1954 BMW R51/3 & 1995 BMW R100GS-PD
1954 BMW R51/3 & 1995 BMW R100GS-PD
สตอรี่ “ทางฝุ่น” ไม้ต่อภารกิจ “สายลุย”
“หน้ากระบอก-หลังสไลด์” นี่แหละทายาทรถ “ทางฝุ่น-โทรฟี” บทย้ำส่งท้ายขบวน ภายใต้เครื่องหมายการค้าของ Bayerische Motoren Werke จากรุ่น สู่รุ่น ภารกิจ “พิชิตแชมป์” ยังต่อยอด จาก ISDT…ถึง…Paris Dakar นี่คือวิวัฒนาการความคิด…ที่…เกิดขึ้น ไม่แพ้หลักไมล์ที่แสดงผลลัพธ์ผ่านหน้าจอวนแบบ…อนาล็อก…!?!?!
วิวัฒนาการของเครื่องยนต์ Flat-Twin “บล็อก R” ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เหตุผลง่ายๆ เครื่องนอน ลมปะทะเสื้อสูบโดยตรง จะถนน จะออฟโรด ก็ให้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน แถมรอบเครื่องยนต์ต่ำ แรงทอร์คก็ยังหนัก ขุมพลังที่มีให้เลือกสรรตั้งแต่ 500-1,200 ซี.ซี.
1954 BMW R51/3
R51/3 คือรถเจเนอเรชั่น “ท้ายสุด” ของ BMW ที่อิงแบบผลิตดั้งเดิมในแบบรถ “หน้ากระบอก-เฟรมหลังสไลด์” นวัตกรรมใหม่เอี่ยมที่เรียกอย่างเป็นทางการ “เทเลสโคปิก แอบซอร์บ” ส่วน “หลังสไลด์” บ้านเรากลับเรียกขานกันอย่างนั้น ระบบรับแรงหลัง ที่วางแกนเพลาล้อหลังเข้าไว้กับแนวกระบอกไฮดรอลิก พร้อมติดตั้งคอยล์สปริงในปลอกเดียวกัน มันนิ่มนวล มั่นคงขึ้น และโรงงานเรียกขานในชื่อทางการว่า “Telescopic suspension” โครงสร้างแบบใหม่นี้ ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 5…ก่อน…ปิดท้ายด้วยความนิ่มนวลบนบอดี้ของ R50 ในชื่อสามัญว่า “โช้คสวิงอาร์ม” ในปี 1955
ขุมพลังภายใต้รหัสเครื่องยนต์ที่สะอาดตาว่า “บล็อก R” ที่ผลิตออกจำหน่ายทั้ง ระบบไซด์วาล์ว (SV) และ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) R51/3 ถูกผลิตภายใต้พื้นฐานของเครื่องยนต์โมเดล R51 ที่เปิดตัวในปี 1938 ด้วยปริมาตรกระบอกสูบ/ช่วงชักที่ 68/68 มม. ทว่า วิศวกรก็ไม่ลืมพัฒนาในเรื่องของ “รอบเครื่องยนต์” ที่เพิ่มขึ้นจาก 5,600 รอบ/นาที เป็น 5,800 รอบ/นาที ที่ 24 แรงม้า จะเรียกว่า…นี่…เป็นเสมือนการจับเอาทั้ง R51, R51/2 มาอัพเกรดก็เห็นจะได้ ซึ่ง R51/3 ถือโอกาสลอง “ชุดไฟ” ตัวใหม่จากค่ายพันธมิตรในนามของ Noris
R51/3 เอง ยังถูกแบ่งออกเป็น 2 เวอร์ชั่นด้วยกัน 1951-1953 รถหน้ากระบอกปลอกโช้คเหล็ก ดุมเสี้ยว ถูกแทนที่ด้วยโช้คอัพหน้าปลอกยางย่นกันฝุ่น กับ “ดุมเต็ม” ขนาด 200 มม. มันสวยงาม ทันสมัย และเติมเต็มส่วนที่ขาดหายให้สมบูรณ์แบบอย่างที่…ต้องการ…!?!?!
