Harley-Davidson Pan America และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า LiveWire เป็นสองโมเดลสำคัญของการเปลี่ยนผ่านจากรุ่นสู่รุ่นของแบรนด์ที่มีอายุกว่า 121 ปี กำลังดำเนินอยู่ แต่มีอีกหนึ่งมอเตอร์ไซค์ที่ได้รับความคาดหวังอย่างมากที่ไม่ได้เผยโฉม นั่นคือ Harley-Davidson Bronx Streetfighter 975 รถสปอร์ตเปลือยที่หลายคนให้ความสนใจ แต่กลับถูกเก็บเข้ากรุอย่างไม่คาดฝัน สร้างความผิดหวังให้กับแฟนๆ ยุคใหม่จำนวนมากที่รอคอยผู้สืบทอดจิตวิญญาณของ Harley XR1200
แต่ Powerbrick ผู้สร้างรถมอเตอร์ไซค์คัสตอมชาวดัตช์ ได้เข้ามาสนองความต้องการให้เหล่าแฟนๆ โดยเปลี่ยน Pan America ที่เพรียบพร้อมไปด้วยการขับขี่แบบออฟโรด ให้กลายเป็น Harley-Davidson Bronx สตรีทไฟท์เตอร์สุดเฉียบ โดยถอดชิ้นส่วนดั้งเดิมที่ไม่จำเป็นของแพนออกทั้งหมด ส่วนที่เจ๋งที่สุดคือการที่สำนักแต่งรักษาดีไซน์จมูกฉลามเอาไว้ ตั้งแต่ซับเฟรมสั้นที่ออกแบบเองไปจนถึงงานพ่นสีแบบ dual-color ทำให้มันกลายร่างเป็นมอเตอร์ไซค์คัสตอมที่เจ๋งที่สุดเท่าที่เคยเจอมา
การแปลงยานแม่สายแอดเวนเจอร์ขนาด 1250 ซีซี ให้กลายเป็นรถสไตล์โฮลิแกนสำหรับการขับขี่ในเมือง นับว่าเป็นเรื่องไม่ง่ายเลย เพราะการออกแบบของ Pan America 1250 มีส่วนประกอบหลักและฟังก์ชันการใช้งานมากมาย แต่ Powerbrick ไม่เพียงแค่ย่อส่วนมันลงเท่านั้น แต่ยังสร้างรถโรดสเตอร์ที่ดูเท่และน่าเกรงขามขึ้นมาอีกด้วย สำนักแต่งแห่งนี้ได้ใช้ทั้งชิ้นส่วนที่ออกแบบเองจากโรงงานและชิ้นส่วนจากภายนอก เพื่อสร้างรถฮาร์เลย์สไตล์โรดสเตอร์ที่ไม่เหมือนใคร
Powerbrick ยังใด้ถอดชุดหน้าจอแสดงผลที่เป็นของเดิมและชิลด์บังลมขนาดใหญ่ ออกไป นอกจากนี้ แครชบาร์ที่ติดอยู่ตามด้านข้างตัวรถก็ถูกถอดออกไปด้วย รวมไปถึงชุดไฟเสริมและฐานยึดใต้ไฟหน้าก็หายไป
แผงหน้าจอแสดงผลเดิมและงานระบบไฟฟ้าทั้งหมดในส่วนบนสุดของฝาครอบไฟหน้าครีบฉลามนั้นถูกย้ายไปไว้ที่ส่วนบน โดยสร้างฐานยึดแบบคัสตอมเพื่อติดตั้งหน้าจอ TFT และระบบไฟทุกอย่าง รวมถึงไฟหน้าด้วย การออกแบบในส่วนนี้ทำให้นึกถึงการติดตั้งบน Suzuki Katana ปี 2024
Powerbrick ยังถอดชิ้นส่วนพลาสติกขนาดใหญ่ที่อยู่บนถังน้ำมันที่มีประโยชน์สำหรับรถแอดเวนเจอร์ แต่ไม่เหมาะกับรถแนวสตรีทไฟท์เตอร์ รวมถึงช่องเติมน้ำมันติดรถก็ถูกแทนที่ด้วยฝาปิดถังน้ำมันอลูมิเนียมแบบ billet ที่สั่งทำพิเศษเพื่อให้ดูเรียบเนียนเข้ากับการออกแบบถังน้ำมัน
การปรับแต่งดีไซน์ที่ดูดุดันที่สุดของ Pan America คันนี้ อยู่ที่ด้านท้าย เบาะนั่งแบบผู้โดยสารสองคน ถูกแทนที่ด้วยเบาะนั่งเดี่ยว ซับเฟรมเดิมยังถูกแทนที่ด้วยซับเฟรมแบบคัสตอมจาก Nius Moto ที่เข้ากับสไตล์สตรีทไฟท์เตอร์คันนี้ได้เป็นอย่างดี และเมื่อมองจากด้านข้าง ส่วนท้ายรถเดิมที่ดูใหญ่เทอะทะก็ถูกตัดออกครึ่งหนึ่งพร้อมปรับแต่งให้มีความสวยงามลงตัวมากที่สุด
แผงตัวถังบนซับเฟรมที่สั่งทำพิเศษนี้ก็เป็นของใหม่ ผลิตขึ้นด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ โดยใช้คาร์บอนคอมโพสิต ที่น่าสนใจ คือ ยังคงใช้ไฟท้ายเดิมจากโรงงาน แต่ไฟเลี้ยวเดิมนั้นถูกแทนที่ด้วยไฟ LED แบบเรียบแบนที่ติดอยู่บนตัวถัง อีกหนึ่งความท้าทายในการตัดส่วนท้ายรถออกครึ่งหนึ่ง คือ การเดินสายไฟใหม่ โดยทาง Powerbrick เอาชนะอุปสรรคนี้ได้ด้วยการเปลี่ยนแบตเตอรี่เดิม เป็นชุดแบตเตอรี่ Noco ขนาดกะทัดรัดและระบบจัดการแบตเตอรี่ CTEK นอกจากนี้ ยังมีการย่นสายไฟให้สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อเก็บไว้ภายในส่วนท้ายรถให้ได้ทั้งหมด
เรื่อง : ธราภณ วชิระธรกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย : Motorcycle Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Motorcycle Magazine
