อาทิตย์ ปิ่นแก้ว (ตาหนวดมีกล้อง) ตากล้องสายซิ่งผู้บันทึกเรื่องราวของเหล่าไบค์เกอร์ผ่านเลนส์บุญ!!!
หลายคนขี่รถมอเตอร์ไซค์ด้วยหลากเหตุผลที่แตกต่างกัน บางคนชอบด้วยความรัก บางคนก็ขี่ตามเพื่อน หรือบางคนก็ขี่เพราะมันจำเป็น แต่แขกรับเชิญประจำคอลัมน์ Biker Story ของเราในฉบับนี้เขาขี่รถมอเตอร์ไซค์เพราะความรัก แถมยังแบ่งปันความรักจากสิ่งที่ตนเองชื่นชอบไปสู่ผู้อื่นอีกด้วย เขาก็คือตากล้องสายซิ่ง อาทิตย์ ปิ่นแก้ว (ขุน) หรือที่หลายๆคนรู้จักกันในนาม “ตาหนวดมีกล้อง” นั่นเอง ถ้าพร้อมแล้วตามเราไปนั่งพูดคุยกับเขากันเลยดีกว่า…..
Q : แนะนำตัวเองหน่อยครับ ?
A : ชื่อเล่นชื่อ ขุน ครับ ชื่อจริง อาทิตย์ ปิ่นแก้ว ส่วนใครๆชอบเรียกผมว่า ตาหนวด หรือ ตาหนวดมีกล้อง ตอนนี้ทำธุรกิจร้านอาหารอยู่ที่อำเภอหัวหิน เป็นธุรกิจครอบครัวครับ
Q : “ตาหนวดมีกล้อง” ทำไมถึงเป็นชื่อนี้ ?
A : คือในกลุ่มเขาจะชอบเรียกผมว่า “อีหนวด” เพราะเราไว้หนวดไว้เครา แล้วเราเป็นคนชอบถ่ายภาพแต่ไม่ใช่ตากล้องมืออาชีพ ก็แค่คนที่มีกล้องถ่ายรูป เหมือนตาหนวดเนี่ยมีกล้องถ่ายรูปนะ ก็เลยผันเอาง่ายๆ ว่า “ตาหนวดมีกล้อง”
Q : ทำไมถึงได้เริ่มทำเพจเฟสบุ๊ค ตาหนวดมีกล้อง ขึ้นมา ?
A : ตอนแรกมันเริ่มจากการที่เราเป็นคนชอบถ่ายภาพ แล้วก็ชอบขี่รถมอเตอร์ไซค์ด้วย แล้วเวลาเราไปออกทริปขี่รถมอเตอร์ไซค์เราก็จะชอบถ่ายภาพในทริปนั้นๆเก็บไว้ แต่พอเราเริ่มมีภาพเยอะขึ้นก็มีเพื่อนมาบอกว่าให้เปิดเป็นเพจไปเลยหลายๆคนเขาจะได้เห็นด้วย อีกอย่างเวลาไปออกทริปกันคนอื่นจะได้เข้ามาเอารูปได้ง่ายๆ ก็เลยเป็นที่มาของเพจ “ตาหนวดมีกล้อง”
Q : เริ่มถ่ายภาพมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
A : ประมาณ 8-9 ปีที่แล้วครับ เป็นความชอบของเราเลยไม่มีใครสอนก็พยายามเรียนรู้ด้วยตัวเองมาเรื่อยๆ
Q : ขี่มอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยวมานานแล้วยัง ?
A : ขี่มาประมาณ 7 ปีกว่าๆแล้วครับ เริ่มขี่มาตั้งแต่สมัย Honda CBR250R รุ่นแรกเลย ขี่อยู่ได้ประมาณ 3-4 ปี ก็เปลี่ยนมาซื้อเป็น Honda CBR650F คันปัจจุบัน
Q : ทำไมถึงชอบขี่รถมอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยว ?
A : จริงๆมันก็ไม่ได้สบายนะ ฝนตกก็เปียกแถมร้อนด้วย แต่ความรู้สึกมันต่างกันมากกับรถยนต์ คือตอนนั้นผมทำงานอยู่กรุงเทพฯ แล้วบ้านผมอยู่หัวหิน ตอนนั้นที่บ้านมี Honda Wave ผมก็นึกพิเลนขี่จากหัวหินมาขึ้นมากรุงเทพฯ ตอนที่ขี่ขึ้นมาผมรู้สึกว่าเราอยากจะจอดอยากจะแวะตรงจุดไหนก็จอดได้เลย จะจอดถ่ายรูปตรงไหนก็ได้ มันแบบโอเคเลย พอหลังจากนั้นผมก็เริ่มขี่ออกนอกเส้นทางไปเรื่อย ไปทางที่ไม่เคยไป ไปในที่ที่ไม่รู้จัก ความรู้สึกมันต่างกับขี่รถยนต์มันไม่เหมือนกัน มันให้อะไรที่มากกว่าการนั่งอยู่ในรถยนต์ มันชอบอ่ะก็ชอบมาตั้งแต่วันนั้น
Q : “ตาหนวดมีกล้อง” ถ่ายภาพไม่รับเงินค่าจ้าง รับแต่เงินกล่องบริจาค ทำแบบนี้มานานแล้วยัง ?
