กระทรวงคมนาคมของประเทศมาเลเซียออกมาแถลงว่า ใครที่ใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้า หรือ พาหนะขนาดเล็ก ที่สามารถทำความเร็วได้เกิน 50 กม./ชม. จะต้องมีใบอนุญาตเพื่อใช้ โดยกฏหมายดังกล่าวจะเริ่มใช้ในเร็วๆ นี้
สำนักข่าวทข่าวออนไลน์ท้องถิ่นของมาเลเซียได้ระบุว่า พระราชบัญญัติการขนส่งทางถนนได้รับการแก้ไขเพื่อให้ครอบคลุม ‘พาหนะขนาดเล็ก’ และในเร็วๆ นี้ กระทรวงคมนาคมจะเปิดเผยกฎหมายที่เสนอที่ครอบคลุมสำหรับการใช้พาหนะดังกล่าว ซึ่งคาดว่ากฎเกณฑ์ที่ระบุจะมีประเภทของยานพาหนะที่จะได้รับอนุญาตขับขี่บนถนนสาธารณะ และเงื่อนไขที่ผู้ขับขี่จะต้องได้รับใบอนุญาตจึงจะใช้งานได้ นอกจากนี้ยังสามารถดำเนินการภายใต้พระราชบัญญัติการขนส่งทางบกสำหรับยานพาหนะใดๆ ที่ไม่เหมาะสมสำหรับการใช้งานบนทางหลวง
กฎสำคัญข้อหนึ่งของกระทรวงคมนาคมคือเรื่องของใบอนุญาตในการใช้งานยานพาหนะขนาดเล็กที่มีความเร็วเกินกว่า 50 กม./ชม. ก็ถูกนำเข้ามาพิจารณาด้วยเช่นกัน เพราะตอนนี้เป็น “เทรนด์” สำหรับรถจักรยานไฟฟ้าบางคันที่สามารถทำความเร็วได้เทียบเท่ามอเตอร์ไซค์ และยังมีโอกาสสูงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้หากผู้ขี่ขับเร็วเกินไปและสูญเสียการควบคุม
สกูตเตอร์ไฟฟ้า หรือ E-Scooter ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศมาเลเซีย เพราะง่ายต่อการจับจองเป็นเจ้าของและความสะดวกในการขับขี่ไปยังสถานที่ต่างๆ และมีราคาที่ถูกกว่ามอเตอร์ไซค์ทั่วไป ซึ่งทำให้กระทรวงคมนาคมเกิดจากความกังวลต่อสาธารณชนทั่วไป โดยล่าสุดมีผู้ใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้าหลายคนสร้างความรำคาญให้กับทั้งผู้ขับขี่รถยนต์และคนเดินถนน โดยที่บางรายเกิดอุบัติเหตุจนได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วย โดยมีภาพตัวอย่างของผู้หญิงคนนี้ที่ภาพด้านล่างซึ่งรายงานว่าขากรรไกรของเธอหัก
นอกจากจะมีการขับขี่กันบนทางเท้าและถนนหลักแล้ว ผู้ใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้ามักถูกพบเห็นขณะขับขี่ยานพาหนะโดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัย เช่น การสวมหมวกนิรภัยและไฟส่องสว่าง และยังมีผู้ที่ขับขี่หวาดเสียวเป็นอันตราย เช่น พุ่งฝ่าไฟแดงและแม้กระทั่งนั่งซ้อนบนสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่ไม่ได้ออกแบบมาให้บรรทุกได้หลายคน
ในปัจจุบันเทศบาลบางแห่ง เช่น สภาเทศบาลเมืองปีนัง ได้บังคับใช้คำสั่งห้ามใช้งานสกูตเตอร์ไฟฟ้าและพาหนะขนาดเล็ก นอกจากนั้นยานพาหนะดังกล่าวก็ถูกห้ามขายตามห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่ในประเทศอีกด้วย
ภาพ: TRP, FMT และ WOB
