Classic Bike

1958 ARIEL Square 4 Mk-II

1958 ARIEL Square 4 Mk-II

“ซูเปอร์ไบค์” ยุค’50

1บึกๆ ถึกๆ ในแบบรถ “ซูเปอร์ไบค์ ยุค’ 50” กับไลน์ผลิตสุดท้ายที่พัฒนา จัดวางชิ้นส่วนในแบบรถ “ตัวท็อป” น่าเสียดายเพราะใช้ต้นทุนสูง จึงมีการผลิตไม่มากนัก เฉพาะรุ่น 4G Mk-II เพียง 3,828 คันเท่านั้น (1953-1959)

“Squariel” (สแควร์เรียล) นิคเนมที่เกิดขึ้นในไลน์การผลิตรถ “สี่สูบ” “สี่สูบ” ในยุคปี 1930 ที่ทรัพยากรธรรมชาติยังคงมีเหลือเฟือ Ariel หนึ่งในแบรนด์ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ใน Bournbrook, Bermingham หวังสร้างชื่อด้วยรถเครื่องยนต์ใหญ่ ทรงพลัง และต้องการวางให้เป็นรถระดับ “เดอร์ลุค” ที่มีวางจำหน่ายในท้องตลาด ซึ่งแนวคิดนี้เกิดขึ้นในราวปี 1929 ทว่า กว่าจะเข็นให้สิ้นกระบวนความ ก็ล่วงไปถึงปลายปี 1931 ซึ่งตอนนั้น โลกก็ได้รู้จักเครื่องยนต์แบบที่เรียกว่า “Square Four” (สแควร์โฟร์) อย่างจริงจัง

2

2.1เครื่องยนต์รุ่นท็อป 4G Mk-II วัสดุอะลูมินั่มทั้งหมด Square 4/4 จังหวะ 997 ซี.ซี. 8 วาล์ว 40 แรงม้าที่ 5,800 รอบ/นาที ขุมกำลังขนาดใหญ่ที่สุดสำหรับรถอังกฤษในยุคนั้น เด่น สะดุดตา ท่อไอเสียออก 4 รวม 2 มันดูทรงพลังเป็นที่สุด

ถ้านับไลน์ผลิตโดยยึดจากบล็อกเครื่องยนต์แบบ “Square Four” นั้น Ariel Motors Ltd. บรรจุมันไว้ในปี 1931-1959 เครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ 2 ข้อเหวี่ยง วางขวางตามแนวเฟรม แบบ 4 ลูกสูบ แคมชาฟท์ร่วม ในบล็อกเสื้อสูบที่ออกแบบเป็น 4 เหลี่ยมจัตุรัส คือนวัตกรรมที่ Edward Turner นั้นพัฒนาขึ้นจากบล็อกเครื่องยนต์ที่เคยเปิดตัวให้เห็นมาบ้างราวปี 1928 ซึ่งจริงๆ แล้วเครื่องยนต์รูปแบบนี้ เคยมีแนวคิดว่าจะสร้างสำหรับรถจักรยานยนต์ BSA ทว่า ท้ายสุดกลับถูกปฏิเสธ Ariel หนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิด เลยถือโอกาสจับมันมารีโนเวทและคลอดให้เห็นครั้งแรกในบล็อกเครื่องยนต์ที่เรียกว่า 4F

3.1

3แบบฉบับของรถ “หัวไอ้โม่ง” คิ้วสันกลางกะโหลก มาพร้อมแป้นเรือนไมล์รวมชุด ที่วางไมล์ Smith แอมป์ และสวิตช์ไฟของ Lucas มุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของ Ariel Motors Ltd.

4F (1931-1936) : เครื่องยนต์ที่เปิดตัวเป็น เครื่องยนต์ต้นแบบ” ณ งาน Olypia Motorcycle Show ในปี 1930 เครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนการทำงานด้วย โซ่” ขับแคมชาฟท์เหนือสูบ (OHC) ตอนนั้นมันมีความจุกระบอกสูบเพียง 500 ซี.ซี. ขับเคลื่อนด้วยชุดเกียร์ (มือ) แบบ 4 สปีดที่พัฒนาโดยผู้ผลิตอิสระนาม Burman…ต่อมาในปี 1932 มีการขยับปริมาตรกระบอกสูบเพิ่มขึ้นอีก 5 มม. ความจุใหม่ที่ 601 ซี.ซี. และเพิ่มออปชันสำหรับรถ ไซด์คาร์” และได้รับการปรับแต่งเพื่อทำการแข่งขัน Maudes Trophy ระยะทาง 700 ไมล์ (1,127 กม./ชม.) ซึ่ง ณ เวลานั้น Ariel 4F สามารถทำความเร็วเฉลี่ยไว้ที่ 87.4 ไมล์ (140.7 กม./ชม.)

4 ซัพหลัง “สไลด์เกือกม้า” (Anstey-Link Plunger) เอกลักษณ์ที่คิดค้นแทน “หลังแข็ง” ในรถรุ่นปี 1939 แกนล้อเลื่อนขึ้น/ลง ในเฟรม ทว่า มีเหล็กกันโคลงทรงเกือกม้าค้ำ เสริมความมั่นคงเข้าไปอีก

4G (1936-1949) : ชื่อเสีย” ที่ต้องได้รับการแก้ไข สูบหลังที่มักเกิดปัญหาความร้อนสูง (Overheat) มันนำมาซึ่งการออกแบบเครื่องยนต์ใหม่ในปี 1937 เครื่องยนต์ 4G ขนาดความจุ 995 ซี.ซี. ขุมกำลังใหม่ที่เข้าประจำการ แถมในปี 1939 Ariel เพิ่มอานิสงส์ที่ระบบ ซัพแรงหลัง” ใหม่มาให้ได้ มันมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการคือ “Anstey-Link Plunger” (โช้คสโลด์เกือกม้า) และปิดจ๊อบด้วย ซัพหน้า” Telescopic Front Forks (หน้ากระบอก) อีกครั้งในปี 1946     

