Classic Bike

1968 BSA BANTAM D14/4 Supreme

1968 BSA BANTAM D14/4 Supreme

“พ่อไก่แจ้” รถเล็ก สเป็กใหญ่ พิมพ์เขียวตำนาน RT125 

1รถเล็ก สเป็กใหญ่ แบบการผลิตที่เกิดขึ้นจาก DKW RT125 ของเยอรมัน นี่คือ “พิมพ์เขียว” ที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะมัน ถึก อึด ดูแลรักษาง่าย เรียกว่าหลายๆ แบรนด์การค้า หยิบจับเอาโมเดลนี้มาพัฒนา ซึ่ง BSA ก็โดดร่วมวงนี้ด้วยเช่นกัน แถมมีไลน์ผลิตยาวนานถึง 23 ปี 9 เจเนอเรชัน

             BSA Bantam คือ “รถเล็ก” เครื่องยนต์แบบ 2 จังหวะไลน์หนึ่งที่เกิดขึ้นในโรงงานผลิตอาวุธปืนของเครือจักรภพอังกฤษนาม Birmingham Small Arms Company (BSA) ที่เกิดขึ้นระหว่างปี 1948-1971 แม้จะยังไม่มีรายงานถึงจำนวนผลิตที่แน่นอน ทว่า ก็คาดหมายว่ามันมากกว่า 250,000 คัน กระทั่งบางข้อมูลแจ้งว่ามันใกล้เคียงตัวเลขที่…1 ล้านคัน!!!

2

2.1Bantam D14/4 Supreme ไลน์ผลิตที่ 8 ของปี 1968 หรูหราด้วยกรอบครอบกะโหลกไฟหน้า สวิตช์หัว และไมล์ฝังกลาง ถ้าใครคุ้นตา มันคือการย่อสเกลของรถรุ่น A50 มาปรับใช้ในรุ่นนี้ บนช่วงหน้าแบบที่พัฒนาแล้ว กับเบรกหน้าดุมเสี้ยวขนาด 5 นิ้ว และล้อขนาด 18 นิ้ว

5ท่อไอเสียออกแบบเรียบง่าย ปลายยาว คอท่อใหญ่ ทว่า เอกลักษณ์ของ Bantam คือปลายหางปลา (Fishtail) วัสดุอะลูมิเนียม เสริมราคาให้รถเล็กดูมีดีไซน์ขึ้นมาก

ถึงแม้ว่า Bantam จะเกิดขึ้นภายใต้วิศวกรรมของชาวอังกฤษแท้ๆ กระนั้น ก็ช่วยไม่ได้ที่จะได้รับการปรามาสว่านี่มันแบบการผลิตรุ่นยอดนิยมของเยอรมัน มันคือ “พิมพ์เขียว” ที่แตกหน่อมาจาก DKW รุ่น RT125 ซึ่งถือเป็นโมเดลรถเล็กเครื่องยนต์ 2 จังหวะที่ได้รับความนิยมเป็นที่สุด อเนกประสงค์ อึด ทน และ ประหยัด แถมยังซ่อมบำรุงง่าย ขนาด Harley-Davidson ยังผลิตมันออกมาใช้ในนามของรุ่น Model 125 (ในปี 1947) และ Mockba (Moskva) รุ่น M1A ของ U.S.S.R. รวมถึง IFA/MZ โรงงานสัญชาติเดียวกัน

3เสน่ห์ของถังน้ำมันสีเดิมๆ ออกห้าง D14/4 Supreme เป็นทูโทน สีน้ำเงิน (Polychromatic Blue) ชุบโครมที่แก้มถัง ยึดรัดด้วยเส้นสตริปโครมแบบคู่ ความจุขนาด 6 ลิตร หรูหรา ดูมีรสนิยม

BANTAM (แบนตัม-ไก่แจ้) คันแรกหลังจากปรับแบบ โดยกลับส่วนของชุดเกียร์-คันสตาร์ตมาไว้ทาง “ด้านขวา” ตามแบบฉบับของรถที่ผลิตในอังกฤษ เครื่องยนต์ D1 คันแรกเสร็จและพร้อมลงสู่ท้องถนนในเดือนตุลาคม ปี 1948 และยังคงถือเป็นรถเล็กที่มีกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องอีกถึง 23 ปี (9 โมเดล) นี่คือบทพิสูจน์ได้อย่างดีว่า “พ่อไก่แจ้” นั้น ได้รับความนิยมมากแค่ไหน โดยเครื่องยนต์บล็อกแรกขนาด 125 ซี.ซี. ถูกวางบนโครงสร้างเฟรมแบบ “หลังแข็ง” (Rigid) จวบจนถึงรุ่น D3 ในปี 1954 มีการปรับระบบซัพหลังใหม่ในแบบที่เรียกว่า “โช้คสไลด์” (Plunger) และขยับปริมาตรกระบอกสูบเป็น 150 ซี.ซี. และอีกครั้งในรุ่น D5 ขยับความจุเป็น 175 ซี.ซี. บนรถ “สวิงอาร์ม” โมเดลปี 1958   

4

4.1เครื่องยนต์แบบ 2 จังหวะ เกียร์รวม ที่เกิดจากพิมพ์เขียวของ “DKW RT125” ทว่า BSA แก้เก้อด้วยปรับระบบสตาร์ตและเกียร์มาไว้ทางด้านขวา และพัฒนาเครื่องยนต์ให้ใหญ่ขึ้นเป็น 175 ซี.ซี.

