1972 Harley-Davidson FL “Electra Glide”
1972 Harley-Davidson FL “Electra Glide”
“คิง ออฟ ไฮเวย์” กับวันวานที่…อยากลืม!!!
“ไกด์ เอเอ็มเอฟ” แบบการผลิตที่ยังคงดำเนินงานต่อ เพราะเปิดมาในไลน์รถเดินทางไกล หรู หรา อลังการ และคงความเป็นเอกลักษณ์และสตอรี่แน่น ลูกผู้ตัวจริงก็ต้อง ฮาร์เล่ย์ฯ เท่านั้น
“ไกด์ เอเอ็มเอฟ” รถไลน์ผลิตที่ครั้งหนึ่ง Harley-Davidson นั้นอยาก “ลบ” มันออกจาก ความทรงจำ ทว่า ในทางกลับกัน ทีมงานกลับดันมันจนเป็น…บทเรียน!!! เมื่อ “เจ็บ” แล้ว “จำ” พร้อมทำมันให้ “เจนจัด” ผลลัพธ์ที่ตามมานั่นคือ “ความสำเร็จ” ที่ใหญ่โด เกินกว่าที่ใครจะคาดคิด…การณ์นี้…เรากลับไปซ้ำ ย้ำปม กับ “ไกด์ เอเอ็มเอฟ” รถเที่ยวระดับหรู ที่หนหนึ่งคือ…ราชัญแห่งท้องถนน…ตัวจริง…!?!?!
ตัดตอน…ไปถึงแบบการผลิตสำหรับรุ่น FL/FLH ของ Harley-Davidson ในชื่อรุ่นสามัญที่ว่า Electra Glide (อิเลคตรา ไกด์) ที่มีอายุไขอยู่ในช่วงปี 1966-1984…1965 “พิมพ์เขียว” ที่สะเด็ดน้ำ ถูกพัฒนาขึ้นจากรุ่นเครื่องยนต์ Panhead ที่เดินทางถึงจุดสุดยอดแล้ว เครื่องยนต์รูปลักษณ์ใหม่กับฝาวาล์วที่เป็นเอกลักษณ์ มันถูกให้นิคเนมว่า Shovelhead (โชเวลเฮด/ หัวพลั่ว) ในฉับพลัน โดยทำการผลิตออกมาให้เลือก 2 บล็อกเครื่องนต์คือ FL (74 ci./ 1,200 ซี.ซี.) และ FLH (80 ci/ 1,340 ซี.ซี.)
ชุดหน้า “ไฮดรอลิค” ที่นุ่มหนึบ สำหรับรถรุ่นใหญ่ กระโหลกไฟในกรอบขึ้นรูปยึดที่แผงคอ เอกลักษณ์รถทัวร์ ในนามของ Electra Glide
เครื่องยนต์ “เสื้อเหล็ก” หรือ Shovel Head “หัวพลั่ว” นิคเนมที่เกิดจากรูปทรงของวาล์วที่ได้รับการปรับเปลี่ยน โล่งขึ้นเพราะปรับเปลี่ยบนซ่อนชุดไฟ และระบบจุดระเบิด บล็อกนี้ผลิตออกมา 2 บล็อกคือ คือ FL (74 ci./ 1,200 ซี.ซี.) และ FLH (80 ci/ 1,340 ซี.ซี.) มีคิ๊ก สตาร์ท และ สตาร์ทไฟฟ้า
ชื่อของ Electra Glide (อิเลคตรา ไกด์) คือความมุ่งมั่นที่จะสร้างรถเดินทางระยะไกล ที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย มันมีสตาร์ทไฟฟ้า และโมเดลของปี 1969 ออปชั่นรถ “หน้ากาก” ที่สร้างจากวัสดุไฟเบอร์กลาสน้ำหนักเบาถูกติดตั้งเข้าไว้ที่แฮนเดิ้ลบาร์ พร้อมกับกระเป๋าสัมภาระที่ด้านท้ายถึง 3 ใบ (ข้าง 2 ใบและใบบน) พร้อมกับฉายาใหม่ในนามของ “King of the Highway” และนี่คือความภาคภูมิใจของ Harley-Davidson ก่อนที่ภาวะการเงินของบริษัทเริ่มที่จะ…ตืบตัน!!!
