1967 DUCATI 350 Sebring
1967 DUCATI 350 Sebring
จากสนาม…สู่…ถนน แผนเด็ด “แจ้งเกิด”
เพราะแจ้งเกิดมาจาก “รถสนาม” ความสปอร์ตก็ยังคงเป็นตราติดตัวมา แม้ใครจะบอกว่า 350 Sebring เป็นรถ “ขี่เที่ยว” เพราะใส่แฮนด์ยกมา คิดแบบนั้นก็ได้ ไม่แปลก รถเที่ยวซิ่งๆ เยอะแยะไป เพราะยังไง Ducati มันสปอร์ตมาตั้งแต่ในหัวของ T อยู่แล้ว
“สปอร์ต” มาตั้งแต่…เกิด!!! นี่คือปรัชญาในการสร้างสรรค์โปรดักต์ของ Ducati ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์จากฝั่งยุโรป ไลน์การผลิต “รถเครื่อง” ตั้งแต่เริ่มต้น จะเข้มไปด้วยแนวคิดสุดล้ำของระบบกลไกต่างๆ เรียกว่า “ดีที่สุด” ของยุคก็ว่าได้ เพราะใส่ใจในรายละเอียด เลยกลายเป็น “ลายเซ็น” แถมยัง “ปักหมุด” เด่นชัดจากรายการแข่งขันสำทับ การณ์นี้จัดมาในไลน์ “บล็อกใหญ่สุด” ของ ปี 1965 กับภารกิจต้นในแบบที่ถนัด ก่อนจับมาเป็น “รถขาย” ที่สร้างยอดขายไปพอได้…กล่าวถึง!!!
เครื่องยนต์เฟืองบิด (Bevel Shaft) ใหญ่สุดของโรงงาน (ซิงเกิล) ขนาด 340 ซี.ซี. 38 แรงม้า ที่ 7,800 รอบ/นาที ขุมพลังจากสนาม บนรถเฟรมแบบมีเสากลาง อานิสงส์รุ่น 250 โรงงาน
เพลทตัวถังบอกว่าเป็นรุ่น 350S (Sebring) ชื่อนี้ได้จากการแข่งขันรายการ Sebring Race ที่ นี่คือสูติบัตรทำคลอดที่โรงงานใส่ให้ไว้
โครงการผลิตรถจักรยานยนต์เริ่มเป็นรูปเป็นร่างจริงๆ ในปี 1954 หลังจากที่ Fabio Taglioni หรือ Dr.T เข้ามารับหน้าเสื่อในเรื่องงานออกแบบ ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 30 ปี Taglioni นำเสนอเครื่องยนต์แบบซิงเกิลน้ำหนักเบาบล็อกแรกของเขาขนาด 98 ซี.ซี….ซึ่ง…ต่อมาได้พัฒนามันจนเป็นที่ยอมรับในหลายรายการแข่งขัน ภายใต้รหัสเครื่องยนต์รถแข่งว่า 100 Grand Sport…ด้วยเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็ก เบา ทว่า สามารถสร้างสรรค์พละกำลังได้เกินตัว Taglioni ตั้งใจใช้ “สนามแข่งขัน” เป็นใบเบิกทางในรถที่เขาออกแบบ “เครื่องยนต์สูบเดี่ยวแคมชาฟท์ที่ขับตรงผ่านชุดเฟืองบิด” (Bevel Shaft) ได้รับการขานรับและเสมือนแบรนด์การค้าของ Ducati ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
มิติในแบบ “รถเที่ยว” ที่เต็มไปด้วยความสปอร์ตแบบรถสนาม บาร์ยก องศาสุดบรรยาย แฟนคลับดูคาติ เห็นแล้วยิ่งพิสมัย สวย เข้ากับรถเท่ๆ ของรุ่น “ฝาเดียว”
เพราะเครื่องยนต์ขยับไซซ์กระบอกสูบขึ้นมา แรงอัดในเครื่องยนต์สูงมาก สตาร์ตที “หนักมาก” ต้องเพิ่มตัวยกวาล์วไล่แรงอัดออกจากฝาสูบ กลไกพิเศษที่ติดตั้งให้มา เราจะเห็นจากก้านยกวาล์วใต้นิ้วคลัตช์ฝั่งขวา
Taglioni ไม่หยุดที่จะพัฒนาในเครื่องยนต์ของเขา 1958 เครื่องยนต์รถแข่งคันต้นแบบที่ติดตั้งวาล์วชุดใหม่ที่เรียกว่า “เดสโม” ได้รับการปรับใช้ รถแข่งขนาด 125 ซี.ซี. คือราชัญ Giro d’Italia รายการแข่งขันชื่อดังของบ้านเกิด…และ…เหมือนธรรมเนียมปฏิบัติ…เมื่อเวิร์คในรถแข่ง…ก็ถึงคิว…เอามาใช้…กับรถขาย!!!
