2025 Yamaha R9 สปอร์ตสามสูบตัวใหม่ บนพื้นฐานความแรงจากรหัส MT
การเปิดตัว Yamaha YZF-R9 ในปี 2025 ได้สร้างความสนใจอย่างมากในกลุ่มไบค์เกอร์ อย่างไรก็ตาม พบว่ามีจำนวนไม่น้อยเข้าใจผิดว่ารถรุ่นนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อมาแทน Yamaha YZF-R1
2025 Yamaha R9 ติดตั้งเครื่องยนต์สามสูบเรียง CP3 ขนาด 890 ซีซี ซึ่งได้รับการปรับปรุงจากรุ่น MT-09 โดยมีการปรับแต่งค่า ECU ใหม่ เพิ่มอัตราทดเกียร์ให้สูงขึ้นเป็น 16/45 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งกำลังและปรับปรุงการตอบสนองของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับการใช้งานที่หลากหลายยิ่งขึ้น แม้ว่าโครงสร้างพื้นฐานของเครื่องยนต์จะยังคงเหมือนเดิม แต่ส่วนประกอบภายในเกือบทั้งหมด ได้แก่ ลูกสูบ ก้านสูบ เพลาข้อเหวี่ยง เพลาลูกเบี้ยว และห้องเผาไหม้ ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีน้ำหนักเบาลง ซึ่งส่งผลให้เครื่องยนต์มีน้ำหนักรวมลดลงและแรงบิดเพิ่มขึ้น
เมื่อเทียบกับ Yamaha XSR900 ที่ใช้เครื่องยนต์รุ่นเดียวกัน สามารถสร้างกำลังสูงสุดได้ 115 แรงม้า ที่ 10,000 รอบ และแรงบิดกว่า 88 นิวตันเมตร ที่ 8,500 รอบต่อนาที คาดว่าในโฉมสปอร์ตไบค์ คงมีการปรับตั้งค่าบางส่วนที่แตกต่างกัน จะให้ค่ากำลังและแรงบิดใกล้เคียงกัน
ด้วยการออกแบบเฟรมอลูมิเนียมใหม่ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในกลุ่มรถสปอร์ตไบค์ ทำให้ Yamaha R9 มีน้ำหนักตัวเพียง 430 ปอนด์ หรือประมาณ 195 กิโลกรัม ซึ่งเบากว่า YZF-R6 ปี 2020 เล็กน้อย ที่มีน้ำหนัก 419 ปอนด์ หรือประมาณ 190 กิโลกรัม
การเลือกใช้โช้คหน้าแบบแยกส่วนของ KYB ที่สามารถปรับตั้งค่าได้หลากหลาย ทำให้มีศักยภาพในการปรับแต่งให้เหมาะสมกับสไตล์การขับขี่ของผู้ขับขี่แต่ละคนได้อย่างละเอียด ซึ่งแตกต่างจาก R7 ที่มีการตั้งค่าระบบกันสะเทือนที่ค่อนข้างตายตัว การออกแบบระบบกันสะเทือนของ R9 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างรถสปอร์ตไบค์ที่มีสมรรถนะสูง
ด้านเทคโนโลยีติดรถ ประกอบไปด้วย โหมดส่งกำลัง (PWR) 4 ระดับ, ระบบควบคุมการลื่นไถล (TCS) ที่ไวต่อแรงเฉื่อย 9 ระดับ, ระบบควบคุมล้อหน้ายก (LIF) 3 ระดับ, ระบบควบคุมการสไลด์ (SCS) 3 ระดับ, ระบบการจัดการเอนจิ้นเบรก (EBM) 2 ระดับ, ตัวควบคุมการลื่นไถลด้านหลัง (BSR), ระบบควบคุมเบรกที่ไวต่อแรงเฉื่อย (BC), ระบบควบคุมการออกตัว (LC), ฟังก์ชันปิด ABS ด้านหลัง และระบบเปลี่ยนเกียร์แบบควิกชิฟต์แบบสองทิศทาง
สำหรับโหมดการขับขี่มี 4 แบบ ได้แก่ Sport, Street, Rain และ Track รวมถึงฏหมดที่ผู้ขับขี่สามารถปรับการตั้งค่าได้เองอีก 2 โหมด ที่จะช่วยให้สามารถตั้งค่าการขับขี่ได้หลากหลายรูปแบบ โดยทั้งหมดสามารถสั่งการผ่านหน้าจอแสดงผลแบบสีชนิด TFT ขนาด 5 นิ้ว
เรื่อง : ธราภณ วชิระธรกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย : Motorcycle Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Motorcycle Magazine