ไฟหน้า ไฟเลี้ยว พร้อมชุดแต่งไฟ Passing Lamp จะเลนส์ขาว เลนส์เหลือง หรือ น้ำเงิน-แดง แบบ POLICE-Version ก็เลือกสรรค์ให้อลังการได้ตามรสนิยม
1970 American Machine and Foundry (AMF) กลุ่มธุรกิจผลิตเครื่องยนต์และโรงหล่อ เข้ามาถือครองกิจการของฮาร์เล่ย์ฯ แบบการผลิตในรถรุ่นต่างๆ ได้รับการแก้ไข นั่นรวมถึง Electra Glide ด้วย ระบบจุดระเบิดถูกย้ายตำแหน่งมาไว้ที่ด้านในของฝาครอบชุดแคมชาร์ฟ และย้ายชุดไฟปั่นเลี้ยงเครื่องยนต์ (Alternator) มาไว้ในส่วนของไฟมารี่ขับชุดหน้า ซึ่งช่วยให้เครื่องยนต์นั้นดูโล่งขึ้น การบำรุงรักษาทำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะงานเซอร์วิสท่อไอเสียที่เคยเป็นปัญหาจนปวดเฮด…ดิสก์เบรก ได้รับการติดตั้งใน Electra Glide ในรุ่นปี 1972 ซึ่งยังคงพัฒนาในส่วนของงานขัดเกลาช่องพอร์ทต่างๆ ของเครื่องยนต์ด้วย ไม่น่าเชื่อในปี 1976 FLH สามารถแตะความเร็วควอเตอร์ไมล์ได้ที่ 15.42 วินาที ด้วยหนักตัวที่ 738 ปอนด์ (340 กก.) ถือว่าเป็นสถิติที่ถูกทุบในรอบ 200 ปีเลยทีเดียว
1972 ปีแรกที่พัฒนามาใช้ระบบเบรกหน้า/ หลัง แบบดิวก์เบรก เพราะเครื่องยนต์มีกำลัง แรงอัดที่เพิ่มมากขึ้น
1978 Electra Glide ออกรถรุ่นคลาสสิคที่ได้รับการยอมรับว่าสวยสุดๆ FLH คันนี้ถูกชงขึ้นในวาระพิเศษครบรอบปีที่ 75 ที่ก่อตั้งบริษัท (75th. Anniversary) เครื่องยนต์ FLH (80 ci/ 1,340 ซี.ซี.) 65 แรงม้า มาพร้อมยาง Tubeless (ไม่มียางใน) เบาะใหญ่แบบ 2 ตอน ที่รองรับด้วยสปริง รวมถึงชิ้นส่วนชั้นเยี่ยม ที่มีเครื่องหมายของวาระพิเศษๆ นี้…จาก FL/ FLH ถึง FLT และ FLHT Tour Glide พัฒนาขึ้นอีกครั้งในปี 1980 โครงสร้างเฟรมตัวใหม่ พร้อมจุดยึดเครื่องยนต์แบบ 3 จุด ช่วยให้เครื่องยนต์ V-Twin กำลังอัดสูงนี้ลดอาการสั่นสะเทือนลงได้มาก งานนี้แม่บ้านได้เฮ ซ้อนไปไหนไกลๆ ก็นุ่มก้น
ท่อไอเสียแบบคู่ ปลายพิซเทล (หางปลา) แบบพิมพ์ที่นิยมในไกด์ และเส้นทางเดินของท่อไอเสียที่มักเป็น 2 ออก 2 ที่ได้เสียงที่ทุ่ม นุ่มหู เช็คลูก “เดินเบา” กันเสนาะโสต
โช้คคู่ บนสวิงอาร์ม ในปลอกโครม นุ่ม หนึบ ถึง ไม่มาก แต่ก็พอรับไหม จะเดี่ยว จะคู่ ไม้ย้วยจนเสียอาการ