A : จริงๆก็นานแล้วนะครับ เมื่อก่อนผมจะเดินกล่องตามงานแต่ง หรืองานบวชน้องๆในกลุ่ม ก็ทำมาตลอด แต่มาระยะหลังเราเริ่มออกทริป เราเลยนำรูปแบบของการเดินกล่องรับบริจาคมาใช้ด้วย ก็คือเราจะเสนอตัวไปถ่ายภาพให้กลุ่มต่างๆ เวลาเขามีออกทริปท่องเที่ยวกัน แต่เราไม่รับเงินค่าจ้างใดๆทั้งสิ้น ก็คือรับเงินบริจาคจากการเดินกล่องอย่างเดียวโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ซึ่งเงินส่วนนี้ก็จะถูกมอบให้โครงการที่ต้องการความช่วยเหลือทั้งหมด คือมันได้มากได้น้อยพวกเขาก็ได้ทำบุญร่วมกัน เราก็ได้ไปทำในสิ่งที่เราชอบก็คือถ่ายภาพกับขี่รถมอเตอร์ไซค์
Q : โครงการ โรงเรียน หรือสถานที่ต่างๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ เราเป็นคนหาเองทั้งหมด ?
A : ใช่ครับ ผมจะเริ่มมองหาโรงเรียนที่เขาขาดแคลนจริงๆ จากนั้นผมจะลงพื้นที่ไปสำรวจเส้นทาง ไปถ่ายภาพ แล้วก็สอบถามว่าทางโรงเรียนยังขาดแคลนอะไรอยู่บ้าง โดยขี่ไปคนเดียว แล้วก็จะกลับมาทำสื่อโฆษณาพวกใบปะหน้ากล่องว่าจะไปช่วยเหลือโรงเรียนอะไร ที่ไหน อย่างไรบ้าง
Q : ความคิดริเริ่มทำโครงการช่วยเหลือโรงเรียนที่ยากไร้เกิดขึ้นได้อย่างไร ?
A : คือจริงๆตอนแรกผมแค่ขี่มอเตอร์ไซค์กับถ่ายภาพ แล้วมันมีอยู้ทริปหนึ่งผมขี่รถไปเที่ยวกับพี่ 2 คน ไปแล้วก็กลับ พอกลับมาแล้วมันรู้สึกว่าเราได้เล่าแค่เรื่องไปทริปแค่นั้นแล้วมันจบเลย ผมอยากจะให้มันมีอะไรมากกว่าการไปขี่รถเที่ยว ซึ่งครั้งแรกเลยเริ่มจากไปบริจาครองเท้าบูท กับเสื้อกันฝน ให้น้องๆที่ขาดแคลนที่ โรงเรียน ตชด. ปิล็อก ตอนนั้นก็เริ่มง่ายๆเลยขอรับเงินบริจาคจากพี่ๆในกลุ่มที่ขี่รถด้วยกันในหัวหิน หลังจากนั้นก็ทำมาเรื่อยๆ จนปีนี้ก็เป็นโครงการที่ 6 แล้ว ตลอดระยะเวลา 5 ปี ก็ทำมาตลอดเลย
Q : ซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ถ่ายรูปเองเลย ไม่กลัวอันตรายเหรอ ?
A : มันก็กลัวนะครับช่วงแรกๆ แต่หลังๆเราก็ชิน คืออารมณ์คนขี่มอเตอร์ไซค์ผมรู้อารมณ์วันไหนอยากขี่ก็คืออยากขี่ ไม่อยากแตะกล้องเลย ก็เข้าใจคนเวลาไปออกทริปกับเพื่อน เขาก็อยากขี่อยากสนุกน้อยคนที่จะมาแบกภาระว่าต้องคอยถ่ายรูป เราก็เลยเหมือนรับอาสามาทำหน้าที่คอยเก็บภาพความประทับใจในการเดินทางไว้ให้
Q : ตอนซ้อนถ่ายภาพขี่เร็วไหม ?
A : ก็เร็วนะครับประมาณ 180 กม./ชม. มันแล้วแต่บางช่วงครับช่วงช้าก็มี ช่วงเร็วๆก็มี
Q : ถ้ากลุ่มคลับสนใจอยากให้ตาหนวดมีกล้องไปถ่ายภาพให้บ้างต้องทำยังไง ?
A : ก็ติดต่อกันเข้ามาได้ทางหน้าเพจ Facebook : ตาหนวดมีกล้องv2 ได้เลยครับ จังหวัดอะไรเราก็ไป ถือคอนเซ็ปต์เดินกล่องเหมือนเดิมครับ
Q : สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟนๆ นิตยสารมอเตอร์ไซค์ของเราหน่อย ?
A : ก็ฝากติดตามผลงานของ “ตาหนวดมีกล้อง” ได้ทางแฟนเพจ Facebook : ตาหนวดมีกล้องv2 กันด้วยนะครับ ส่วนกลุ่มไหนที่อยากจะให้ผมไปถ่ายรูปให้ก็สามารถติดต่อกันเข้ามาได้เลยทางหน้าแฟนเพจ เราจะได้ไปร่วมทำบุญเพื่อช่วยเหลือโรงเรียนหรือผู้ที่ยังขาดแคลนกันต่อไปครับ
ติดตามข่าวสาร นิตยสารมอเตอร์ไซค์ อัพเดทข่าวสารวงการมอเตอร์ไซค์ แลกเปลี่ยนความรู้ พูดคุย สำหรับคนที่รักสองล้อทุกประเภท
ได้ที่ FB www.facebook.com/MotorcycleMag
เว็บไซต์ www.motorcycmagazine.com
