CVO Road Glide RR เดอะแบ็กเกอร์สุดพรีเมียมเหนือระดับจาก Harley-Davidson

Harley-Davidson ได้ทำการพัฒนารถจักรยานยนต์รุ่น Road Glide ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งขัน โดยรุ่น CVO Road Glide RR มีราคาจำหน่าย 110,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 3,715,000 บาท พร้อมหัวใจ Milwaukee-Eight ที่มีสมรรถนะสูงสุดเท่าที่เคยผลิตมา แถมเป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อสำหรับการแข่งขัน รวมถึงระบบกันสะเทือน และชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์อีกจำนวนมาก
Harley-Davidson CVO Road Glide RR ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากการแข่งขันชิงแชมป์ ‘King of the Baggers’ ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่างบริษัท Harley-Davidson และ Indian Motorcycles โดยรถจักรยานยนต์รุ่นนี้ได้รับการปรับปรุงสมรรถนะให้เหมาะสมกับการขับขี่ด้วยความเร็วสูง พร้อมคุณสมบัติในการใช้งานบนถนนสาธารณะ ติดตั้งกระเป๋าข้าง และระบบเสียงสเตอริโอขนาด 500 วัตต์
ตัวรถขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Screamin’ Eagle Milwaukee-Eight 131 V-Twin มีปริมาตรกระบอกสูบ 131 ลูกบาศก์นิ้ว ให้กำลังสูงสุด 153 แรงม้า ที่ 5,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 203 นิวตันเมตร ที่ 4,750 รอบต่อนาที
หัวสูบแบบพอร์ต CNC พร้อมวาล์วไอดี 42 มม. และวาล์วไอเสีย 34 มม. เรือนปีกผีเสื้อขนาด 68 มม. และท่อร่วมไอดีอลูมิเนียมปริมาตรสูง ชิ้นส่วนภายในของเครื่องยนต์เป็น Stage IV รวมถึงไฮดรอลิกลิฟเตอร์คุณภาพภาพสูง สปริงวาล์วที่หนักกว่า และชุดอุปกรณ์เพิ่มประสิทธิภาพระบบหล่อลื่นของเครื่องยนต์
นอกจากนี้ ยังมีตะกร้อคลัตช์ที่ผลิตจากอะลูมิเนียม 7075 ทำให้แข็งแรงและเบากว่าเดิม อัตราทดเฟืองท้ายต่ำ สเตอร์หน้า 30 ฟัน ลดลงจาก 32 ช่วยให้อัตราเร่งได้รวดเร็วขึ้นในทุกเกียร์ และระบบส่งกำลัง 6 สปีด สเปครถแข่งของโรงงาน
ทางค่ายยังได้ร่วมมือกับ Akrapovič ในการพัฒนาระบบท่อไอเสียไทเทเนียมแบบ 2-in-1 ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดน้ำหนักได้มากกว่า 4.5 กิโลกรัม แถมยังเพิ่มความดุดันให้กับรูปลักษณ์ภายนอกของตัวรถอีกด้วย
เพื่อให้สามารถควบคุมรถที่มีน้ำหนัก 340 กิโลกรัม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้ติดตั้งระบบกันสะเทือนที่มีคุณสมบัติเทียบเคียงกับซูเปอร์ไบค์ อย่างโช้คอัพหน้าแบบหัวกลับ Öhlins FGR 253 ขนาด 43 มิลลิเมตร สามารถปรับตั้งค่าได้อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งพรีโหลด รีบาวด์และคอมเพรสชัน ส่วนโช้คอัพหลัง Öhlins พร้อมซับแทงค์ สามารถปรับได้เต็มระบบเช่นกัน
สวิงอาร์มผลิตจากอลูมิเนียมแท่งขึ้นรูป CNC จากน้ำหนัก 100 กิโลกรัม ผ่านกระบวนการขึ้นรูปจนเหลือเพียง 8 กิโลกรัม มีความแข็งแรงและมีน้ำหนักเบากว่าสวิงอาร์มเหล็กมาตรฐานถึง 10 เปอร์เซ็นต์
ในขณะที่ระบบห้ามล้อ เป็นคาลิปเปอร์เบรกหน้าแบบโมโนบล็อก Brembo GP4-RX ผลิตจากอลูมิเนียมแท่งตัน จับกับดิสก์เบรกแบบลอยคู่หน้า Brembo T-Drive ขนาด 320 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อน ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เบรกขนาด 300 มม. ทำงานร่วมกับ คาลิปเปอร์ Brembo แบบ 4 ลูกสูบ พ่วงด้วยระบบ ABS ขณะเข้าโค้งและระบบการกระจายแรงเบรกไปที่ล้อหน้าและหลังพร้อมกัน
สำหรับรุ่นดังกล่าว จะถูกผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 131 คัน เท่านั้น
เรื่อง : ธราภณ วชิระธรกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย : Motorcycle Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Motorcycle Magazine