จัดให้สุด ลุยกันในแบบ “ตัวท็อป” ไลน์ผลิตเจนท์ที่ 8 ในนามของ Bantam D14/4   Supreme แค่ชื่อก็สื่อว่าไม่ธรรมดา ไลน์ผลิตนี้เกิดขึ้นสำหรับรถโมเดลปี 1968-1969 ที่พัฒนาขึ้นจากรุ่น D10 โมเดลปี 1966 ที่ใช้เครื่องยนต์แบบ 3 สปีดD14/4 Supreme ได้คิวพัฒนาเครื่องยนต์อีกครั้ง แม้จะยังคงมิติกระบอกสูบที่ได้ความจุ 175 ซี.ซี. ทว่า ขัดเกลาช่องพอร์ทใหม่รวมถึงกำลังอัดจนได้ 12.6 แรงม้า (9.4 Kw.) รวมกับชุดไฟรุ่นใหม่ของ Wipac ซัพหน้าที่นิ่มนวลขึ้นมาพร้อมกรอบไฟครอบไฟหน้า มันให้ความหรูหราและดูมีระดับขึ้นมาก แถมเพิ่มทางเลือกมาในคราวเดียวกันด้วยโมเดล D14/4 Sport รถซิ่งท่อยก กะโหลกไฟจับหูช้าง ติดตั้งไวด์สกรีน บังโคลนหน้า/หลังชุบโครเมียม และเบาะตูดมด ในขณะที่รุ่น D14/4 Bushman รถลุยบาร์สูง ที่ปรับเซ็ตระบบช่วงล่างที่แข็งแกร่งมากขึ้น โดยภาพลักษณ์เด่นสะดุดตานั้นมาพร้อมสีสันบาดใจ ที่มีให้เลือกทั้งดำ และน้ำเงิน (Black or Polychromatic Blue/ทูโทน ด้านบนสีและด้านล่างชุบโครเมียม) สำหรับรุ่น Supreme, แดง/โครม สำหรับรุ่น Sport (Flamboyant Red & Chrome) และ ส้ม/ขาว (Orange & White) สำหรับรุ่น Bushman      

6.2

6ระบบไฟพันธมิตรใหม่ ที่ BSA เลือกใช้สำหรับรุ่น Bantam ตั้งแต่รุ่น D7 ปี 1959 เปลี่ยนจาก Wico-Pacy มาใช้ของ WIPAC

7

7.1สีรถเดิมๆ มันเปี่ยมเสน่ห์จริงๆ น้ำเงิน (Polychromatic Blue) ซีด จาง  ไปตามกาลเวลา เส้นพินสีขาวนวล ทว่า ลายน้ำกระเป๋ายังพอเห็น สภาพแบบนี้บ้านเราแทบหาไม่ได้แล้ว

1968 BSA BANTAM D14/4 Supreme

รถ/รุ่น                                                    BSA / Bantam D14/4 Supreme

ปีผลิต                                                    1968-69

เจ้าของ                                                 Keng-Heinkel

เครื่องยนต์                                           สูบเดี่ยว 2 จังหวะ 175 ซี.ซี. (9.4 Kw.) 12.6 แรงม้า

ระบบไฟ                                               ฟีลคอยล์

คาร์บูเรเตอร์                                        AMAL Comcentic

ระบบเกียร์                                            4 เกียร์ (ขวา)

ระบบคลัตช์                                          เปียก (หลายแผ่น)

ระบบขับเคลื่อน                                   โซ่

ระบบโช้คอัพ (หน้า/หลัง)                    เทเลสโคปิก / สวิงอาร์มโช้คน้ำมัน

ระบบเบรก (หน้า/หลัง)                        ดรัมเบรก (ดุมหน้าเสี้ยวขนาด 5 นิ้ว / หลังดุมเต็ม)

(บนล้อหน้า 3.25 / 18-หลัง 3.50 / 18 นิ้ว)

ความจุเชื้อเพลิง                                 8.6 ลิตร

ความเร็วสูงสุด                                    105 กม. / ชม. (65 ไมล์ / ชม.)

อ้างอิง  : THE ENCYCLOPEDIA OF THE MOTORCYCLE / Hugo Willson

 : BSA CLASSIC MOTORCYCLE / Roy Morley

 : https://en.wikipedia.org/wiki/BSA_Bantam 

 

STORY : NuiAJS 

PHOTO : KWANG KDJ.

Related Articles

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Check Also
Close
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save