สวิตเซอร์แลนด์ กำลังพิจารณาเปลี่ยนแปลงค่าปรับขับเร็วและแบนมอเตอร์สปอร์ต
แม้ว่าประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีถนนที่มีทิวทัศน์สวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวสองล้อและสี่ล้อต่างเข้ามาเที่ยวเก็บบรรยากาศอยู่เป็นประจำ แต่เชื่อหรือไม่ว่าประเทศนี้ขึ้นชื่อเรื่องการปราบปรามมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ที่ขับเร็วบนถนนสาธารณะอันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้
ย้อนกลับไปในปี 2010 มีคนขับรถถูกปรับเงิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (เกือบ 30 ล้านบาท) หลังจากถูกจับได้ว่าขับด้วยความเร็ว 290 กม./ชม. ซึ่งเกินจากความเร็วที่กำหนดไว้ที่ 170 กม./ชม.
ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ค่าปรับที่ขับเร็วเกินกำหนดจะคำนวณจากความร้ายแรงในการกระทำความผิดและฐานะของผู้กระทำความผิด เมื่อพิจารณาจากคนขับที่กระทำความผิดกับรถคู่ใจอย่าง Mercedes SLS AMG ค่าปรับ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือว่าสมเหตุสมผล
ในตอนนี้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กำลังพิจารณาเปลี่ยนแปลงค่าปรับในปัจจุบันสำหรับรถที่ใช้ความเร็วเกินกฏหมายกำหนด ซึ่งหากการเปลี่ยนแปลงนี้มีผลบังคับใช้ อาจส่งผลกระทบต่อผู้ขับขี่ทั่วยุโรป
นอกจากนี้ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์กำลังพิจารณาห้ามมีการจัดมอเตอร์สปอร์ตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1955 นับตั้งแต่การเกิดอุบัติเหตุที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในการแข่งขัน 24 Hours of Le Mans
ในเหตุการณ์ครั้งนั้น Pierre Leveh นักแข่งรถชาวฝรั่งเศส สังกัดทีมแข่งของ Mercedes ได้เกิดอุบัติเหตุระหว่างการแข่งขันอย่างไม่คาดคิดจากรถแข่งของ Mike Hawthorn ได้ขับตัดหน้ารถของ Lance Macklin เพื่อเข้าพิท และทาง Lance Macklin ก็ตัดสินใจเบี่ยงรถออกไปทางด้านซ้ายเพื่อที่จะหลบให้พ้น แต่กลับเป็นหายนะครั้งใหญ่เพราะท้ายรถไปชนเข้ากับหน้ารถของ Pierre Leveh ที่อยู่ซ้ายสุดและขับมาอย่างรวดเร็ว กระแทกจนบินเหินข้ามแทร็คพุ่งเข้าโซนผู้ชมด้านข้างสนาม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 84 คน และมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 120 คน
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ประเทศสวิตเซอร์แลนด์จึงตัดสินใจห้ามมีการจัดการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตจนถึงทุกวันนี้