……….“หุบป่าตาด” ป่าดึกดำบรรพ์ ดินแดนแห่ง จูราสสิคเมืองไทย! ตามรอย กิ้งกือมังกรสีชมพู สัตว์ สุดยอดของการค้นพบสิ่งมีชีวิตใหม่ อันดับ 3 ของโลก
“หนาวนานนะปีนี้” อากาศช่างเป็นใจเสียเหลือเกิน กับมวลมหามิตร 2 ล้อมอเตอร์ไซค์ทั้งหลาย กับการขับขี่ “มอเตอร์ไซค์” ท่องเที่ยวไปใต้ฟ้าไทยแลนด์!
แล้วไปไหนล่ะ? คำถามยอดฮิต ที่ผมได้ยินทุกทริป! ทุกเดือน! เนื่องจากเพื่อน และพี่ร่วมทริป คิดไม่ออก? แต่พร้อมที่จะเดินทาง เพราะใจมันเรียกร้อง! แบบคนชอบเดินทาง นักผจญภัย…บนอานมอเตอร์ไซค์แบบพวกเรา
ผมว่าจะพาไปเที่ยวป่าน่ะ…ทริปนี้! มีใครสนใจมั๊ย???? เพียบ!!! พลพรรคนักขับขี่ยกมือสนับสนุนกันเพียบ “แต่ว่า…ที่ไหนล่ะ?” ทริปนี้ผมพาพี่ๆ เพื่อนๆ ไปขี่รถบนทางสวยๆ อากาศสบายๆ บรรยาไม่หมด ต้องไปกัน…ไป!
“หุบป่าตาด” UNSEEN IN THAILAND ในจังหวัดอุทัยธานี เชื่อว่าหลายคนมองข้าม ไม่คาดคิดว่าจะมีที่สวยๆ น่าแปลกใจในจังหวัดอุทัย นอกเหนือจาก สืบฯ เขาสะแกกรัง ฯลฯ
ผมได้รถ “ฮอนด้า” SCOOPY I สีดำขลับ สวยเพียว เหมาะทีเดียวกับการเดินทางที่เน้นในเรื่องของความปลอดภัย ขี่สบาย และที่สำคัญ “ประหยัด” เพราะ ฮอนด้า เป็นเครื่องยนต์คุณภาพ ใช้หัวฉีดเป็นตัวควบคุม และปล่อยจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ต้องขอบคุณร้าน ศรีประจันต์ วัฒนะยนต์ สาขาด่านช้าง ช่วยดูแลรถตลอดทริปยาวๆ ทริปนี้ โดยได้หมวกกันน็อคคู่ใจกลับมาสวมใส่เป็นตัวตนจริงอีกครั้ง ARAI ถึงจะเก่า แต่มั่นใจได้ ใช้ได้กับรถทุกประเภท ดีไซน์สวยงาม ทัศนวิสัยในการมองกว้าง และไกล…ปลอดภัยของจริง!
คราวนี้เรามาว่ากันในเรื่อง “หุบป่าตาด” ป่าดึกดำบรรพ์ ดินแดนแห่ง จูราสสิคเมืองไทย!
ผมใช้เส้นทางจาก บางบัวทอง วิ่งเข้าพลับพลาชัย มุ่งหน้าสู่ด่านช้าง และเลยเข้าไป อุทัยธานี ก่อนที่จะแยกซ้ายไปยัง อำเภอบ้านไร่ และเลี้ยวขวาเมื่อถึงแยกไป ห้วยแห้ง วิ่งเข้าบ้านคอกควาย และสุดท้ายมุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ ป่าถ้ำประทุน!!!
จอด SCOOPY I บนลานกว้าง สะดวกสบาย มีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับ กับมัคคุเทศตัวจิ๋ว เจือแจ้ว คอยท่าอยู่ปากทางเข้าหุบป่าตาด ที่นี่ค่าธรรมเนียมแรกเข้า ผู้ใหญ่ คนละ 20 บาท เด็ก คนละ 10 บาท แถม(ให้ยืม) ไฟฉายส่องทาง 1 กระบอก ถ้ามัคคุเทศน้อยนำ ก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้ามีติดไปก็จะดีกว่า เพราะเราสามารถส่องดูค้างคาว ตามทางเดินลอดถ้ำเข้าไป ตื่นเต้น เร้าใจ สัมผัสโลกใหม่อีกซีก ตั้งแต่ปากถ้ำ บรรยากาสเริ่มส่อเค้าโบราณ อากาศเย็นชิ้น น่าแปลกใจ?
