Royal Enfield Bare 650 เตรียมเปิดตัวครั้งแรกใน Osaka Motorcycle Show

Royal Enfield ประกาศเตรียมเปิดตัวรุ่นใหม่ BEAR 650 ในงาน Osaka Motorcycle Show และจะวางจำหน่ายที่ตัวแทนจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป
Royal Enfield Bear 650 ได้รับการพัฒนาโดยมีพื้นฐานมาจากรุ่น Interceptor 650 ติดตั้งเครื่องยนต์ขนาด 650 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 47 แรงม้า ที่ 7,250 รอบต่อนาที ทำแรงบิดสูงสุด 56.5 นิวตันเมตร ที่ 5,150 รอบต่อนาที สำหรับโฉมนี้เป็นรถสไตล์สแครมเบลอร์แบบย้อนยุค โดยได้รับแรงบันดาลใจจากชัยชนะในการแข่งขัน Big Bear Run ของเอ็ดดี้ มัลเดอร์ (Fast Eddie) g,njvxu 1960
ตัวรถได้รับการติดตั้งระบบไอเสียแบบ 2 ต่อ 1 ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มแรงบิดและขยายช่วงกำลังของเครื่องยนต์ นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งยางที่มีขนาดใหญ่และมีลักษณะการออกแบบที่สื่อถึงความคลาสสิก โดยมีดอกยางแบบบล็อกสี่เหลี่ยม เบาะนั่งแบบสแครมเบลอร์ที่มีลักษณะแบน โครงเฟรมส่วนท้ายแบบห่วง และฝาครอบด้านข้างแบบบิบบอร์ดทรงวงรี ซึ่งเป็นการออกแบบในสไตล์ย้อนยุค
ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นโช้คอัพแบบหัวกลับ (USD) Big Piston ของ Showa มีระยะยุบตัว 130 มิลลิเมตร ในขณะที่ระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นโช้คอัพแบบท่อคู่ (Twin Tube) ของ Showa มีระยะยุบตัว 115 มิลลิเมตร ระบบกันสะเทือนดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบายในการขับขี่บนพื้นผิวบนถนนลาดยาง
ระบบเบรกด้านหน้าได้รับการติดตั้งชุดเบรกแบบเดียวกับที่ใช้ในรถจักรยานยนต์รุ่น Interceptor 650 พร้อมดิสก์เบรกขนาด 320 มิลลิเมตร ในขณะที่ระบบเบรกด้านหลังได้รับการอัพเกรดด้วยดิสก์เบรกขนาด 270 มิลลิเมตร ซึ่งเพิ่มขึ้นจากขนาด 240 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อน นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติเพิ่มเติมคือระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ที่สามารถเปิด/ปิดการทำงานเฉพาะล้อหลังได้ เพื่อรองรับการใช้งานบนพื้นผิวทางลูกรัง
แม้ว่ารถจักรยานยนต์รุ่นนี้จะได้รับการออกแบบในสไตล์ย้อนยุค แต่มีการติดตั้งจอแสดงผล TFT ทรงกลมขนาด 4 นิ้ว โดยจอแสดงผลดังกล่าวมีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลายเช่นเดียวกับที่ติดตั้งในรถจักรยานยนต์รุ่น Himalayan 450 อาทิ การเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ การแสดงผลแผนที่ Google Maps และระบบนำทาง Turn-by-Turn ในขณะที่รถจักรยานยนต์รุ่นอื่นๆ ในแพลตฟอร์ม 650 ยังคงใช้มาตรวัดแบบเข็มร่วมกับจอแสดงผล Trip Meter ขนาดเล็ก
Bare 650ที่จะขายในประเทศญี่ปุ่น มาพร้อมกับสีสัน 5 เฉด ได้แก่ สีครีม-249 Two Four Nine, สีขาว Boardwalk White, สีเขียว Petrol Green, สีเหลือง Wild Honey และสีดำ Golden Shadow โดยมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 990,000 เยน หรือประมาณ 224,600 บาท
เรื่อง : ธราภณ วชิระธรกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย : Motorcycle Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Motorcycle Magazine