ขี่รถเที่ยว 2 ชายหาด 1 ทะเลน้ำจืด…เมืองกาญฯ
นอกจากทะเลน้ำจืดแล้ว ที่เที่ยวอีกที่หนึ่งที่ไปแล้วไม่แวะ นับไม่ได้ว่าเป็น “คนมอเตอร์ไซค์” เพราะที่นี่เป็นศูนย์รวมมอเตอร์ไซค์ใหม่ และเก่า เพื่อศึกษาหาความรู้ และ จำหน่ายให้แก่ผู้ซื้อ ผู้ใช้ในละแวกนั้น และรอบๆ อาณาจักร “โล้วเฮงหมง”
“พี่อ้วน…เที่ยวฉบับหน้าพาผมไปเที่ยวไหน?” เพื่อนในออฟฟิศเดียวกับผม ถามขึ้นมาในเช้าวันทำงาน ด้วยอาการยิ้มแย้มแจ่มใสแต่เช้า พาเอาผมพลอยสดชื่นไปด้วยกับบรรยากาศ ทั้งๆ ที่เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ รำคาญไอ้พวกไบเกอร์นอกทำเนียบแถวบ้านที่แม่งแว้นรถใหญ่ทั้งคืน เข้า-ออก เหมือนเด็กกำลังเห่อ? น่ะครับ เพิ่งเคยขี่รถใหญ่ในชีวิตแรก!
“ไปเที่ยวทะเลกันครับ…ทะเลเมืองกาญจนบุรี” “ฮะ…มีด้วยรึ?” สาวน้อยหน้าใสที่ยืนอยู่ข้างๆ พลอยให้ความสนใจ เบือนหน้าจากวงสนทนาเรื่องเครื่องสำอาง เข้ามาร่วมวงสนทนากับผม “มีครับพี่ เพื่อน น้อง เมืองกาญจน์มีทะเลครับ 2 ที่ด้วย” ผมตอบคำถามพวกเค้าไป ด้วยความกระหยิ่มในใจ ทั้งๆ ที่เพิ่งจะรู้มาจากน้องในกองบก.เหมือนกัน
“ผมเที่ยวมาทั่วแล้วนะ ไม่ยักรู้ว่าเมืองกาญจน์มีทะเล? อำผมรึ?” “ป่าว” มีจริ๊ง! ผมทำเสียงสูง พลางอมยิ้ม “เดี๋ยวผมไปเที่ยวก่อน แล้วจะเอามาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังจะได้ตามไปเที่ยวกันถูก” แล้วผมก็ขอตัวผละจากวงสนทนา เพื่อไปทำหน้าที่รับรถเดินทางต่อ
เครื่องมือพิเศษ GPRS ของผม ถูกนำออกมาเช็ด และเตรียมความพร้อม เพื่อเป็นเครื่องมือใช้นำทางในการเดินทางทริปนี้ ผมได้รถ 2 คัน เป็นรถใช้เดินทาง ผมเลือกเอา “ZOOMER” เดินทางทริปนี้ ส่วนรถใหญ่ให้น้องร่วมทริปครอบครองไป
ZOOMER เป็นรถแบบเกียร์ออโตเมติกขนาดพอดี ขี่สบาย ประหยัดน้ำมันมากหลาย เหมาะที่จะใช้ในการเดินทางในระยะทางไม่ไกล ไม่ใกล้ สำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความสะดวกสบาย และความทันสมัย ขี่ง่าย ไม่เมื่อยล้าไว เลือกใช้งานได้เลย
จากบางบัวทอง มุ่งหน้าสู่บางเลน และเลี้ยวซ้ายเมื่อเจอแยกท่าเรือตามหมายที่ GPRS ของผมได้นำทางไป อีกอย่างเส้นทางนี้พอคุ้นกันสมัยขี่รถเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนๆ พี่ๆ เลยไม่น่าลำบากมากนักกับการค้นหา
อาหารป่า…ข้างทางตลอดเส้นทางอำเภอท่าเรือ ถูกผมและเพื่อน น้องร่วมทริปจัดการด้วยความหิว ปนอยาก สารพัดเนื้อรสจัด!!! จังหวะที่รอเวลาย่อย ด้วยความที่ผมเป็นคนชอบคุย ผมเลยสอบถามทางไปเรื่อยกับแขกโต๊ะข้างๆ และเจ้าของร้านคนสวย แต่..ท้องป่อง!