5ปรกติถังออยล์ กับกล่องเครื่องมือแยกออกเป็น 2 ชิ้น ทว่า เพราะใช้ในรถรุ่นเครื่องยนต์ 4 สูบขนาด 1 ลิตร ปริมาณน้ำมันเครื่องที่เพิ่มมากขึ้น ความจุของออยล์ที่มากกว่า จึงต้องออกแบบใหม่ ให้เชื่อมต่อเป็นเฉพาะส่วนของถังออยล์มากความจุ

6ดุมหน้าดรัมเบรก (ดุมเต็ม) มือลิงเบรกเดี่ยวขนาด 7 นิ้ว (หลัง 8 นิ้ว) ระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งไว้ให้

Mark – I (1949-1953) : 1949 เครื่องยนต์ได้รับการพัฒนาอีกครั้ง “เสื้อสูบ-ฝาสูบเหล็กหล่อ” ถูกแทนที่ด้วยวัสดุสมัยใหม่ที่เรียกว่า “อะลูมินั่ม” เบา และระบายความร้อนได้ดีกว่า ชุดนี้ Ariel เม้าท์ว่ามันช่วยให้เครื่องยนต์เบาลงถึง 30 ปอนด์ (14 กก.) และเมื่อนำมาใช้ Ariel “Mk-I” รุ่นใหม่นี้จึงมีน้ำหนักตัวที่ 435 ปอนด์ (197 กก.) ซึ่งก็ช่วยให้มันสามารถทำความเร็วได้เพิ่มมากขึ้น มากกว่า 90 กม./ชม. ที่ขุมกำลังขนาด 35 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที

7ท่อไอเสียแบบบพิมพ์ที่คุ้นตา จาก 4 รวม 2 ออก 2 ฝั่งซ้าย/ขวา จบที่ไซเรนเซอร์ที่ให้สุ้มเสียงที่เจนโสต

Mark – II (1953-1959) : ภาพลักษณ์ของรถ “4 ท่อ” เริ่มเด่นชัดขึ้น 1953 Ariel Square Four Mk-II มีการออกแบบให้เสื้อสูบใหม่ รวมถึงหน้าตาของฝาสูบ ที่แยกส่วนของช่องทางเดินไอเสียใหม่ พร้อมครีบระบายความร้อน ภาพลักษณ์ที่ถนัดตาของไอเสียแบบ 4 ท่อ กับโดมครอบวาล์วทรงสูง และหันมาใช้คาร์บูเรเตอร์ของรถยนต์อย่าง SU ก็ช่วยให้ รถ “Mk-II” นี้แรงขึ้นเป็น 40 แรงม้า คราวนี้ความเร็วสูงสุดก็มาแตะที่ 100 mph. (160 กม./ชม.) สมดังตั้งใจ…ในปี 1954 เหมือนว่า Ariel จะสนใจระบบซัพหน้าแบบ “สวิงอาร์ม” (Earles Forks/แบบ BMW) รถต้นแบบในรุ่น “Mk-III” คือแนวทางพัฒนา ทว่า ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ รถ “หน้าสวิงอาร์ม หลังสไลด์” ไปไม่ถึงดวงดาว แบบการตลาดของรุ่น 4 สูบ “Mk-II” คือแบบ “สุดท้าย” ที่ทำการผลิต…กระทั่งปี…1959.!?!?!   

8ถังใหญ่ความจุมากถึง 23 ลิตร (6 แกลลอน) กับเอกลักษณ์ของงานสี ที่สันถังด้านบนเว้า ชุบโครมทั้งใบ ก่อนทำสี เว้นจังหวะตามแบบ และ Ariel เลือกวางฝาถังไว้ตรงกลาง พร้อมยังข้างถัง เครื่องหมายการค้า “ม้าพยศ”   LOGO

1958 ARIEL Square 4

รถ                                                           Ariel

รุ่น / ปี                                                    Square 4 / 1958

เจ้าของ                                                 ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์  

เครื่องยนต์                                           Square 4 / 4 จังหวะ 997 ซี.ซี. 8 วาล์ว

40 แรงม้าที่ 5,800 รอบ / นาที

เฟรม                                                     ท่อเหล็ก / คานเดี่ยว

ระบบไฟ                                                ฟีลคอยล์ 6 V. / (แสงสว่างไดชาร์จ)

ระบบเกียร์                                            4 สปีด (ขวา)

ระบบคลัตช์                                          แห้ง (หลายแผ่น / ใช้น้ำมันเครื่องเลี้ยง)

ระบบขับเคลื่อน                                    โซ่

ระบบโช้คอัพ (หน้า/หลัง)                   เทเลสโคปิก / โช้คสไลด์

ระบบเบรก (หน้า/หลัง)                        ดรัมเบรก (ดุมเต็มขนาด 7 นิ้วม็ม้H) บนล้อขนาด 19 นิ้ว

น้ำหนักรวม                                          425 ปอนด์ (193 กก.)
ฐานล้อ                                                 
1,422 มม.

ความจุเชื้อเพลิง                                  23 ลิตร

ความเร็วสูงสุด                                    100 mph. (160 กม. / ชม.)

 

อ้างอิง : THE ENCYCLOPEDIA OF THE MOTORCYCLE / Hugo Willson

: ON 2 WHEEL / Roland Brown

: https://en.wikipedia.org/wiki/Ariel_Square_Four

 

STORY :  NuiAJS /

PHOTO : Kwang GPI.Photo Dep.

Related Articles

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save