เปิดตัว 2024 BMW R1300GS ที่หลายคนทั่งโลกตั้งตารอคอยกันมากที่สุด ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของซีรีส์ GS อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
หัวใจสำคัญของ 2024 BMW R1300GS คือ เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2 สูบระดับตำนาน ซึ่งปัจจุบันมีขนาดกะทัดรัดและทรงพลังกว่าที่เคย ด้วยปริมาตรกระบอกสูบ 1,300 ซีซี ทำให้มันกลายเป็นสองล้อแอดเวนเจอร์ที่น่าเกรงขามด้วยพละกำลัง 145 แรงม้า ที่ 7,750 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 149 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบต่อนาที ถือเป็นขุมพลังบ็อกเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา พร้อมนวัตกรรมใหม่ด้วยการจัดเรียงตัวขับเคลื่อนเพลาลูกเบี้ยวแบบใหม่ ซึ่งช่วยลดน้ำหนักได้ถึง 12 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
แชสซี ได้รับการเปลี่ยนแปลงใหม่ เฟรมหลักที่สร้างจากเหล็กมีความแข็งแกร่งที่เหนือกว่า ในขณะที่เฟรมด้านหลังเปลี่ยนไปเป็นโครงสร้างอลูมิเนียมหล่อน้ำหนักเบา เพื่อเสริมการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ EVO Telelever อันเป็นเอกลักษณ์ได้รับการพัฒนาขึ้นจากเดิม และระบบกันสะเทือนล้อหลัง EVO Paralever ที่ปรับปรุงใหม่ ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการบังคับเลี้ยว และความเสถียรในการขับขี่
ช่วงล่างยังมาในแบบไดนามิกอิเล็กทรอนิกส์ (DSA) สามารถปรับอัตราการหน่วงและสปริงแบบไดนามิก มอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมในทุกภูมิประเทศ ระบบยังสามารถชดเชยน้ำหนักบรรทุกที่แตกต่างกัน มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจไม่ว่าจะเดินทางคนเดียว พร้อมผู้โดยสาร หรือบรรทุกสัมภาระหนัก
มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้นำเสนอโหมดการขี่มาตรฐาน 4 โหมด รวมถึงโหมด “Enduro” ใหม่ ที่ได้รับการปรับแต่งสำหรับการผจญภัยแบบออฟโรด ไม่ว่าจะเดินทางบนถนนเปียก หรือต้องการประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงสูงสุด ก็ปรับให้เข้ากับความต้องการของผู้ขับขี่ได้อย่างง่ายดาย
เพื่อให้สอดคล้องกับการอัพเดทด้านความปลอดภัยของ จึงมาพร้อมกับไฟหน้า Matrix LED เป็นมาตรฐานที่ล้ำสมัย มีการออกแบบที่โดดเด่น ช่วยให้ความสว่างบนท้องถนนให้มีความชัดเจนที่ไม่มีใครเทียบได้ ไฟเลี้ยวแบบ LED ภายในโคม แฮนด์การ์ด และระบบ “Headlight Pro” ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมที่ปรับลำแสงในระหว่างการเลี้ยว เพิ่มทัศนวิสัยให้ดียิ่งขึ้น
คุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ได้รับการปรับปรุงด้วย Riding Assistant ซึ่งเป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ครอบคลุม ประกอบด้วย ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบแปรผัน (ACC), ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW), และระบบแจ้งเตือนเมื่อเปลี่ยนเลน (LCW)
โดยในระบบ ACC ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถกำหนดความเร็วและระยะห่าวจากรถคันหน้าตามความต้องการได้ ในขณะที่ FCW กับระบบเบรก และ LCW ช่วยเพิ่มความสามารถในการหลีกเลี่ยงการชนและความปลอดภัยในการเปลี่ยนเลน
สำหรับ BMW R 1300 GS ดมเดลปี 2024 มาใน 3 รุ่นย่อยด้วย Triple Black, GS Trophy และ Option 719 Tramuntana ที่มีการตกแต่งแตกต่างกันให้เลือกสรร
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย : Motorcycle Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Motorcycle Magazine
