VESPA GTS SERIES พรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาลี พร้อมทลายขีดจำกัดทุกการขับขี่
VESPA GTS SERIES
ปรากฎการณ์โฉมใหม่พร้อมทลายขีดจำกัดทุกการขับขี่ จากการผสมผสานสไตล์ยูนีคเหนือระดับ สู่เทคโนโลยีสุดล้ำ ด้วยคาแรคเตอร์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร
“เวสป้า” เปิดตัวพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์เจนเนอร์เรชั่นล่าสุดจากตระกูลจีทีเอส (GTS) ดีกรีสกู๊ตเตอร์ตัวท็อประดับมาสเตอร์พีช กับ “VESPA GTS SERIES” นำเสนอภาพจำครั้งใหม่ที่โดดเด่นกว่าเดิม ทั้งตัวตน สไตล์ คาแรคเตอร์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสานเข้ากับเครื่องยนต์ทรงสมรรถนะเอกสิทธิ์เฉพาะสกู๊ตเตอร์จากกลุ่มพิอาจิโอ (Piaggio Group) ที่จะทำให้สกู๊ตเตอร์จากตระกูลจีทีเอสในเจนเนอร์เรชั่นนี้ ทลายขีดจำกัดของการขับขี่รูปแบบเดิมๆ สู่อิสระแห่งการขับขี่ครั้งใหม่อย่างมีสไตล์
ภายใต้คอนเซปต์ UNSTOPPABLE GREATNESS ที่สุดแห่งประสบการณ์การขับขี่ สกู๊ตเตอร์ตระกูลจีทีเอส (GTS) สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ และไลฟ์สไตล์อันโดดเด่น เพราะนี่คือสกู๊ตเตอร์ที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนา ทลายทุกนิยามการขับขี่ นับเป็นครั้งแรกของสกู๊ตเตอร์ตระกูล GTS ที่มีสีสันให้เลือกมากกว่า 7 เฉดสี ผลลัพธ์แห่งสมดุลระหว่างความคลาสสิก และความล้ำสมัย สะท้อนตัวตนผ่านเส้นสายโครงรถไปจนถึงรายละเอียดปลีกย่อยในทุกมิติ รวมถึงคุณภาพของการประกอบที่ได้รับการยกระดับอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยในซีรี่ส์นี้แบ่งออกเป็น 3 รุ่น ที่ต่างมีจิตวิญญาณเฉพาะตัว VESPA GTS SUPERSPORT 150 I-GET ABS สกู๊ตเตอร์มาดเท่ ตอบโจทย์ผู้หลงใหลสไตล์สปอร์ต VESPA GTS 300 HPE รุ่นคลาสสิก ที่มอบความเรียบง่ายแต่หรูหรา และ VESPA GTS SUPER TECH 300 HPE อัดแน่นด้วยสมรรถนะ และเทคโนโลยีสุดล้ำ
ด้านการออกแบบที่โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่คลาสสิก และความยูนีคอันเป็นสไตล์ระดับตำนานผ่านมิติตัวรถ เวสป้ายังให้ความสำคัญกับการออกแบบตามหลักการยศาสตร์(Ergonomics) สร้างความสะดวกสบายสูงสุดแก่ผู้ขับขี่ในทุกสรีระ การดีไซน์ตัวรถให้มีขนาดใหญ่โอบรับกับผู้ใช้งาน เบาะนั่งแบบใหม่ที่เสริมท่วงท่าของผู้ขับขี่ และผู้โดยสารให้ผ่อนคลายยิ่งขึ้น รวมถึงระยะของที่วางเท้ากับพื้นถนนที่ทำให้การขึ้น-ลง หรือควบคุมรถขณะหยุดนิ่งเป็นเรื่องง่าย พร้อมรับรองการขับขี่ระยะทางไกลอย่างมีประสิทธิภาพ
มาพร้อมขุมกำลังทรงสมรรถนะ เครื่องยนต์ 150 I-GET ABS สูบเดี่ยว และ 300 HPE (High Performance Engine) เทคโนโลยีล่าสุดจาก Piaggio Group ซึ่งช่วยส่งกำลังอย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และช่วยลดการเกิดมลพิษ โครงสร้างด้านในยังคงมาตรฐานการผลิตด้วยโครงเหล็กทั้งคัน นอกเหนือจากการเป็นวัสดุที่ยั่งยืน ยังสามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100% ในเรื่องความคงทน แข็งแรง ตอบโจทย์ผู้ขับขี่ได้อย่างไร้ที่ติ ด้านความความปลอดภัย ยังคงรูปแบบเลย์เอาท์แขนเดี่ยวแบบเดิม เปลี่ยนกันสะเทือนด้านหน้าใหม่ทั้งหมด ช่วยให้รถมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในระหว่างที่ผู้ขับขี่ทำความเร็ว จะช่วยเสริมความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้คล่องแคล่ว ตอบสนองการบังคับทิศทางได้อย่างใจ เพื่อทำให้ทุกการเดินทางคล่องตัวมากที่สุด
นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งระบบไร้กุญแจ (Keyless system) ทำให้ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องไขกุญแจเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ เปิดเบาะที่นั่ง หรือล็อคคอรถแบบเดิมอีกต่อไป เพียงแค่ผู้ขับขี่นำรีโมทคอนโทรลใส่ไว้ในกระเป๋า โดยโฉมใหม่นี้ คือการสะท้อนตัวตน และดื่มด่ำในคุณค่าของความสง่างาม ความดึงดูดใจ ความสดใหม่ และอิสระ นั่นจึงเป็นเหตุผลให้สกู๊ตเตอร์ในซีรี่ส์นี้มีให้เลือกถึง 3 รุ่นด้วยกัน ซึ่งแต่ละรุ่นก็ต่างสะท้อนจิตวิญญาณเฉพาะตัว และไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ได้อย่างชัดเจน
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Motorcycle Magazine