“อยาก…ทำให้ต่างออกไปจาก “สีดำ” มั่งครับ !!!…เพราะจริงๆ BMW นั้นก็มีสีสันให้เลือกอยู่พอสมควร ทั้ง ขาว แดง ฟ้า เขียวมะกอก และสีบอรนซ์ (เงิน) แต่สำหรับรุ่น R69S นี่คือรถสปอร์ตไลน์ผลิตท็อปสุดของ BMW ผมก็คิดว่า “สีแดง” ดูจะเข้ากับความเป็นรถ “สเปเชียลสปอร์ต” มากที่สุด…แต่…ยังคงต้องเป็นแดงแบบ “ต้นฉบับ” ที่ตามพาร์ทคือ Granaga Red (แกรนาดา เรด) กับเดินเส้นพูกันขาว มันดูเข้ากันดี ซึ่งผมก็ไม่ลืมใส่ “ของแต่ง” เข้าไปบ้าง เพื่อให้มีลูกเล่นเพิ่มมากขึ้น” เรก หกแรง ให้นิยมรถ “สเปร์-67” คันนี้พอได้เห็นสรรคุณ ก่อนที่ผมจะขยับเก็บลายละเอียดของแต่งนานา ที่จัดแต่งองค์ในจังหวะที่พอเหมาะ ไม่เลี่ยน นี่ถือเป็นความ “กล้าหาญ” บทหนึ่ง ที่คอ “มนตร์ดำ” จะกล้ารังสรรค์ ท่ามกลางกระแสรถสูบนอนที่ถูกฝังปมว่า…บีเอ็มฯ ต้อง “ดำ” สถานเดียว…!?!?!
BODY/FRAME
R69S คือรถเจเนเรชั่นสุดท้ายของ BMW ที่ยังคงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นทางด้านงานออกแบบ และพรั่งพร้อมด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์ชั้นยอด จนถูกขนานนามว่าเป็นรถจักรยานยนต์ชั้นเลิศที่สุดเท่าที่จะหาได้ในยุคนั้น โครงสร้างเฟรมเปลคู่ท่อกลม ผนวกระบบรับแรงกระแทกด้วยสวิงอาร์มอันเลื่องชื่อ (Earles / leading-link type) ทำให้ผู้ใช้ทั่วทุกมุมโลกต่างหลงไหล “มนตร์ดำ” ศาสตร์นี้กันชนิดถอนตัวไม่ขึ้น…นับตั้งแต่ R32 คันแรกถูกสร้างสรรค์ขึ้นในปี 1923 เฟรมท่อกลม หน้าแหนบ ถังใต้เฟรม คือความลงตัวที่ถูกถ่ายทอดจากมันสมองของ Max Priz วิศวกรการบินผู้โด่งดัง…1929 มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเฟรมครั้งใหญ่ด้วย เฟรมปั๊มขึ้นรูป หน้าแหนบ ถังในเฟรม โปรดักส์โมเดลแรกรู้จักทันทีกันในนามของ R11…1935 R12 กับโครงสร้าง เฟรมปั๊ม หน้ากระบอก ถังในเฟรม ถูกผลิตออกมา ตามด้วย…1936 เฟรมท่อกลม หน้ากระบอก ถังบนเฟรม กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งในนามของ R5 ก่อนที่ปี…1938 R51 เฟรมกลม หน้ากระบอก หลังสไลด์ เกิดขึ้นตามมาเป็นเจเนเรชั่นที่ 5 ก่อนปิดท้ายด้วยความเป็นสุดยอดบนบอดี้ของ R50 ในชื่อสามัญว่า“โช้คสวิงอาร์ม” ตั้งแต่ปี 1955 และยังคงใช้กระทั่งวาระสุดท้ายของยุครุ่งโรจน์ในปี 1969 ทว่า ภายในไลน์การผลิตที่ดูเหมือนว่าจะปรกติกลับมีสิ่งที่แตกต่าง “คู่” โมเดลที่เพิ่มพิษสงด้วยการอัพเกรดเครื่องยนต์ในส่วนของกำลังอัดที่เพิ่มมากขึ้น มันเป็น “รถซิ่ง” สมรรถนะสูงที่เรียกร้องความสนใจได้ในทันที ความพิเศษดังกล่าวโรงงานมั่นอกมั่นใจจนต้องยัดเยียดรหัส “S” (Special) ให้ทั้ง R50S/ R69S แถมส่งท้ายความพิเศษนั้นด้วย “โช้คคอ” ติดตัวมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานออกห้าง
ENGINE