ได้ความว่า จากอำเภอท่าเรือนี้ เราเดินทางมาถูกต้องแล้ว ต่อจากนี้ไปเพียง 4-6 กิโลเท่านั้น ให้เราสังเกตให้ดี ตรงเส้นทางก่อนถึงแยก “ชุกโดน” อ่านว่า ชุก-กะ-โดน ตามภาษาคนถิ่นที่นี่ (ผมถาม) ซ้ายมือจะเขียนว่า “ทะเลน้ำจืดท่าล้อ” ที่แรกที่ผมเข้าไปสัมผัสบรรยากาศ “โอ้โห…ร่มชายหาดกลางพรึ่บ! ไม่ต่างจากบางแสน ชะอำ! แถมมีหาดทรายให้เด็กน้อย หนุ่มสาวได้โลดแล่นแก้ร้อน พร้อมเรือถีบ…น้ำใสสะอาด เด็กน้อยลงเล่นน้ำ ขาดแต่ “บิกินี่” โธ่โธ่โธ่!
นอกจากทะเลน้ำจืด “ท่าล้อ” ที่นี่แล้ว ใกล้กันเพียง 3-4 กิโลฯมีทะเล และหาดอีกที่หนึ่งชื่อ “หาดชุกโดน” ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เป็นทะเลน้ำจืดอีกแห่งหนึ่ง แต่ที่นี่ชายหาดจะเล็ก และแคบกว่า สะอาดกว่า ร้านรวงเยอะกว่า ติที่ขนาดสถานที่ที่ค่อนข้างเล็กกะทัดรัดไปเสียหน่อย แต่จอดรถง่าย สบายๆ ที่นี่
งัยครับ…สนุกสนานกันคงยังไม่พอ หลังจากเที่ยวทะเล กินอาหารป่า อิ่มท้อง สบายกระเป๋าดีแล้ว รีบอาบน้ำ แต่งตัวเร็วรี่ เพราะหลังจากนี้ผมจะพาไปดู “มิวเซียม” ของคนไทย เป็นมิวเซียมเกี่ยวกับรถมอเตอร์ไซค์ “หูผึ่ง” เลยดิ
ที่อำเภอท่าเรือ เมืองกาญจน์นี้นอกจากทะเลน้ำจืดแล้ว ที่เที่ยวอีกที่หนึ่งที่ไปแล้วไม่แวะ นับไม่ได้ว่าเป็น “คนมอเตอร์ไซค์” เพราะที่นี่เป็นศูนย์รวมมอเตอร์ไซค์ใหม่และเก่า เพื่อศึกษา หาความรู้ และจำหน่ายให้แก่ผู้ซื้อ ผู้ใช้ในละแวกนั้น และรอบๆ จักร “โล้วเฮงหมง” ซึ่งการเข้าเยี่ยมชมในมิวเซียมแห่งนี้ ฟรี! ครับ ไม่เก็บค่าเข้าชม ถ้าไปเป็นหมู่คณะ จะมีวิทยากรให้ความรู้ ความเข้าใจ และพานำชม เป็นที่สนุกสนานเลยทีเดียว
เป็นการคืนกำไรให้กับสังคมอย่างยิ่งใหญ่ของทางผู้บริหาร เจ้าของร้าน “โล้วเฮงหมง” ที่น่ายกย่อง และเอาเยี่ยงอย่าง ผมกับน้องทีมงานเดินรอบอาณาจักรหนึ่งรอบ เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน แต่บรรดารถเก่าเก็บที่เห็นมันชวนให้ตื่นตา เร้าใจ ก็อยากชักชวนท่านผู้อ่านที่มาเที่ยวเมืองกาญจน์ นอกจากสะพานข้ามแม่น้ำแควแล้ว อีกมากมาย หลากหลายแหล่งท่องเที่ยวที่จะทำให้คุณรู้จัก และรักกาญจนบุรีมากยิ่งๆ ขึ้นครับ…สวัสดี!
เรื่อง : ทวีศักดิ์ วุฒิวิภาธำรง
ภาพ : ภูดิท แซ่ซื้อ
