คล่องแคล่ว เบา เงียบ นิยามเจ๋ง “ผึ้งหลวง” สายโดด!!!
The Light Bee X ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อภารกิจเฉพาะ มันคืออาชา “สายเดิร์ท” ขุมพลังเครื่องยนต์มอเตอร์ไฟฟ้า ที่จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่สำหรับงานสันทนาการและกีฬาเอ็กซ์ตรีม ของลูกค้าที่พิสมัยประสบการณ์ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร Sur-Ron (เซอ-รอน) บริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ที่ก่อตั้งในปี 2014 โดยผู้ที่ชื่นชอบรถจักรยานยนต์และพิสมัยนวัตกรรมไฮเทค 3 คนจากประเทศจีนที่ประสานมือกับ KSR-MOTO ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดจากประเทศออสเตรีย หลังบรรลุข้อตกลงในเชิงวิศวกรรมและการพาณิชย์
Light Bee X คือผลงานชิ้นแรกที่ผลิตออกจากโรงงาน ทว่า มันเด่นเข้าตาจนสามารถเป็นผู้ชนะรางวัล Red Dot Design Award ในปี 2018 จักรยานยนต์ของ Sur-Ron มีคุณภาพสูง ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อความทนทานอย่างแท้จริง ด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงขนาด 7,000 วัตต์พร้อมแรงบิด 200 นิวตันเมตร จักรยานยนต์คันนี้สามารถผลิตพละกำลังสูงสุดได้ถึง 80 กม./ชม.
มอเตอร์ไฟฟ้าของ Sur-Ron ได้รับการปรับให้เหมาะสม ตอบสนองได้อย่างทันที และติดตั้งเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ผนวกเข้าไป ระบบชาร์จพลังงานกลับที่มีประสิทธิภาพ มอเตอร์ไฟฟ้าให้สมรรถนะที่เต็มประสิทธิภาพ รองรับการทำงานได้ดีทั้งในสภาพการขับขี่บนถนนทั่วไปและเส้นทางในแบบออฟโรด
Sur-Ron Light Bee X ประสานการทำงานด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้าผ่านชุดสายพานด้านหน้า เชื่อมส่งกำลังผ่านชุดขับชุดที่ 2 ที่เลือกระบบส่งกำลังด้วยโซ่ (ขนาด 420) ซึ่งทีมออกแบบให้เหตุผลว่า มันตอบโจทย์เรื่องพละกำลังแรงบิดที่สูงได้ดีกว่า และเหมาะสมกับการใช้งานอย่างหนักในทะเลทราย หรือเส้นทางในถิ่นทุรกันดารที่เต็มไปด้วยโคลนเลน แถมดูแลรักษาง่ายกว่า
Sur-Ron Light Bee X มีให้เลือกตามสเป็กแบตเตอรี่ 48V หรือ 60V มอเตอร์ขนาด 6 กิโลวัตต์ ซึ่งช่วยให้สามารถใช้งานได้ถึง 80 กม./ชม. และมีเวลาในการชาร์จ (จะขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องชาร์จ) และจะใช้งานชาร์จระหว่าง 3 ถึง 6 ชั่วโมง มีโหมดการทำงานให้เลือกสรร 2 โหมดคือ Eco และ Sport ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าจะเดินทางแบบไหน โดยโหมด Eco กำลังของเครื่องยนต์จะลดลงครึ่งหนึ่ง ช่วยให้คุณเดินทางได้ไกลขึ้น ส่วน โหมดSport ก็ส่งกำลังมาเต็มที่ Sur-Ron Light Bee X มีน้ำหนักตัวเพียงแค่ 50 กิโลกรัมเท่านั้น และใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ที่ปรับเปลี่ยนเซลล์ได้ของพานาโซนิค ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ชนิดเดียวกันกับที่ใช้ในรถยนต์ของ Tesla รุ่น S แบตเตอรี่นี้เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย แม้จะมีช่วงอุณหภูมิที่แตกต่างกันมากก็ตามที (-20°C ถึง 55°C) และเปิดราคาขายในไทยที่ 139,000 บาท