“หุบป่าตาด” เป็นป่าที่ถูกห้อมล้อมด้วยภูเขาหินปูน ซึ่งภายในหุบนั้น ถูดกอัดแน่นไปด้วย ต้นตาก หรือ ต้นต๋าว ซึ่งเป็นพืชในตระกูลปาล์ม ชนิดที่หาดูได้ยากมาก ทำให้ตรงนี้เองเป็นที่มาของ “หุบป่าตาด” บรรยากาศภายใน เย็น ชื้น มากมายด้วยต้นไม้นานาชนิด ทั้งต้นไม้ยืนต้นโบราณ ไม่เถา ชื่อแปลกๆ หน้าตาแปลกๆ ทั้งที่เคยได้ยิน ได้เห็น และไม่เคยได้ยิน ได้เห็น! อย่างเช่น “เขยตาย” มากมายด้วยสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ น่าจะเป็นพืชที่คนโบราณใช้เป็นยารักษาอาการป่วยไข้ต่างๆ ในอดีต
ปีหนึ่งจะเจอสักครั้ง กับเจ้า “กิ้งกือมังกรสีชมพู” (SHOCKING PINK MILLIPEDE) ตัวเล็กขนาดตะเข็บ แต่แตกต่างด้วยสีสัน ที่มีสีออกสีชมพูเด่นเป็นสง่า จะพบได้ในฤดูที่มีอากาศชื้นจัด เนื่องจาก “กิ้งกือมังกรสีชมพู” จะฟักออกมาเป็นตัวในช่วงฤดูกาลนี้ ผู้เขียนได้มีโอกาสเห็นตัวเป็นๆ แล้วต้องบอกว่า สวยงาม แปลกตาดี ซึ่งจัดเป็นสุดยอดของการค้นพบสิ่งมีชีวิตใหม่ อันดับ 3 ของโลกเลยทีเดียว
ต้องใช้คำว่าเพลิดเพลินกับการเดินชมธรรมชาติใน หุบป่าตาด จนเวลาล่วงเกือบอาทิตย์อัสดง ก็ต้องค่อยๆ เดินถอนตัวออกมาจากหุบ เนื่องจาก แถวนี้เมื่อค่ำมืดจะหาที่พักได้ยากลำบาก จะมีก็แต่ หุบป่าตาด โฮมสเตย์ ที่สามารถกางเต๊นท์ได้ ถ้ามาในช่วงฤดูท่องเที่ยว อาจจะหาที่ซุกหัวนอนไม่ได้ ต้องหวดคันเร่งยาวไปอีก 30-40 กม.ไปหาที่นอนแถว ห้วยขาแข้ง หรือ ไม่ก็บ้านไร่ เลยทีเดียวนะครับ
ทริปนี้ ถ้าท่านผู้อ่านที่รักจะขี่มอเตอร์ไซค์กันมาเป็นหมู่คณะ ผมแนะนำให้บริหารเวลาดีๆ ขี่ออกกันแต่เช้าๆเพราะระยะทางไปกลับประมาณ 600 กว่ากิโลฯ แต่ขี่สนุกครับ แวะมาพักทานข้าวกลางวัน เป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อ หรือหมู รสเด็ดร้าน “ป้าเลิศ” ห้วยแห้ง พวกผมเรียกกันจนติดปากว่า ก๋วยเตี๋ยวห้วยแห้ง! รับรองจะติดใจ เป็นสถานที่กินที่แนะนำให้อีกที่หนึ่งเลยครับ และบดรอยล้อต่อ อีกสัก 40-50 กิโลฯก็จะถึง จูราสสิคเมืองไทย “หุบป่าตาด” พบกันใหม่ในฉบับหน้าครับ กับสถานที่ท่องเที่ยวน่าประทับใจ เมืองไทยเรานี่ล่ะครับ! สวัสดี…?!?!
เรื่อง : ทวีศักดิ์ นารอดมงคล
ภาพ : ภูดิท แซ่ซื้อ
