่ตรงไหนดี ?
A : อยากจะฝากถึงทุกคน ว่าก่อนที่เราจะเลือกซื้อรถ Big Bike มาขี่สักคัน เราควรจะถามตัวเองให้แน่ใจก่อนว่า เราอยากจะขี่จริงๆ หรือแค่อยากจะตามเทรนด์ หรือแค่อยากจะมีเหมือนคนอื่นเอาไว้อวดเพื่อน เพราะว่าจริงๆแล้วการมีรถ Big Bike มันก็คือการมีภาระ ส่วนภาระตรงนี้จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับราคาของตัวรถ และเมื่อเราซื้อรถมาแล้วมันคือความรับผิดชอบต่อตัวเองและต่อสังคมด้วย เพราะถ้าเกิดเราใช้รถไม่เป็นเวลามีปัญหาเฉพาะหน้าขึ้นมา แล้วเราไม่สามารถแก้ไขได้ มันก็อาจจะทำให้เราไปสร้างอุบัติเหตุให้กับผู้อื่นได้ด้วยเช่นกัน อิสซี่จึงอยากจะฝากให้ทุกๆคนคำนึงถึงตัวเองและสังคมให้มากๆ

Related Articles

Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save