Suzuki V-Strom 1050 DE เกรดเน้นความเป็นออฟโรดที่มากขึ้น
Suzuki ได้เพิ่มเกรดใหม่ในมอเตอร์ไซค์แอดเวนเจอร์อย่างรุ่น V-Strom ที่เน้นความใช้งานในรูปแบบออฟโรดที่จริงจังด้วยรหัส “DE”
V-Strom จัดว่าเป็นโมเดลที่อยู่กับ Suzuki มายาวนานและผลักตัวเองไปข้างหน้าเพื่อท้าทายคู่แข่งในกลุ่มมอเตอร์ไซค์แอดเวนเจอร์ด้วยราคาระดับกลางๆ
เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ของ V-Strom ที่มีรูปแบบการขับขี่แบบออฟโรดด้วยเวอร์ชัน DE ตัวรถมาพร้อมกับวงล้อซี่ลวด โดยด้านหน้ามีขนาด 21 นิ้ว และด้านหลังขนาด 17 นิ้ว การ์ดเครื่องยนต์ และการปรับปรุงระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยเหลือผู้ขับขี่ ที่มี “Gravel Mode” และความสามารถในการปิดระบบ ABS แถมตัวรถยังมีสวิงอาร์มที่ยาวขึ้น ซึ่งจะช่วยเรื่องระยะยุบตัวของช่วงล่างและเพิ่มเสถียรภาพให้ดียิ่งขึ้น
นี่เป็นเพียงคุณสมบัติบางส่วนในการปรับปรุงครั้งใหญ่หลังจากการอัพเกรดในปี 2020 ซึ่งนำสไตล์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานอย่าง DR Big ที่ได้รับอิทธิพลมาจากยุค 1990 และไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยมสไตล์ย้อนยุค
Lewis Croft ผู้จัดการฝ่ายการตลาดฃของ Suzuki Australia ระบุว่า “V-Strom เวอร์ชั่นก่อนหน้าเหมาะกับสภาพถนนในตลาดหลัก ซึ่งก็คือยุโรป และตอนนี้มันเหมาะกับนักขี่ออสซี่ที่มองหาประสบการณ์ออฟโรดที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อและจบด้วยดิน”
รุ่นที่สนใจมากที่สุดคือ V-Strom 1050 DE จะได้รับที่พักเท้าแบบออฟโรด, บังโคลนหน้าสั้น และชิลด์หน้าทรงสั้นรมดำที่ผู้ขับขี่มองเห็นได้ง่ายขึ้นเมื่อขับขี่บนท่ายืน
ส่วนระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบหัวกลับขนาด 43 มม. ของ KYB แต่มีระยะยุบตัวด้านหน้ามากขึ้นที่ 170 มม. และด้านหลัง 169 มม. แถมตัวรถยังมีโซ่ขับที่แข็งแกร่งกว่ารุ่นมาตรฐาน และคันเกียร์ก็ถูกออกแบบใหม่
นอกจากนี้ 2023 V-Strom 1050 DE ได้รับการปรับปรุงอัตราทดเกียร์ที่ช่วยเพิ่มอัตราเร่ง แต่พละกำลังเครื่องยนต์ไม่เปลี่ยนแปลง และยังมีการปรับปรุงวาล์วไอเสียและระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ปรับปรุงใหม่ที่ทำงานได้ดียิ่งขึ้น
ด้านระบบความปลอดภัย ABS ของ Bosch ได้รับการปรับปรุงและตอบสนองได้ดีกว่าเมื่อก่อน และแอดเวนเจอร์ไบค์เวอร์ชั่นนี้ยังได้รับหน้าจอแสดงผลแบบสีชนิด TFT ใหม่ เพื่อให้ต่อสู้กับคู่แข่งได้
เรื่อง: ธราภณ วชิระธรกุล
ภาพ: Suzuki
เรียบเรียงข้อมูลโดย Motorcycle Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ motorcycmagazine.grandprix.co.th/