เรียบๆ ไมล์กลมฝังบนกะโหลก…4 ทศวรรษผ่านไป งานแสดงผลหน้าจอเปลี่ยนไปเยอะ มาตรวัดครบครัน แต่ยังคงเป็น “แอนะล็อก” ดูคลาสสิกได้ยุค’90
1987-1995 BMW R100GS-PD
“รถพิเศษ” ที่สร้างสำหรับ “ภารกิจพิเศษ” นี่คือ “ออฟโรด” สายพันธุ์แท้ที่สร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์ “นักบิดขาลุย” ที่ทุกช่วงของชีวิตนั้นพิสมัยคำว่า “ผจญภัย” จากรูปแบบการผลิตที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1980 ในรุ่น R80GS ชื่อเสียงของ BMW ก็ก้าวขึ้นมาโดดเด่นในเส้นทางสายออพโรดนี้อย่างจริงจัง…Gelände Straße (GS/ในความหมายที่ชัดเจนว่า Off Road) มาพร้อมชุดโช้คอัพหน้าที่ยาวขึ้น และให้การยุบตัวที่มากขึ้น ล้อหน้าขนาดใหญ่ตั้งแต่ 19-21 นิ้ว ความลงตัวสำหรับพิชิตเส้นทางเฉพาะ และมีให้เลือกสรรทั้งเครื่องยนต์แบบ ซิงเกิล-ทวิน รวมถึงระบบระบายความร้อนที่เป็นทั้ง หม้อน้ำ-อากาศ ตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน
หากคิดว่าเวอร์ชั่น GS ธรรมดานั้นไม่ตอบโจทย์ เวอร์ชั่นพิเศษสุดๆ ถูกปรับเซ็ต “PD” (Paris-Dakar) รถฉลองแชมป์หลังจากที่ BMW R80GS ชนะการแข่งขัน Paris-Dakar Rally ภาพลักษณ์ที่สะดุดตามาพร้อมถังน้ำมันขนาดใหญ่ (24 ลิตรเป็น 35 ลิตร) กับกราฟิกโหดๆ ลายทะเลทราย โดยทำออกมาทั้ง 2 เวอร์ชั่นคือ R80GS-PD (เครื่องยนต์ 797.5 ซี.ซี.) และ R100GS-PD (เครื่องยนต์ 980 ซี.ซี.) ก็ยังเป็นโมเดลท็อปฮิต ที่ยังมีไม่พอ…ความต้องการ!!!
ระบบ “เพลาขับ” เอกลักษณ์ที่ BMW ยังคงยึดมั่น จะ “เพลาเปลือย” หรือ “เพลาซ่อน” ก็ได้แต้มต่อเรื่องการบำรุงรักษา กันฝุ่น เกล็ดหิน ไม่ต้องหยอดน้ำมัน แถมช่วยให้ชุดหลังนั้นดูสะอาดตา ไม่มีน้ำมันดีดล้อให้เสียจริต
ณัฐพงษ์ สุธรรมโชติ “ตั้ม บีเอ็มฯ”
“ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ชื่อของ BMW คือแบรนด์ที่รัก หน้าตา การใช้งาน ยังคงตอบโจทย์ของผมได้ นี่คือแบรนด์วินเทจที่ยังคงใช้งานได้ไร้ที่ติ แม้บางคันจะมีอายุเลยเกษียณมาแล้วก็ตาม BMW ทำรถออกมาตอบสนองได้ทุกการใช้งาน เลือกให้ลงตัว ดูที่การใช้งาน แล้วเขาจะพาคุณไปในทุกที่ที่ต้องการ นี่คือสุนทรียของการขับขี่อย่างแท้จริง แล้วเรื่อง “ราคา” จะเป็นปัจจัยรองในการตัดสินใจ ที่คุณจะมี BMW ไว้ในครอบครอง”