Brabus 1400 R
Brabus 1300 R ดั้งเดิมมีต้นแบบมาจาก KTM 1290 Super Duke Evo โดยนำเครื่องยนต์และแชสซีมาใช้ หุ้มด้วยสไตล์ของเนื้อหนังที่แตกต่างออกไป ซึ่งรวมถึงไฟหน้าทรงกลมที่ยืมมาจาก Husqvarna
สำหรับรุ่นแรกถูกผลิตขึ้นในจำนวนจำกัด 154 คัน (สีแดง 77 คัน และสีดำ 77 คัน) มีราคาเกือบ 45,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1,604,700 บาท และไม่ได้มีสเปคที่เหนือกกว่า Super Duke Evo กับค่าตัว 19,000 เหรียญสหรัฐฯ ประมาณ 677,700 บาท แต่รถที่ผลิตออกมา 154 คัน กลับขายหมดภายใน 2 นาที หลังจากเปิดจองคำสั่งซื้อ
Brabus 1300 R Edition 23 เป็นรุ่นที่สองในปี 2023 มีการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 290 คัน พร้อมกับสองเฉดสี คือ สีดำ Superblack และสีเทา Stealth Grey จำนวนอย่างละ 50/50 มีการปรับแต่งการออกแบบรวมถึงครอบไฟหน้าและช่องดักอากาศใหม่ แถมยังขายหมดเร็วเช่นเคย
หลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือน ได้มีการเปิดตัวเวอร์ชันที่สามกับ 1300 R Masterpiece Edition กับความพิเศษมากกว่า 2 เวอร์ชันที่ผ่านมา โดยผลิตเพียง 50 คัน สีขาว 25 คัน และ สีดำ 25 คัน และทางค่ายสัญญาว่าจะเป็นโมเดลสุดท้ายในไลน์ผลิต
มีความเป็นไปได้ว่า 2024 KTM 1390 Super Duke จะกลายมาเป็นรุ่นพื้นฐานของมอเตอร์ไซค์ Brabus พร้อมกับเครื่องยนต์ LC8 ขนาด 1,350 ซีซี V-twin ติดตั้งระบบวาล์วแปรผันและระบบ shiftcam ที่สามารถให้กำลัง 190 แรงม้า ที่ 10,000 รอบต่อนาที ทำแรงบิด 145 นิวตันเมตร ที่ 8,000 รอบต่อนาที
ยังมีคำขอเครื่องหมายการค้าสำหรับคำว่า “Brabus 1400R Signature” และ “Brabus 1400 Tailor Made” ซึ่งดูน่าสนใจไม่น้อยว่าทางค่ายจะนำเสนอในรูปแบบใด แต่ก็คาดว่าถ้าถูกผลิตออกมาคงขายหมดเกลี้ยงเหมือนเดิม
เรื่อง : ธราภณ วชิระธรกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย : Motorcycle Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Motorcycle Magazine
