News

Royal Enfield Guerrilla 450 สตรีทไบค์รุ่นใหม่ มาจริงไม่ต้องลุ้น

Royal Enfield Guerrilla 450 สตรีทไบค์รุ่นใหม่ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Himalayan 450 พร้อมเครื่อยนต์ 452 ซีซี ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ

Royal Enfield Guerrilla 450

ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการว่า Royal Enfield Guerrilla 450 จะเปิดตัวในวันที่ 17 กรกฎาคม โดยเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่แยกออกมาจาก Himalayan 450 ใช้ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ร่วมกันหลายชิ้น แม้ว่าทางต้นสังกัดยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนัก แต่ก็มีข้อมูลออกมาแล้วว่ามีชิ้นส่วนอะไรบ้างที่ยืมมาจาก Himalayan และ Guerrilla แตกต่างจากรุ่นพี่อย่างไร

Royal Enfield Guerrilla 450

อย่างแรกเลย คือ เครื่องยนต์สูบเดียว “Sherpa” ขนาดความจุ 452 ซีซี DOHC แบบเดียวกันกับ Himalayan ปรับจูนมาในรูปแบบเดียวกัน มีพละกำลังสูงสุด 39.5 แรงม้า ที่ 8,000 รอบต่อนาที และแรงบิดยังคงอยู่ที่ 40 นิวตันเมตร ที่ 5,500 รอบต่อนาที หมายเลขชิ้นส่วนของท่อไอเสียยังคงเหมือนเดิม ยืนยันว่าเป็นชิ้นส่วนเดียวกับที่ใช้กับ Himalayan

Royal Enfield Guerrilla 450

ภาพทีเซอร์ที่เผยแพร่โดย Siddhartha Lal กรรมการผู้จัดการของ Royal Enfield และ B. Govindarajan ซีอีโอ แสดงให้เห็นว่าทั้งสองคนอยู่กับรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ แม้ว่าจะมีโลโก้ “Guerrilla” ปิดทับเพื่อบังรายละเอียดบางส่วนก็ตาม ภายในภาพยังแสดงให้เห็นส่วนของเฟรมและแม้แต่ส่วนท้ายของตัวถังนั้นใช้ร่วมกับ Himalayan เช่นเดียวกับไฟหน้าทรงกลมดวงเดียว แต่ด้วยการใช้ระบบกันสะเทือนช่วงล่างที่สั้นกว่าและล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว แทนที่ล้อซี่ลวดหน้า 21 นิ้ว ล้อหลัง 17 นิ้วของโมเดลแอดเวนเจอร์ ทำให้รูปลักษณ์ตัวรถดูไม่เหมือนกันเลย

เอกสารรับรองยืนยันขนาดของล้อ โดยแสดงให้เห็นว่ารถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ใช้ยางหน้า 120/70-17 แทนยางหน้า 90/90-21 ของ Himalayan และยางหลัง 160/60-17 แทนของเดิมของรุ่นพี่ที่เป็น 140/80-17 ด้วยโช้คแบบหัวกลับขนาดค่อนข้างสั้น ระยะฐานล้อของ Guerrilla ได้ลดลงจาก 59.4 เป็น 58.7 นิ้ว ในขณะที่ความยาวโดยรวมลดลงจาก 90 เป็น 84 นิ้ว แฮนด์แคบลง 0.7 นิ้ว ไม่มีกระจกบังลมหน้า และระยะความสูงใต้ท้องรถน้อยกว่า ทำให้ความสูงของ Guerrilla ลดลงจาก 51.8 เป็น 43.9 นิ้ว

มิติตัวรถที่มีความกระชับ มาพร้อมกับน้ำหนักที่ลดลงอย่างมาก จาก 195.5 กิโลกรัม เป็น 182 กิโลกรัม เมื่อรวมกับน้ำมันในถังเชื้อเพลิงที่เต็ม 90 เปอร์เซ็นต์ การลดลงนี้อาจเป็นผลมาจากถังน้ำมันที่มีความจุน้อยกว่า เมื่อเทียบกับถังน้ำมันขนาด 17 ลิตร ของ Himalayan

สำหรับคู่แข่งในคลาสนี้ จะต้องเผชิญหน้ากับ Triumph Speed 400 ซึ่งมีพละกำลังสูงสุด 39.5 แแรงม้า เช่นเดียวกัน และแรงบิดใกล้เคียงกันที่ 37.5 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบต่อนาที เนื่องจากความจุน้อยกว่าที่ 398 ซีซี แต่รถของ Triumph ได้เปรียบที่มีน้ำหนักเบากว่า นอกจากนี้ ยังมี  KTM 390 Duke ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ล่าสุดจะเป็นคู่แข่งเช่นกัน แม้ว่าจะมีความจุเครื่องยนต์น้อยที่ 399 ซีซี แต่กลับมีพละกำลังมากถึง 44 แรงม้า

สิ่งที่ทำให้ Royal Enfield น่าจะมีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งคือเรื่องของราคา ซึ่งเราจะได้รู้พร้อมกันในวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 17 กรกฎาคมนี้

 

 

 

เรื่อง : ธราภณ วชิระธรกุล

เรียบเรียงข้อมูลโดย : Motorcycle Magazine

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Motorcycle Magazine

Related Articles

Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save