1990 Kawasaki ZXR400 SP

สปอร์ตโปรดักชันสีแสบ ยานอวกาศจากต่างดาว


คาวาฯ มาช้า แต่ก็มานะ “รถไฟคู่” โมเดลใหม่กำลังเป็นที่สนใจของตลาด ชาติกำเนิดในปี 1989 ภายใต้แนวคิดของรถ “สปอร์ตไบค์” ที่นอกจากจะขายในบ้านเกิดแล้ว ยังมีแนวคิดว่ามันต้องไปเฉิดฉายได้ในตลาดยุโรปอีกด้วย เพราะมาทีหลัง เลยต้องทำให้มันล้ำกว่าเขาเพื่อน “ท่อดักอากาศ” (Ram Air) แบบใหม่ มันเหมือนยานยนต์ต่างดาวจากหนังไซไฟ แปลกในตอนต้น ทว่า ก็กลายเป็นจุดขายที่เจนตา และเพราะ “กล้าคิด” ลูกค้าก็ “กล้าซื้อ” ซึ่งไลน์ผลิตต่อเนื่องของ ZXR400 นั้น อยู่ในช่วงปี 1989-1999



Kawasaki ZXR400 : คือแบบการผลิตที่ย่อสเกลของรถแข่งรุ่นพี่อย่างZXR750 ทว่า ลดทอนพละกำลังลงเหลือเพียง399 ซี.ซี. (24.3 Cu.in.) เครื่องยนต์แบบ 4 สูบแถวเรียง 4 วาล์ว/สูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่ให้แรงม้าสูงสุดที่ 59 แรงม้าที่ 12,000 รอบ/นาที แนวคิดของ Kawasaki ZXR400 นั้น ต้องการสร้างรถสปอร์ตชั้นดีที่มีเครื่องยนต์ที่เปี่ยมสมรรถนะ มันได้ผล ด้วยกำลังและความจัดจ้าน ในตลาด ZXR400 นั้น ไม่เป็นสองรองใคร ทว่า “จุดขาย” ที่ระบบดักอากาศนวัตกรรมใหม่ K-RAS (Kawasaki Ram-Air System) ที่ดูล้ำสมัย มันเหมือนชิ้นส่วนของยานอวกาศที่ได้รับการติดตั้งในรถจักรยานยนต์ ถามว่าล้ำไหม…? ตอบเลย ว่า โคตรล้ำ!!! ทว่า ในการใช้งานจริงๆ ช่องโพรงที่ออกแบบมามีขนาดที่เล็กเกินไป เมื่อความเร็วที่เพิ่มมากขึ้น มันได้ทั้งอากาศและก็ได้ “เสียงหวีด” ของลมเป็นของแถม จนเป็นวลีโจ๊กๆ ว่า “เสียงลมดังกว่าเสียงท่อไอเสีย” กระนั้น Kawasaki ก็ยังกล้าติดตั้งมันมาในรถทุกๆ เวอร์ชันของเขา (1989-1990…H1, H2/1991-1999…L1-L9)


ทั้งโมเดล H/L คือสุดยอดสมรรถนะที่โรงงานตั้งใจใส่ไว้ในรถรุ่นพิเศษของพวกเขา ทว่า กลับมีจำนวนผลิตออกมาไม่มากนัก เมื่อเทียบเคียงกับค่ายคู่แข่ง เหตุผลก็เพื่อให้มีจำหน่ายในจำนวนที่เป็นข้อตกลงทางการค้า ก่อนที่จะนำรถรุ่นดังกล่าวลงทำการแข่งขันได้ในคลาส “Sport Production” F-3


ทว่า ช่องโพรงที่ออกแบบมามีขนาดที่เล็กเกินไป เมื่อความเร็วที่เพิ่มมากขึ้น
มันได้ทั้งอากาศและก็ได้ “เสียงหวีด” ของลมเป็นของแถม จนเป็นวลีโจ๊กๆ ว่า “เสียงลมดังกว่าเสียงท่อไอเสีย” กระนั้น Kawasaki ก็ยังกล้าติดตั้งมันมาในรถทุกๆ เวอร์ชันของเขา
H1 Sport Production โมเดล (1989) ชื่อรุ่นการผลิตอย่างเป็นทางการคือ ZXR400J1 ตามด้วย ZXR400J2 (1990) แต่ก็ต้องเซอร์ไพรส์ เมื่อ Kawasaki ตัดสินใจรื้อแบบการผลิตใหม่หมด จาก “ไฟคู่” ถูกแทนด้วยไฟหน้า “แบบเหลี่ยม” ฟูลแฟริ่งถูกบีบให้แคบลง เปลี่ยนโครงสร้างเฟรม สวิงอาร์ม รวมถึงเครื่องยนต์ด้วย และเรียกแบบการผลิตใหม่คือ ZXR400M (1991) หรือรุ่น L1 ซึ่งข้อบ่งชี้หนึ่งที่เป็นข้อสังเกตคือ ป้ายเบอร์ท้ายเบาะ รุ่น H จะติดอักษรว่า “Sport Production” ส่วนรุ่น L จะติดอักษรว่า “400R”
