Honda-Yamaha ร่วมมือกันพัฒนารถจักรยานยานต์ไฟฟ้า
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา Honda-Yamaha ได้ร่วมกันพัฒนาโครงการรถจักรยานยานต์ไฟฟ้าขนาดเล็กอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันได้มีการนำผลงานวิจัยและพัฒนาไปสู่การผลิตจริง เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่ให้ความสำคัญกับยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น
Honda-Yamaha ได้ประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการในการนำเสนอรถจักรยานยานต์ไฟฟ้าสู่ตลาด โดยยามาฮ่าจะนำรถจักรยานยานต์ไฟฟ้ารุ่น EM1 e: และ BENLY e: I ซึ่งผลิตโดยฮอนด้า ไปจำหน่ายภายใต้แบรนด์ของตนเอง
รถจักรยานยานต์คลาส 1 ในญี่ปุ่น ถูกจัดให้เป็นยานพาหนะขนาดเล็ก น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับการใช้งานในเขตเมือง โดยมีข้อกำหนดทางเทคนิคที่เทียบเท่ากับรถจักรยานยานต์สันดาปภายในขนาด 50 ซีซี หรือมีกำลังไฟฟ้าของมอเตอร์ไม่เกิน 0.60 กิโลวัตต์ ซึ่งอาจมีกำลังที่ล้อสูงกว่าเนื่องจากอัตราทดเกียร์ ปัจจุบัน รถจักรยานยนต์คลาส 1 ที่ใช้ขุมพลังไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากนโยบายส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และความต้องการในการเดินทางที่สะดวกสบายในเมืองใหญ่
ความร่วมมือระหว่างบริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยานต์ชั้นนำของญี่ปุ่นในปี 2017 ได้นำไปสู่การก่อตั้งกลุ่ม Swappable Battery Consortium ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาระบบแบตเตอรี่แบบสลับเปลี่ยนที่สามารถใช้งานร่วมกันได้สำหรับรถจักรยานยานต์ไฟฟ้าและยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กอื่นๆ การดำเนินงานของกลุ่มดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่นในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยานยนต์ไฟฟ้า
รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่น Honda EM1 e: ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีกำลังสูงสุด 2.2 แรงม้า น้ำหนักรวม 95 กิโลกรัม สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 48.2 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และใช้เวลาในการชาร์จจนเต็มประมาณ 6 ชั่วโมง ในขณะที่รุ่น BENLY e: I ซึ่งเปิดตัวในปี 2019 มีสมรรถนะสูงกว่า โดยมีกำลังสูงสุด 3.6 แรงม้า น้ำหนัก 125 กิโลกรัม และสามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 88 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 4 ชั่วโมง
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าทั้งสองรุ่น พบว่า EM1 e: มีดีไซน์ที่เน้นความคล่องตัว เหมาะสำหรับการใช้งานในเมือง ในขณะที่ BENLY e: I มีการออกแบบที่เน้นประโยชน์ใช้สอย เหมาะสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ เช่น การขนส่งสินค้า อย่างไรก็ตาม การยุติการผลิตของ Yamaha อาจส่งผลกระทบต่อทิศทางการพัฒนาของทั้งสองรุ่นในอนาคต แม้ว่าแพลตฟอร์มหลักของ Honda น่าจะยังคงถูกนำมาใช้ แต่แนวโน้มการพัฒนาในอนาคตยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ยังไม่มีการเปิดเผยกำหนดการผลิตจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่เกิดจากความร่วมมือในครั้งนี้ แต่ทั้งสองบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะร่วมกันพัฒนานวัตกรรมเพื่อเอาชนะอุปสรรคสำคัญของเทคโนโลยีรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า อาทิ ปัญหาเรื่องระยะทางในการขับขี่ เวลาในการชาร์จ และต้นทุนการผลิต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการยอมรับของผู้บริโภค
เรื่อง : ธราภณ วชิระธรกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย : Motorcycle Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Motorcycle Magazine