Biker StoryClassic BikeHighlight

Café Racer $ Chopper $ Bobber

       

โก๋ แก่น เก๋า…’รมณ์ไหน “ตัวตน”

         ศัพท์ช่าง...2 ล้อกระแส “ตรงหว่างขา” นั้นหลายหน…คนสงสัย!!! ไอ้ที่ คร่อม ขี่ บี้ ขย้ำ นั้นมันสืบเทือกเง่ามาจากพงษ์ไหน แฮนด์หมอบ ถังยาว ตูดมด หน้ายาว หลังแข็ง ล้อโต ถังเพชร วลีโสตสารพันชวนสงสัย หนนี้หนไตรภาค กับ “ศัพท์แสง” ที่โลกสัญเสริญจนเป็นวัฒนะธรรมกลุ่มก้อนที่ขนานนามจนคุ้นโสตว่า Cafe Racer (คาร์เฟร่ เรเซอร์)…Chopper (ช็อปเปอร์) และ Bobbers (บ๊อบเบอร์)     

Cafe Racer : แตกหน่อ แทงยอด มาจากวัฒนธรรมกลุ่มชนคนมอเตอร์ไซค์ของอังกฤษยุคปี 1960 ที่เรียกขานศัพท์นามว่า “Rocker” หรือ “Ton-up”… Cafe Racer (บ้างเรียก Transport Cafe) คือรูปแบบการตกแต่งรถจักรยานยนต์ที่เน้นเรื่องของ “ความเร็ว” และ “ภาพลักษณ์” มากกว่าเรื่องของความสะดวกสบาย ซึ่งเกิดขึ้นจากการเลียนแบบนักแข่งรถจากรายการกรังด์ปรีซ์ ถังน้ำมันถูกทำให้ยาวขึ้น และทีการเว้าส่วนของปลายถัง เพื่อให้ผู้ขับขี่นั้นสามารถใช้เข่าหนีบ แฮนด์ทรงต่ำ กับเบาะเดี่ยวที่เรียกตูดมด คือภาพลักษณ์ที่เจนตาของกลุ่มชนที่ขลุกตัวอยู่กันตามคาร์เฟ่ร์-บาร์ (ทว่า ไม่ได้ไปดูตลก)

          ลายเซ็นต์ของรถที่เรียกเป็นเทรนการแต่งลุคว่า “คาเฟ่ เรเซอร์” ที่ต้องหมอบ เพราะต้องการหลบลมหนาวที่มากระทบกาย บาร์ทรงต่ำที่เป็นเอกลักษณ์นั้นพอจำแนกออกเป็น 2 แบบ “แฮนด์จับโช้ค” (Clip-on) แบบ 2 ชิ้นจะจับที่กระบอกโช้คอัพหน้า กับบาร์แบบชิ้นเดียวที่วางกลับด้าน เพื่อให้องศาการบังคับเลี้ยวต่ำลงและขยับไปทางด้านหน้ามากขึ้น (Clubman/ Ace bars) ซึ่งรวมถึงตำแหน่งของพักเท้า ก็ถูกขยับมาทางด้านหลัง รวมถึงอาจมีแฟร์ริ่งแบบเต็มตัว-ครึ่งท่อน ก็เป็นได้ตามรสนิยม

          เครื่องยนต์…มักจะได้รับการปรับแต่งให้มีความแรงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งนั่นก็ทำให้เครื่องยนต์ที่มีเทคโนโลยีสูงสุดในตอนนั้นคือ Triumph มักจะได้รับการเลือกสรรค์ โดยรถ Cafe Racer ที่เป็นเสมือนไอคอนของยุคคือ “The Triton” ที่ใช้ขุมกำลังจาก Triumph Bonneville วางเข้ากับเฟรมเปลคู่ Feather Frame ที่แข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางของ Norton ทว่า ราคาค่าตัวของมันไม่เบาอยู่เหมือนกัน กระนั้น สำหรับ “คอซิ่ง” งบน้อย ก็สรรหารถ Cafe Racer ในแบบของตัวเองแบบที่สบายกระเป๋ามากกว่าคือ “Tribsa” ที่เลี่ยงมาใช้เฟรมของ BSA…การตัดต่อพันธุกรรมของรถ Cafe Racer ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว มีรถซิ่งสวยๆ อีกที่เรียกว่า “Norvin” เครื่องยนต์ V-Twin ของVincent ถูกยัดลงเฟรมแปลคู่ตัวแพงของ Norton บางมีพ่อบุญทุ่ม ก็จัดเฟรมรถแข่งของ Rickman ไม่ก็ Seeley เอามาผสมจนได้ลุคซิ่ง ซึ่งทั้งหมดถูกบันทึกเป็นวัฒนะธรรมคร่อมที่เรียกขานว่า “คาเฟ่ร์ เรเซอร์” ในบัดดล

