เจาะลึก มอเตอร์ไซค์วิบากรุ่นแรกของ Ducati อย่างเป็นทางการกับ Desmo450 MX 2026 ซึ่งเป็นการก้าวเข้าสู่สนามวิบากอย่างเต็มตัวของแบรนด์จากอิตาลี ที่มีชื่อเสียงด้านความเร็ว และเทคโนโลยีจากสนามแข่งระดับโลก
เจาะลึก จุดเด่น Ducati Desmo450 MX 2026
- เครื่องยนต์ Desmodromic สูบเดียว 449.6 ซีซี: ให้กำลังสูงสุด 63.5 แรงม้าที่ 9,400 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 53.5 นิวตันเมตรที่ 7,500 รอบ/นาที พร้อมรอบเครื่องยนต์สูงสุดที่ 11,900 รอบ/นาที
- โครงสร้างเฟรมแบบ Twin-spar aluminium: ประกอบด้วยชิ้นส่วนเพียง 11 ชิ้น ลดการเชื่อมต่อและน้ำหนักโดยรวม ทำให้รถมีน้ำหนักเพียง 104.8 กิโลกรัม (ไม่รวมน้ำมัน)
- ระบบกันสะเทือน Showa: โช้คหน้าแบบ USD ขนาด 49 มม. ระยะยุบตัว 310 มม. และโช้คหลังแบบเดี่ยว ระยะยุบตัว 301 มม. ทั้งสองสามารถปรับความเร็วการคืนตัว, ความเร็วในการยุบตัว และระยะยุบตัวได้ เพื่อการควบคุมที่แม่นยำ
- ระบบเบรก Brembo/ดิสก์เบรก Galfer: คาลิปเปอร์ลอย 2 ลูกสูบ จับกับดิสก์เบรกขนาด 260 มม. ที่ด้านหน้า และคาลิปเปอร์ลอย 1 ลูกสูบ จับกับดิสก์เบรกขนาด 240 มม. ที่ด้านหลัง เพื่อการหยุดที่มั่นใจ
- ระบบอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง: มาพร้อมโหมดการขับขี่ 2 โหมด ได้แก่ Smooth และ Dynamic รวมถึงระบบ Ducati Traction Control (DTC) ที่สามารถปรับระดับการแทรกแซงได้ 4 ระดับ และระบบ Launch Control ที่มีให้เลือก 3 ระดับ
- การเชื่อมต่อผ่านแอป Ducati X-Link: ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งโหมดการขับขี่ ติดตามประวัติการบริการ และตรวจสอบสถานะของรถผ่านแอปพลิเคชันเฉพาะ
- ระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ: ใช้หม้อน้ำรูปทรงเหลี่ยมที่มีพื้นที่ผิวมากกว่าหม้อน้ำแบบทั่วไปถึง 6.5% เพื่อการระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้น
- วาล์วไทเทเนียมและเหล็กเติมโซเดียม: วาล์วไอดีขนาด 40 มม. ทำจากไทเทเนียม และวาล์วไอเสียขนาด 33 มม. ทำจากเหล็กที่มีแกนกลวงเติมโซเดียม เพื่อการจัดการความร้อนที่ดีขึ้น
- น้ำหนักเบาและการควบคุมที่ง่าย: ด้วยน้ำหนักที่เบา และการออกแบบที่เน้นความคล่องตัว ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ง่ายทั้งในสนามแข่ง และเส้นทางวิบาก
- การออกแบบที่เน้นผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง: การออกแบบตัวถังและเบาะนั่งที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ
Ducati Desmo450 MX โมเดลปี 2026 เป็นการเปิดตัวที่น่าสนใจมากในโลกของมอเตอร์ไซค์วิบาก ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และการออกแบบที่เน้นประสิทธิภาพ รวมถึงความคล่องตัว ไม่ว่าจะเป็นนักแข่งมืออาชีพ หรือผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ในเส้นทางวิบาก รับว่าเป็นรถที่พร้อมจะตอบสนองทุกความต้องการของคุณ
เริ่มวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือในเดือนกรกฎาคม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 11,495 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 377,000 บาท
#DucatiThailand
#DucatiWorldPremiere
#Motocross
#MotorcycleNews
#Enduro
#Rider
#DirtBike
#MXCommunity
#ข่าวมอเตอร์ไซค์
#เปิดตัวรถใหม่
#ข่าวDucati
#สเปคมอเตอร์ไซค์
#รีวิวมอเตอร์ไซค์
#รถวิบาก
#Ducatiใหม่ล่าสุด
#เทคโนโลยีDesmodromic
#มอเตอร์ไซค์วิบาก2026
#แนะนำรถใหม่
เรื่อง : ธราภณ วชิระธรกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย : Motorcycle Magazine
ติดตามข่าวสารยานยนต์ตามความต้องการรถใหม่ได้ที่ Motorcycle Magazine
