Moto Guzzi Stelvio Duecento Tributo
Stelvio Pass ถือเป็นเส้นทางที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่น่าท้าทายที่สุดในโลก ด้วยลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ อาทิ โค้งหักศอกที่ต่อเนื่อง และทัศนียภาพอันตระการตา ทำให้เส้นทางนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่นักบิดทั่วโลกต่างใฝ่ฝันจะได้สัมผัส ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่เพียงแต่เป็นเส้นทางขับขี่ที่ได้รับความนิยม แต่ยังได้กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้กับอุตสาหกรรมมอเตอร์ไซค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์ Moto Guzzi ได้เลือกมาใช้เป็นชื่อรุ่นรถ เพื่อสะท้อนถึงความแข็งแกร่ง ความทนทาน และความสามารถในการผจญภัยของรถรุ่นนี้
สำหรับรุ่น Stelvioได้กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งในวงการรถจักรยานยนต์ โดยได้เปิดตัวรุ่นใหม่ในปลายปี 2023 ที่ผ่านมา และในโมเดลปี 2025 ได้เปิดตัวรุ่นพิเศษ Moto Guzzi Stelvio Duecento Tributo เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 200 ปีของถาาสายประวัติศาสตร์ ผลิตจำกัดเพียง 2,758 คัน เป็นตัวเลขที่สอดคล้องกับระดับความสูงของ Stelvio Pass ที่ 2,757 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สะท้อนให้เห็นถึงความพิเศษและความหมายลึกซึ้งที่แบรนด์มอบให้กับรุ่นรถคันนี้
ความพิเศษของMoto Guzzi Stelvio Duecento Tributo นั้นสะท้อนให้เห็นผ่านรายละเอียดต่างๆ อาทิ หมายเลขประจำตัวที่สลักบนแฮนด์บาร์ และการตกแต่งภายนอกที่ผสมผสานสีขาว แดง และน้ำเงิน ที่เป็นสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ของธงชาติอิตาลีเข้ากับการออกแบบที่เน้นความสปอร์ตและผจญภัย เปรียบเสมือนการรวบรวมเส้นทางอันคดเคี้ยวของStelvio Pass มาไว้บนตัวรถ
ไม่เพียงแต่โดดเด่นในด้านดีไซน์ แต่ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยและอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครัน เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายปลอดภัย โดยเฉพาะระบบเรดาร์ 4 มิติ ที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการขับขี่ นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันต่างๆ เช่น ที่จับ เบาะนั่งปรับอุณหภูมิได้ และระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดของผู้ผลิต
Stelvio Duecento Tributo ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V-twin ขนาด 1,050 ซีซี ซึ่งเป็นเครื่องยนต์บล็อกใหม่ที่พัฒนาขึ้นสำหรับรุ่นนี้ มีกำลังสูงสุด 115 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 105 นิวตันเมตร มาพร้อมกับระบบวาล์ว 4 วาล์วต่อกระบอกสูบ เพลาลูกเบี้ยวเหนือฝาสูบ และระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว
ระบบเบรกได้รับการยกระดับให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการติดตั้งคาลิเปอร์เบรกโมโนบล็อก Brembo Stylema 4 ลูกสูบ และดิสก์เบรกขนาด 320 มม. ซึ่งทำงานร่วมกับระบบป้องกันล้อล็อก ABS สามารถตอบสนองต่อการเบรกที่แม่นยำ ควบคุมได้ง่าย และมีความปลอดภัยสูง
ตอนนี้ทางต้นสังกัดยังไม่ได้เปิดเผยราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม หากมองจากสเปคและอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครัน คาดว่าราคาจำหน่ายจะสูงกว่ารุ่นพื้นฐานซึ่งมีราคาอยู่ที่ 18,499 ยูโร หรอืประมาณ 657,100 บาท
เรื่อง : ธราภณ วชิระธรกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย : Motorcycle Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Motorcycle Magazine