เครื่องยนต์บ๊อกเซอร์ Flat-Twin (1923-1969) ระบายความร้อนด้วยอากาศถูกผลิตขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1923 จากความคิดที่ว่า เครื่องยนต์ “สูบนอน” สามารถระบายความร้อนได้ดีกว่า เพราะเสื้อสูบจะปะทะกับอากาศได้โดยตรง ซึ่งความคิดดังกล่าวถือเป็นประเพณีที่ถูกสืบทอดยาวนานมากระทั่งปัจจุบัน ภายใต้รหัสเครื่องยนต์ที่สะอาดตาว่า “บล็อก R” ซึ่งผลิตออกจำหน่ายทั้ง ระบบไซด์วาล์ว (SV)และ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ที่มีปริมาตรกระบอกสูบตั้งแต่ 494 / 594 / 745 ซี.ซี.…R69Sถูกผลิตภายใต้พื้นฐานของเครื่องยนต์โมเดล R69ที่เปิดตัวในปี 1955-1960 ที่ยังคงขนาดของกระบอกสูบ / ช่วงชักที่ 72/ 73 มม. แต่วิศกรกลับพัฒนาในเรื่องของ “กำลังอัด” ที่เพิ่มขึ้นจาก 7.5:1 เป็น 9.5:1 ซึ่งผลที่ตามมาคือได้ “แรงม้า” เพิ่มขึ้นจาก 35 แรงม้าที่ 6,800 รอบ/นาที เป็น 42 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที อีกทั้งระบบชุดไฟก็ได้รับการปรับเปลี่ยนจาก Noris L60/6/1500 L มาเป็น Bosch LJ/ CGE 60/6/1700R เหตุผลทางแมคคานิคดังกล่าวช่วยจึงให้เครื่องยนต์เครื่อง 6 แรงรหัส “S” นั้นได้ความแรงที่จัดจ้านและไหลลื่นมากกว่า ซึ่งโรงงานเคลมมันด้วยย่านความเร็วสูงสุดถึง 175 กม./ชม….ยุคนั้นมันไร้คู่ต่อกร!!! ทว่า ในทางกลับกันอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่อ 100 กม. R69Sก็ดูจะเป็นรองR69 ที่ส่วนต่าง 5.3 ลิตร/ 3.6 ลิตร…อย่างไรก็ตาม!!! มันยังคงตกย้ำถ้อยวลีประโยคที่ว่า…อย่างมาคาดหวังในเรื่องความ “ประหยัด” จากรถแรง…ง…!!!
TRANSMISSION
ระบบขับเคลื่อนด้วย “เพลา” อันเป็นเอกลักษณ์นั้น BMW ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงใดๆ ข้อดีในเรื่องการดูแลรักษาที่ไม่ต้องมีการปรับตั้ง และไร้เสียงรบกวนที่ชวนหัวเสียจึงเป็นข้อได้เปรียบ กระนั้นก็ยังต้องหมั่นดูแลน้ำมันเฟืองท้ายอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน หากไม่พิศมัยการ “ยกยวง” หรือหากจะมีการปรับเปลี่ยนทดเฟืองท้ายก็สามารถทำได้ให้เหมาะสมตามรูปแบบการใช้งาน ซึ่งการพัฒนาข้างต้น R69Sนั้นปรับทดเฟือง หน้า/ หลัง จากเดิม 11/35 (R69) ฟันเป็น 8/27 หรือ 8/25 และปรับอัตราทดเกียร์จากเดิม 5.33/ 3.02/ 2.04/ 1.54 (R69) เป็น 4.17/ 2.73/ 1.94/ 1.54 …เกียร์ต้น R69S จึงได้เปรียบที่ออกตัวได้จัดจ้านกว่า ส่วนเกียร์ 4 ถึงจะไหลในอัตราทดที่เท่ากัน กระนั้น หากมองที่เกียร์ช่วงต้นแค่ 1/ 2/ 3…สเปร์ (S)…ก็แซงหน้าไปไกลโขแล้ว…!?!?!
1967 BMW R69S
รถ/ รุ่น 1967 BMW R69S
ปีผลิต 1960-1969
จำนวนผลิต 4,030 คัน
เจ้าของ เรก หกแพง (BMW STATION )
เครื่องยนต์ 2 สูบนอน 4 จังหวะ 594 ซี.ซี. 42 แรงม้าที่ 7,000 รอบ/นาที
กระบอกสูบ/ ช่วงชัก 72/ 73มม.
กำลังอัด 9.5 : 1
ระบบไฟ Bosch LJ/ CGE 60/6/1700R
คาร์บูเรเตอร์ 2 X BING 1/26/75, 1/26/76, 1/26/91-92
ระบบเกียร์ 4 เกียร์ (เท้า)
ระบบคลัตช์ แห้ง (แผ่นเดียว)
ระบบขับเคลื่อน เพลา 8/27, 8/25 ฟัน (Side car 6/26)
ระบบโช้คอัพ (หน้า/หลัง) สวิงอาร์มโช้คน้ำมันไฮดรอลิก
ระบบเบรก (หน้า/หลัง) ดรัมเบรกดุมเต็มขนาด 200 มม.
(บนล้อหน้า 3.50/ 18-หลัง 4.00/ 18 นิ้ว)
น้ำหนักรวม 202 กก.
มิติ (ก/ ย/ ส) 722/ 2,125/ 980 มม.
ฐานล้อ 1,415 มม.
ความเร็วสูงสุด 175 ไมล์/ ชม.
อ้างอิง : THE ENCYCLOPEDIA OF THE MOTORCYCLE / Hugo Willson
: ON 2 WHEEL / Roland Brown
: BMW PROFILE 1923-1969/ BMW MANUFACTURING MUNICH
เรียบเรียงข้อมูลโดย นิตยสาร มอเตอร์ไซค์ : motorcycmagazine.grandprix.co.thmag
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th