Chopper : คือธรรมเนียมการตกแต่งรถจักรยานยนต์อีกแขนงหนึ่งของฝรั่งฝั่งอเมริกา ที่เกิดขึ้นเองตามอู่ สำหรับนักซิ่ง “แกะดำ” ที่อยากมีรถมอเตอรไซค์เป็นของตัวเอง ชิ้นส่วนต่างๆ ของรถ ล้วนแต่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยมือ ตัด หั่น เว้า และ เชื่อม เข้าหากัน ซึ่งเอกลักษณ์ที่คุ้นตาของรถ “ช็อปเปอร์” นั้นคือ มีฐานล้อที่ยาวจากการยืดขนาดของเฟรมและช่วงหน้า-โช้ค ออกไปให้มากที่สุด หรือ วางองศาคอให้เอียงมากที่สุด พร้อมกับแฮนด์ทรงสูง (เท่าที่จะขี่ได้ตามบุคคลิกของเจ้าของรถ)  และมักเป็นรถ “หลังแข็ง” ที่ไม่มีโช้คอัพหลังคอยรับแรงกระแทก ตำแหน่งรับแรงจะอยู่ที่บริเวณโช้คอัพหน้าและส่วนของคอรถเท่านั้น เวลาเจอหลุม จะมีอาการสะท้านเล็กๆ ระริกๆ เป็นคุณลักษณ์เฉพาะ ภาพรวมของรถที่ดู ยาว ลาด ต่ำ สูงจากพื้นไม่กี่นิ้ว เอกลักษณ์ดังกล่าวได้รับการถ่ายทอดเด่นชัดมากที่สุดคือช็อปเปอร์ตกแต่งพิเศษ ใช้เครื่องยนต์ของ Harley-Davidson ชื่อ Captain American และ Billy Bike จากภาพยนต์เรื่อง Easy Rider ที่ออกฉายในปี 1969      

Bobbers : คือรูปแบบการตกแต่งรถจักรยานยนต์ที่โด่งดังมาจากยุคปลาย 1940-1950 ซึ่งมีประวัติศาสตร์เก่ากว่า “Chopper” ด้วยซ้ำ รูปแบบพิเศษนี้คือการสร้างสรรค์ด้วยมือ ในอู่หลังบ้าน ซึ่งผู้สร้างต้องอาศัยทักษะทางเมคคานิคด้วย ช่วงที่บูมที่สุดของ “บ็อบเบอร์” คือหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยได้แรงบันดาลใจจากรถจักรยานยนต์ทางฝั่งยุโรปที่ดูบางเบา และไม่มีชิ้นส่วนอะไรมากมายนัก ชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นถูกถอดออกเพื่อลดมวล รถหนักๆ ถูกทำให้เบาลง แบรนด์หลักๆ ทั้ง Indain/ Harley-Davidson ถูกปลดพันธนาการ…จน…ได้ลุคใหม่ที่ฉีกออกไป…แล้ว…มันต่างจาก “Chopper” ยังไง…??  

 Bobbers VS Chopper : ปัจจัยเรื่อง“ต้นทุน” อาจเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ “ธรรมเนียม” ของรถตกแต่งพิเศษนี้ต่างกัน Chopper เน้นความเป็นชิ้นส่วนที่สวยงาม วิจิตรบรรจง และใช้ชิ้นส่วนที่สร้างขึ้นเองเป็นหลัก ในขณะที่ Bobbers นั้นยังคงคาแรคเตอร์ของรถที่ใช้ “เฟรมเดิม” โรงงาน (Stock Frame)…Chopper ออกแบบ เลือกสรรค์วัสดุ…เชื่อม…จนเป็นโครงสร้างหลัก ใช้โช้คอัพหน้าขนาดยาวพิเศษ ตลอดจนชิ้นงานตกแต่งที่เน้นความมันวาวของโครมเมี่ยมเป็นหลัก มักมีถังน้ำมันขนาดเล็ก บาร์ทรงสูง (Ape Hanger) ที่การออกแบบนั้นเต็มไปด้วยสุนทรียของเจ้าของเป็นปัจเจก และที่สำคัญมันมีสนนราคาค่าตัวรวมที่แพงไม่หยอก ในขณะที่ Bobbers เน้นงานฝีมือดิบๆ ที่ทำกับชิ้นส่วนมาตรฐาน หั่น ตัด เว้า เฉือน ให้มันสั้นและมีขนาดที่เล็กลง ซึ่งแทบไม่มีต้นทุน หรือมีก็ไม่มากนัก เพราะของที่ได้มาก็มักจะเป็นของเซคกันแฮนด์ กระนั้น ดังที่กล่าวมา ถือเป็นวิถี-วิธี การตกแต่ง 2 ล้อที่ได้มวลชนอยู่ไม่น้อย จะมาก-จะน้อย ถูก-แพง เลือกสรรค์ได้ตามถนัด “จัด” ไปซักคัน แล้วสร้างสรรค์มันในแบบฉบับของตัวเอง…ถึงใครไม่ชอบ…ก็ตอกกลับไป…แต่…กู (รู) ชอบ…!?!?!

Related Articles

Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save