รถจักรยานยนต์รุ่นต้นแบบ Honda V3 ได้รับความสนใจอย่างมากในงาน EICMA ที่เมืองมิลานในปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะเป็นการโชว์เพียงโครงสร้างตัวถังและเครื่องยนต์เท่านั้น แต่ทางค่ายก็ได้พัฒนาและยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในชื่อ “V3R” ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการนำโปรเจกต์รุ่นดังกล่าวเข้าสู่สายการผลิตจริง
เป็นการแสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าอีกขั้นในการนำรถจักรยานยนต์รุ่นต้นแบบ Honda V3R เข้าสู่กระบวนการผลิต แม้ว่าขอบเขตการยื่นขอสิทธิบัตรในรหัส “V3” จะครอบคลุมยานพาหนะหลากหลายประเภท แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าเครื่องหมายการค้าดังกล่าวจะถูกนำมาใช้กับรถจักรยานยนต์ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ V-3 ซึ่งมีแผนการเปิดตัวในอนาคต โดยเครื่องยนต์นี้เป็นแบบสามสูบที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ
จากการวิเคราะห์การตั้งชื่อรุ่นรถจักรยานยนต์ของ Honda พบว่า มีการใช้โครงสร้างตัวอักษรและตัวเลขที่มีความหมายเฉพาะเจาะจง โดยตัวอักษร “CB” บ่งชี้ถึงรถจักรยานยนต์ประเภทสตรีทที่ใช้เครื่องยนต์ 4 จังหวะ และการเพิ่มตัวอักษร “R” ต่อท้ายชื่อรุ่น หมายถึงการติดตั้งแฟริ่ง ส่วนรถจักรยานยนต์สตรีท 4 จังหวะที่ใช้เครื่องยนต์แบบ V จะมีการใช้ตัวอักษร “V” เป็นตัวอักษรเริ่มต้น ตามด้วยตัวอักษรที่บ่งชี้ถึงจำนวนสูบของเครื่องยนต์ เช่น “VT” หมายถึงเครื่องยนต์แบบ V และ T หมายถึงสามสูบ และรหัส “VF” หมายถึงเครื่องยนต์แบบ V4
รถจักรยานยนต์รุ่นต้นแบบที่ถูกจัดแสดงในงาน EICMA มีเพียงแค่แฮนด์ โครงสร้างตัวถังและส่วนประกอบอื่นๆ อีกเล็กน้อย ซึ่งจากการเปรียบเทียบภาพด้านข้างของรถต้นแบบกับรถจักรยานยนต์รุ่น CB1000R พบว่า มีความคล้ายคลึงกันในด้านโครงสร้าง เช่น โช้คอัพและสวิงอาร์ม รวมถึงองศาการเอียงและขนาดโดยรวม แต่ตัวต้นแบบมีระยะฐานล้อที่สั้นกว่าเล็กน้อย ส่วนเครื่องยนต์เชื่อว่าจะมีความจุอยู่ที่ประมาณ 800 ซีซี พร้อมเทอร์โบชาร์จเจอร์ไฟฟ้า แต่ยังไม่ได้รับการยืนยัน
แม้ว่าความเป็นไปได้ของรถจักรยานยนต์ที่ใช้รหัส “V3R” ยังไม่เกิดขึ้นจริง แต่ทางค่ายก็ได้ประกาศอย่างชัดเจนถึงกลยุทธ์การพัฒนารถรุ่นใหม่ๆ ในอนาคต ซึ่งจะมุ่งเน้นการใช้แพลตฟอร์มร่วมกันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถจักรยานยนต์ที่มีปริมาณการผลิตจำกัดและมีราคาสูง ซึ่งมุ่งเป้าหมายไปยังตลาดในประเทศที่มีลูกค้ากระเป๋าหนัก
นอกจากนี้ Honda ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์หลากหลายรุ่นจากแพลตฟอร์ม Africa Twin และใช้โครงสร้างร่วมกันสำหรับรุ่น CB750 Hornet และ Transalp รวมถึงกลุ่มรุ่น CB500, CB650 และ NC750 ซึ่งแต่ละรุ่นได้นำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ ดังนั้น เมื่อเครื่องยนต์ V3 เข้าสู่สายการผลิต มีแนวโน้มว่าเครื่องยนต์ดังกล่าวจะถูกนำไปใช้เป็นหัวใจสำคัยใหักับรถรุ่นใหม่อีกหลากหลายรุ่นอย่างแน่นอน
เรื่อง : ธราภณ วชิระธรกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย : Motorcycle Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Motorcycle Magazine
