……….ที่บึงฉวาก นับว่าเป็นสวนสัตว์ ที่มีเสือและสิงห์โตมากที่สุดในประเทศไทย ถึง 300 กว่าตัว จนต้องควบคุมปริมาณไม่ให้มากไปกว่าที่เป็นอยู่
หมดหนาว…ก็ร้อนเลย! ปีนี้เมืองไทยมาแปลกกว่าทุกปี ฤดูหนาวยาวนานกว่าทุกครั้ง และหนาวทุกซอกทุกมุมเสียด้วย ผมได้ทำทริปไปรับหนาวที่ “วังน้ำเขียว” มาทริปหนึ่ง ก็น่าประทับใจ ว่าหนาวครั้งใหม่คงจะต้องเตรียมตัวแต่ต้นฤดู
พอหมดหนาวก็เข้าสู่โหมดร้อนมากทันที แต่คนชอบชี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวนี่ครับ ร้อน หนาว ไม่หวั่นขอใหม่มีที่ไป…ไปไหน…ไปกัน เที่ยวให้มันสุดตัว! อย่างเช่นทริปนี้ครับ มีน้องๆ แนะนำ บอก “พี่ช่วยพาไปเที่ยวบึงฉวากหน่อย เค้าว่ามีอุโมงค์ปลาฉลามที่ใหญ่ที่สุดในโลก!” พี่แนะนำหน่อย เผื่อจะพาลูกๆ ไปเที่ยววันหยุดปิดเทอมนี้!
ไม่ทำให้แฟนคลับผิดหวังครับ ผมเตรียมรถ ฮอนด้า เวฟ 110 หัวฉีด ตัวประหยัด ของ ฮอนด้า ในสภาพที่พร้อมเดินทางไกล ออกมาเช็คลมยาง ใช้ลมยางหน้า 28 ปอนด์ และลมยางหลัง 30 ปอนด์ ระบบไฟสัญญาณต่างๆ พร้อม น้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 91 เต็มถัง คนพักผ่อนร่างกายพร้อมเดินทาง!
ผมใช้เส้นทางบางบัวทอง – สุพรรณ วิ่งดิ่งตรงยาวๆ ด้วย ฮอนด้า เวฟ 110 ไอไปยังเมืองสุพรรณ ผ่านไปยังศรีประจันต์ วิ่งตรงผ่านยาวๆ ไปเดิมบางนางบวช และเข้าสู่ยึงฉวาก ด้วยความเร็วเฉลี่ย 100 กม./ชม สบายๆ ในวันที่ถนนโล่งๆ
เที่ยววันธรรมดา คนไม่หนาตาเหมือนวันหยุด แต่ก็มีนักเรียน ตัวน้อย และนักเรียนมัธยม มากมายเข้ามาทัศนะศึกษา หาความรู้ที่นี่ ค่าบัตรผ่านประตู ผู้ใหญ่อย่างพวกผม 30 บาท เด็กน้อย 10 บาทเท่านั้น น่าพอใจในราคา!
เดินเที่ยวให้ทั่ว เตรียมตัวก่อน วางแผนเดินชม เพราะบึงฉวาก มีทั้งการแสดงสัตว์น้ำอย่างปลา จระเข้ พันธุ์พืช และ สัตว์ปีก สัตว์ป่า มีมากมาย หลากหลายโซน เริ่มต้นจากการดูพันธุ์ปลาต่างๆ ในห้องแอร์ กับปลาชื่อแปลกตา หน้าตาแปลกใจหลายสายพันธุ์ เพลิดเพลินใจจากสัตว์น้ำ คราวนี้ก็คิดจะข้ามไปชม ตู้ปลาจากโอกินาวา แต่ติตรงที่ราคา ค่าผ่านนั้นแพง น่าจะเปิดโอกาสให้คนไทยได้เข้าชมในราคาคนไทย!
ข้ามไปดูสัตว์ป่า มีทั้ง เสือ สิงโต ซึ่งที่บึงฉวาก นับว่าเป็นสวนสัตว์ ที่มีเสือและสิงห์โตมากที่สุดในประเทศไทย ถึง 300 กว่าตัว จนต้องควบคุมปริมาณไม่ให้มากไปกว่าที่เป็นอยู่ ตื่นตาตื่นใจ กับกรงนกใหญ่ สะใจแบบใกล้ชิดตัว มากมายหลากหลายสายพันธุ์ มีทั้งจอมสำอางค์ จอมเจ้าชู้ คุณชายจอมทระนง แต่ละตัวแต่ละพันธุ์มีความเป็นมาให้ได้ศึกษาอย่างใกล้ชิด
บ่อจระเข้ บ่อใหญ่ แต่ทำไม? ตัวเจ้าถึงได้ผ่ายผอมนัก มีจระเข้มากมาย สถานที่น่าสนใจ ร่มรื่น เป็นสัดส่วน ชวนเดินเที่ยว ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด มีจระเข้น้ำจืดมากมายในแบบสายพันธุ์ไทย น่าสนใจอีกมุมหนึ่งทีเดียว
เหนื่อยนักพักหาข้าวอร่อยๆ ได้ที่รินทาง ตลอดระยะในบึงฉวาก มีทั้งไก่ย่าง อาหารตามสั่ง และส้มตำ น้ำตก ราคาไม่แพงจนเกินไปสามารถฝากท้องไว้ได้ แต่ต้องทำใจเพราะอาจจะช้าไปสักนิด แต่จะกินของอร่อยๆ ต้องใจเย็นๆ
มีแรง ท้องอิ่ม แล้วก็เริ่มเดินหน้าชมกรงสัตว์ เล็กใหญ่ และบรรยากาศภายในบึงฉวากได้ต่อ เพราะยังมีสิ่งที่เร้าใจรออยู่มากมาย หลายจุด แต่ถ้าไปช่วงกลางวัน แนะนำให้ติดหมวก และแว่นกันแดดไปด้วยก็น่าจะดีไม่น้อย เพราะบางช่วงนั้นต้องเดินผ่านทางที่ไร้ร่มไม้ น้ำดื่มควรมีติดตัวไว้ในขณะที่เดินท่องเที่ยว
กว่าจะทัศนาในแต่ละมุม แต่ละวิถีชีวิตของบรรดาสัตว์ น้ำ สัตว์บก สัตว์ป่า นก และปลา จนหนำใจ ก็เข้าสู่ช่วงเย็นมากๆ ทำให้ต้องอำลาจาก บึงฉวาก มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองสุพรรณ เพื่อแวะทักทายดีเลอร์ เส้นสุพรรณ ก่อนที่จะพักกาย พักใจ และรถไว้ที่โรงแรมในเมืองค่ำคืนนี้!
ฉบับหน้า คงยังเป็นการเดินทางเพื่อท่องเที่ยว บนอานรถมอเตอร์ไซค์ ฮอนด้า ที่ทั้งประหยัด คุ้มค่า ปลอดภัยในทริปต่อไป จะเป็นที่แห่งใดนั้นคงต้องติดตามชมกันในคอลัมน์ “ท่องเที่ยว” เดือนเมษายน 57 นะครับ สำหรับฉบับนี้ “สวัสดีครับ”
…………………………………..