ถังน้ำมันรุ่น “ฝาเดียว” รูปทรงสปอร์ต ฟอร์แมตโรงงาน เว้าหลบเข่า ธรรมเนียมรถสนามที่ได้รับการถ่ายทอดในรถถนนในทุกโมเดลของ Ducati การให้สีสันตรงปก คือความละเอียดของเจ้าของที่บูรณะ
หน้าหลัง-ดุมเต็ม กับงานเขียนคิ้วทาปาก ใส่ล้อมิเนียมยกขอบเงาจัดๆ ในแบบรถซิ่งสายแรง โช้คหลัง Mazochi บนสวิงอาร์มปรับตั้งได้ 3 ระดับ
เครื่องยนต์ “เฟืองบิด” คือ “ลายเซ็น” ของดูคาติ เทคโนโลยีดีๆ ที่เก็บเกี่ยวจากสนาม…ถูก…ใส่ใน “รถถนน” หวังขยายมันในเชิงพาณิชย์ที่ต่อยอดสู่ปี 1965 รถเครื่องยนต์เจเนอเรชันใหม่ถูกส่งเข้าตลาดภายใต้ชื่อ “350 Sebring” ซึ่งถือเป็นเครื่องยนต์สูบเดี่ยวบล็อกใหม่ขนาด “ใหญ่ที่สุด” เท่าที่ Ducati เคยสร้างมา และทีมงานก็ไม่รีรอ จัดการปรับแต่งมันลงสนามแบบที่ถนัด ทว่า ก็ไม่ได้โชคดีในครั้งแรก กระทั่งได้นักแข่งฝีมือดีนาม Franco Farne ที่อาสาคร่อมเจ้า 350 Sebring ลงสนามรายการ Sebring Race ในสหรัฐอเมริกา ที่มีรถแข่งขันตั้งแต่ 251-700 ซี.ซี. ลงทำการชิงชัย ซึ่ง Farne นั้น เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 11 (Over all) อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จครั้งนี้ “ขายได้” ชื่อของ Sebring ได้รับการการันตีในรถถนนด้วย โดยวางเครื่องยนต์ขนาด 340 ซี.ซี. แบบ 5 เกียร์ในรถเฟรมเสากลางจากรุ่น 250 ซี.ซี. ที่ผลิตออกก่อนหน้า 350 Sebring ปรับภาพลักษณ์เล็กน้อยด้วยกะโหลกไฟหน้าขนาดใหญ่ 150 มม. ถังน้ำมันบีบให้เล็กเน้นความสปอร์ต กับฝากระเป๋าเครื่องมือ (แบ่งช่องกรองอากาศ) ใหญ่ พร้อมชุดขับเคลื่อนด้วยเกียร์เดินหน้าแบบ 5 เกียร์ ที่ปรับอัดตราทดเกียร์ใหม่ ที่ให้อรรถรสไหลลื่นและมีรอยต่อเกียร์ที่ยาวขึ้นเป็นข้อเปรียบต่าง…ที่…ช่วยให้ “ตลาด” จดจำเป็นซิกเนเจอร์สำหรับ…350 Sebring!?!?!
ท่อกระบองไร้ไส้ท่อ โฟลว์ๆ ฟอร์แมตนี้ไล่ไอเสียดี ทว่า เสียงกระหึ่ม นุ่มหู คุ้นโสต แถมเครื่องหมายการค้าสำนักท่อ Silemtium ชัดโสต!!!