FLT มีการปรับแก้สำหรับจุดยึดของแฟร์ริ่ง ด้วยโครงสร้างแบบอิสระที่แยกออกจากแฮนด์ ชุดยึดโช้คหลังถูกขยับถอยมาด้านท้าย ฟิลล์ลิ่งนี้ช่วยให้การทำงานในรอบเครื่องยนต์เบานั้นนุ่มนวลขึ้น แถมยังได้ปรับเปลี่ยนชุดเกียร์จาก 4 มาเป็น 5 สปีด และปรับใช้ “สายพาน” ขับเคลื่อนล้อหลังแทนโซ่ในโมเดลของปี 1983…อย่างไรก็ตาม “สุดท้าย” AMF ก็ยอมปล่อยมือหลัง
มุมมองระดับเดอร์ลุค มันขลัง และดูมีพลัง ถังคู่ 2 ฝา ไมล์บนถึง บาร์กว้าง นี่แหละ “ราชาแห่งท้องถนน” ตัวจริง เสียงจริง
ไฟเลี้ยว “ก้านยาว” แบบพิมพ์ของไกด์ AMF เสื้อเหล็ก เลนส์ขนาดใหญ่ แจ่มตาทุกมุมมอง
บรรลุข้อสัญญา ขายธุรกิจของ Harley-Davidson กลับคืนให้กับโรงงานเล็กๆ แห่งหนึ่ง ที่หนึ่งในผู้ก่อตั้งคือครอบครัวของตระกูล Davidson หลังจากนั้นไม่นาน แบรนด์ของ Harley-Davidson ก็กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งตั้งแต่ปี 1984 โดยรถจักรยานยนต์รุ่น Tour Glide โดดเด่นที่ภาพลักษณ์ที่ดูโมเดิร์นขึ้น และแน่นอนว่าเป็นเครื่องยนต์รุ่นใหม่แบบ V2 ที่มีชื่อเรียกว่า…Evolution…!?!?!
เบาะโซโลซีท สปริงซัพ วิ่งขึ้น/ ลง ในแกนกลางเฟรม มีออปชั่นเบาะยาว ให้เลือกใช้สอยได้
ฟูทบอร์ดทรงเหลี่ยม พร้อมยางกันลืน วางเต็มเท้า ตำแหน่ง องศา ที่ช่วยปรับท่านั่งให้สง่างาม สุขุม และ น่าเกรงขาม
สวิชท์ควบคุมซ้าย/ ขวา ในประกับแบบเหลี่ยม เรียบ หรู ใช้งานได้เวิร์ค
AMF/ Harley-Davidson ข้อบ่งชี้รถไลน์ผลิตที่ไม่ปรกติ เพราะเกิดในช่วงที่ฮาร์เล่ย์ฯ ย่ำแย่ และต้องกิจการให้กลับกลุ่มธุรกิจอื่นไปทำตลาดต่อ ก่อนกู้สถานะการณ์ได้คืนในปี 1983
1972 Harley-Davidson FL Electra Glide
รถ/รุ่น Harley-Davidson/ FL Electra Glide
ปีผลิต 1972
เจ้าของ SMITHS VINTAGE CLUB
เครื่องยนต์ 2 สูบ V-TWIN 4 จังหวะ 1,198 ซี.ซี. 60 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที
กระบอกสูบ/ช่วงชัก 87.1/100.6 มม.
กำลังอัด 8.0 : 1
ระบบไฟ ฟีลคอยส์
จ่ายเชื้อเพลิง คาร์บูเรเตอร์
ระบบเกียร์ 4 เกียร์ (เท้า)
ระบบคลัตช์ เปียก (หลายเดียว)
ระบบขับเคลื่อน โซ่
ระบบโช้คอัพ (หน้า/หลัง) ไฮดรอลิค/สวิงอาร์มโช้คน้ำมันไฮดรอลิก
ระบบเบรก (หน้า/หลัง) ดีสเบรก
น้ำหนักรวม 340 กก.
ความเร็วสูงสุด 164 กม./ชม.
อ้างอิง : THE ENCYCLOPEDIA OF THE MOTORCYCLE / Hugo Willson
: ON 2 WHEEL / Roland Brown
: https://www.bikez.com/motorcycles/harley-davidson_fl_1200_electra_glide
Story : nuiAJS/ Photo : Kwang GPI. Photo Dep.